เอเอฟพี/รอยเตอร์ – มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นรายแรก ขณะที่องค์การอนามัยโลกเพิ่มยอดผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วทั่วโลกอีกกว่า 1 พันรายภายในวันเดียว เป็น 7,520 รายแล้ว ประเทศซึ่งมีผู้ป่วยเพิ่มมากที่สุดยังคงเป็นสหรัฐฯ โดยที่นครนิวยอร์กมีการสั่งปิดโรงเรียน 3 แห่ง หลังพบมีผู้ล้มป่วยสูงผิดปกติ
**มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อรายแรก**
มาเลเซียกลายเป็นประเทศอาเซียนชาติที่สองต่อจากไทย ซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยรายนี้อยู่ในระหว่างการรักษาตัว อีกทั้งมีความเป็นไปได้ว่า เชื้ออาจจะแพร่ต่อไปยังอินโดนีเซีย
รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข คงโชฮา ของมาเลเซีย แถลงวานนี้ว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นนักศึกษาชายวัย 21 ปี ซึ่งเดินทางมาถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์โดยเที่ยวบินจากสหรัฐฯเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ผู้ป่วยลงจากเครื่องบินโดยที่ในวันรุ่งขึ้นก็มีอาการเป็นไข้ เจ็บคอ และปวดเนื้อปวดตัว และได้ถูกรับเข้าไปยังสถานกักกันโรค สุไหง บูล็อก ในรัฐสลังงอร์ในคืนวันเดียวกัน เวลานี้เขามีอาการคงที่แล้ว
คงบอกว่ากำลังติดตามผู้โดยสารที่อยู่ในเครื่องบินลำเดียวกับคนป่วยผู้นี้ โดยที่หวั่นเกรงกันว่าอาจมีผู้โดยสารบางคนเดินทางต่อไปยังอินโดนีเซียแล้ว เนื่องจากเที่ยวบินจากสหรัฐฯดังกล่าว เป็นเที่ยวบินร่วมของสายการบินการูดา ของอินโดนีเซียด้วย
นอกจากมาเลเซียแล้ว เปรูก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เพิ่งแถลงว่าพบผู้ติดเชื้อเป็นรายแรก
**อนามัยโลกบอกผู้ป่วยพุ่งกว่าพันในวันเดียว**
องค์การอนามัยโลกแถลงวานนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอ(เอช1เอ็น1) ที่ยืนยันแล้วทั่วโลก ได้เพิ่มขึ้นเป็น 7,520 รายแล้ว โดยเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1,000 รายในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นมี 65 ราย ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกบอกว่า พบผู้ติดเชื้อใน 34 ประเทศ ซึ่งหากรวม 2 ประเทศที่เพิ่งพบใหม่คือ มาเลเซีย และเปรู ก็จะกลายเป็น 36 ประเทศ
เมื่อวันพฤหัสบดี องค์การอนามัยโลกเพิ่งรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อ 6,497 ราย ใน 33 ประเทศ
**นิวยอร์กสั่งปิดโรงเรียน**
ทางการนครนิวยอร์กออกคำสั่งเมื่อวานนี้ ปิดโรงเรียน 3 แห่งซึ่งต่างอยู่ในเขตควีนส์ และมีนักเรียนรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 4,500 คน โดยผู้ว่าการนครนิวยอร์ก ไมเคิล บลูมเบิร์ก กล่าวว่า ที่ต้องสั่งปิดก็เนื่องจาก “มีการเจ็บป่วยด้วยอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่เป็นจำนวนสูงอย่างผิดปกติ”
บลูมเบิร์กบอกด้วยว่า นักเรียนที่ล้มป่วยจำนวน 4 คนของโรงเรียนที่ถูกสั่งปิดคราวนี้แห่งหนึ่ง ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมทั้งเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของโรงเรียนแห่งหนึ่งที่กำลังนอนป่วยอาการหนักอยู่ในโรงพยาบาล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของนิวยอร์กหลายรายให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่โรงเรียนที่กล่าวถึงมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่
สำหรับผู้ติดเชื้อในทั่วทั้งประเทศนั้น พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านสาธารณสุขระดับชาติของสหรัฐฯได้แถลงในวันพฤหัสบดี(14)ว่า มีผู้ติดเชื้อซึ่งยืนยันแน่นอนแล้วเพิ่มขึ้นจาก 3,352 ราย เป็นมากกว่า 4,298 ราย
