xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนฯหารือลดเงินสมทบ แลกแบงก์พยุงดบ.ฝาก-ลดกู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - สถาบันคุ้มครองเงินฝากระบุหากลดเงินนำส่งเข้ากองทุน แบงก์ต้องดูแลผู้ฝากเงินโดยเฉพาะในส่วนที่ต้องพึ่งพารายได้จากดอกเบี้ย และลดดอกเบี้ยกู้ให้ผู้ประกอบการ ซึ่งหากลดจริงจะดำเนินการไม่ทันงวดมิ.ย.นี้ เหตุต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาก่อน

นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เปิดเผยว่า ขณะนี้นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) อยู่ระหว่างหารือกับผู้บริหารของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินถึงการพิจารณาความเหมาะสมในการปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝาก จากเดิมที่นำส่งในอัตรา 0.4% ของฐานเงินฝากแต่ละแห่ง เนื่องจากสถาบันการเงินต้องการขอลดภาระในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหาและแนวโน้มของการปล่อยสินเชื่อไม่เติบโตเหมือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หากจะปรับลดการนำส่งเงินเข้ากองทุนจะถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาตามพ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากที่มีผลบังคับใช้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีการกำหนดอัตราไว้ชัดเจน ซึ่งหากจะดำเนินการจริงคงต้องใช้เวลาและไม่ทันในช่วงกลางปีนี้โดยอาจเป็นงวดสิ้นปีนี้มากกว่า

อย่างไรก็ตาม การนำส่งเงินเข้ากองทุนของสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกงวดแรกเดือนธ.ค. 51 อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงของการถ่ายโอนอำนาจมาจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน โดยงวดเดือนมิ.ย.นี้น่าจะมีการนำส่งประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยคำนวณจากานเงินฝากในระบบสถาบันการเงิน 7 ล้านล้านบาท และคิดที่ 0.2% ทุก 6 เดือน

"การลดเงินนำส่งเข้ากองทุนของสถาบันการเงินนั้น คงต้องดูว่าก่อให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มใดหากภาระของแบงก์ลดลงแล้ว ก็ควรดุแลในส่วนของผู้ฝากเงินที่พึ่งพารายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก เช่น กลุ่มเกษียณอายุ ซึ่งเห็นว่าดอกเบี้ยออมทรัพย์ไม่ควรจะต่ำไปมากกว่านี้ ขณะที่ควรมีบทบาทในการสนับสนุนสินเชื่อให้ผู้ประกอบการมากกว่าที่ผ่านมา รวมถึงการปรับลดดอกเบี้ยลงด้วย"นายสิงหะกล่าวและว่าในส่วนของธนาคารกรุงไทยนั้น คงไม่สามารถตัดส่วนของเงินฝากของหน่วยงานราชการออกจากเงินฝากปกติได้ตามที่ขอมา เพราะตามพ.ร.บ.ถือว่าเป็นฐานเงินฝากรวมที่ต้องนำมาคำนวณเม็ดเงินนำส่งเข้ากองทุนเหมือนกับธนาคารอื่นๆ จึงทำให้ธนาคารกรุงไทยอาจต้องมีภาระการนำส่งมากกว่าธนาคารอื่นๆ"
กำลังโหลดความคิดเห็น