ทีทีเอเอตอบรับนโยบายรัฐ โครงการแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวไทยกับอาเซียน ผนึกพันธมิตรจัดงาน จับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ หวังคนเข้าชมงานกว่า 50,000 คน
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอบรับกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้เกิดการท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนกันระหว่างประเทศไทยกับประเทศในอาเซียน จึงได้จัดงานอาเซียน + 3 ทราเวล แฟร์ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 28-31 พ.ค.นี้ โดยร่วมมือกับทางบริษัท บัตรเครดิตกรุงไทย หรือ เคทีซี และบริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสเอเชีย จัดงานขึ้น ซึ่งคาดหวังว่าเมื่อคนไทยไปเที่ยวมากขึ้นก็จะส่งผลให้คนในประเทศอาเซียนมาเที่ยวไทยมากขึ้นด้วย
“เราวางแผนจัดงานนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าจะได้ช่วยให้สมาชิกมีงานในการระบายสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวได้บ้าง เพราะว่าสถานการณ์ตอนนี้ตลาดท่องเที่ยวของไทยเราซบเซามาก ซึ่งถ้าหากว่าเราไม่ทำหรือไม่จัดงานอะไรเลยก็จะยิ่งแย่ไปกว่านี้อีก”
สำหรับงานนี้จะเป็นงานที่จับตลาดเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย แบบนิชมาร์เก็ต สำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวเฉพาะประเทศในอาเซียนจริงๆ จึงคาดว่าจะมีคนมาเที่ยวงานไม่มากนัก ประมาณ 50,000 คน และมีผู้ประกอบการเข้าร่วมมากกว่า 140 ราย โดยใช้งบประมาณในการจัดงานกว่า 8 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายเจริญ เคยกล่าวไว้ว่า ในปีนี้วางแผนที่จะใช้งบประมาณกว่า 50-60 ล้านบาท เพื่อจัดงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวประมาณ 3-4 งาน เพื่อกระตุ้นตลาด และล้วนแต่เป็นงานที่จับกลุ่มเป้าหมายย่อยทั้งสิ้น มีรูปแบบและโทนแตกต่างกันไป เพื่อให้แต่ละงานตรงกับกลุ่มเป้าหมายจริงๆ ตั้งเป้าหมายว่าทั้งปี จะสามารถทำยอดขายแพ็กเกจเที่ยวต่างประเทศเท่ากับปี 51 หรือลดลงเพียง 7-8%
โดยแผนงานต่อจากนี้ ทางสมาคมฯยังเตรียมที่จะจัดงานขายแพ็กเกจท่องเที่ยวตามรอยพระพุทธศาสนา ประเทศอินเดีย บังคลาเทศ เนปาล ปากีสถาน และพม่า การเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ที่จะจัดในนามสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) เดือน ส.ค.นี้ และงานขายแพ็กเกจท่องเที่ยวตลาดระยะไกล เป็นต้น
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอบรับกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้เกิดการท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนกันระหว่างประเทศไทยกับประเทศในอาเซียน จึงได้จัดงานอาเซียน + 3 ทราเวล แฟร์ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 28-31 พ.ค.นี้ โดยร่วมมือกับทางบริษัท บัตรเครดิตกรุงไทย หรือ เคทีซี และบริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสเอเชีย จัดงานขึ้น ซึ่งคาดหวังว่าเมื่อคนไทยไปเที่ยวมากขึ้นก็จะส่งผลให้คนในประเทศอาเซียนมาเที่ยวไทยมากขึ้นด้วย
“เราวางแผนจัดงานนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าจะได้ช่วยให้สมาชิกมีงานในการระบายสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวได้บ้าง เพราะว่าสถานการณ์ตอนนี้ตลาดท่องเที่ยวของไทยเราซบเซามาก ซึ่งถ้าหากว่าเราไม่ทำหรือไม่จัดงานอะไรเลยก็จะยิ่งแย่ไปกว่านี้อีก”
สำหรับงานนี้จะเป็นงานที่จับตลาดเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย แบบนิชมาร์เก็ต สำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวเฉพาะประเทศในอาเซียนจริงๆ จึงคาดว่าจะมีคนมาเที่ยวงานไม่มากนัก ประมาณ 50,000 คน และมีผู้ประกอบการเข้าร่วมมากกว่า 140 ราย โดยใช้งบประมาณในการจัดงานกว่า 8 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายเจริญ เคยกล่าวไว้ว่า ในปีนี้วางแผนที่จะใช้งบประมาณกว่า 50-60 ล้านบาท เพื่อจัดงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวประมาณ 3-4 งาน เพื่อกระตุ้นตลาด และล้วนแต่เป็นงานที่จับกลุ่มเป้าหมายย่อยทั้งสิ้น มีรูปแบบและโทนแตกต่างกันไป เพื่อให้แต่ละงานตรงกับกลุ่มเป้าหมายจริงๆ ตั้งเป้าหมายว่าทั้งปี จะสามารถทำยอดขายแพ็กเกจเที่ยวต่างประเทศเท่ากับปี 51 หรือลดลงเพียง 7-8%
โดยแผนงานต่อจากนี้ ทางสมาคมฯยังเตรียมที่จะจัดงานขายแพ็กเกจท่องเที่ยวตามรอยพระพุทธศาสนา ประเทศอินเดีย บังคลาเทศ เนปาล ปากีสถาน และพม่า การเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ที่จะจัดในนามสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) เดือน ส.ค.นี้ และงานขายแพ็กเกจท่องเที่ยวตลาดระยะไกล เป็นต้น