**อนามัยโลกเตือนไวรัสอาจผสมกับหวัดนกในเอเชียอาคเนย์**
มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนเมื่อวานนี้ว่า ไม่ควรรู้สึกว่าปลอดภัยแล้วจากการที่เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอ (เอช1เอ็น1)นี้ ทำท่าจะลดทอนเบาบางลง อีกทั้งดูเหมือนจะระบาดไม่ร้ายแรงอะไร ทั้งนี้เธอบอกว่าไวรัสนี้อาจจะยังไม่ทันออกฤทธิ์ร้ายแรงถึงที่สุด โดยที่ยังคงมี “ความไม่แน่นอนอย่างใหญ่หลวง” เกี่ยวกับอันตรายของไวรัสสายพันธุ์นี้ เฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชานบอกว่าองค์การอนามัยโลกกำลังเฝ้าจับตามอย่างใกล้ชิดตามส่าวนต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเคยเป็นที่ระบาดใหญ่ของไวรัสไข้หวัดนกเอช5เอ็น1
หากเชื้อเอช1เอ็น1เกิดมีการผสมกับเอช5เอ็น1 ก็อาจจะเกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงได้ เธอกล่าว แต่ขณะเดียวกันก็ย้ำว่า “ดิฉันไม่ได้กำลังพูดว่ามันจะเกิดขึ้นนะ”
**มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อรายแรก**
มาเลเซียกลายเป็นประเทศอาเซียนชาติที่สองต่อจากไทย ซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยรายนี้อยู่ในระหว่างการรักษาตัว อีกทั้งมีความเป็นไปได้ว่า เชื้ออาจจะแพร่ต่อไปยังอินโดนีเซีย
รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข คงโชฮา ของมาเลเซีย แถลงวานนี้ว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นนักศึกษาชายวัย 21 ปี ซึ่งเดินทางมาถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์โดยเที่ยวบินจากสหรัฐฯเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ผู้ป่วยลงจากเครื่องบินโดยที่ในวันรุ่งขึ้นก็มีอาการเป็นไข้ เจ็บคอ และปวดเนื้อปวดตัว และได้ถูกรับเข้าไปยังสถานกักกันโรค สุไหง บูล็อก ในรัฐสลังงอร์ในคืนวันเดียวกัน เวลานี้เขามีอาการคงที่แล้ว
คงบอกว่ากำลังติดตามผู้โดยสารที่อยู่ในเครื่องบินลำเดียวกับคนป่วยผู้นี้ โดยที่หวั่นเกรงกันว่าอาจมีผู้โดยสารบางคนเดินทางต่อไปยังอินโดนีเซียแล้ว เนื่องจากเที่ยวบินจากสหรัฐฯดังกล่าว เป็นเที่ยวบินร่วมของสายการบินการูดา ของอินโดนีเซียด้วย
นอกจากมาเลเซียแล้ว เปรูก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เพิ่งแถลงว่าพบผู้ติดเชื้อเป็นรายแรก
**อนามัยโลกบอกผู้ป่วยพุ่งกว่าพันในวันเดียว**
องค์การอนามัยโลกแถลงวานนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอ(เอช1เอ็น1) ที่ยืนยันแล้วทั่วโลก ได้เพิ่มขึ้นเป็น 7,520 รายแล้ว โดยเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1,000 รายในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นมี 65 ราย ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกบอกว่า พบผู้ติดเชื้อใน 34 ประเทศ ซึ่งหากรวม 2 ประเทศที่เพิ่งพบใหม่คือ มาเลเซีย และเปรู ก็จะกลายเป็น 36 ประเทศ
เมื่อวันพฤหัสบดี องค์การอนามัยโลกเพิ่งรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อ 6,497 ราย ใน 33 ประเทศ
**นิวยอร์กสั่งปิดโรงเรียน**
ทางการนครนิวยอร์กออกคำสั่งเมื่อวานนี้ ปิดโรงเรียน 3 แห่งซึ่งต่างอยู่ในเขตควีนส์ และมีนักเรียนรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 4,500 คน โดยผู้ว่าการนครนิวยอร์ก ไมเคิล บลูมเบิร์ก กล่าวว่า ที่ต้องสั่งปิดก็เนื่องจาก “มีการเจ็บป่วยด้วยอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่เป็นจำนวนสูงอย่างผิดปกติ”
บลูมเบิร์กบอกด้วยว่า นักเรียนที่ล้มป่วยจำนวน 4 คนของโรงเรียนที่ถูกสั่งปิดคราวนี้แห่งหนึ่ง ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมทั้งเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของโรงเรียนแห่งหนึ่งที่กำลังนอนป่วยอาการหนักอยู่ในโรงพยาบาล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของนิวยอร์กหลายรายให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่โรงเรียนที่กล่าวถึงมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่
สำหรับผู้ติดเชื้อในทั่วทั้งประเทศนั้น พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านสาธารณสุขระดับชาติของสหรัฐฯได้แถลงในวันพฤหัสบดี(14)ว่า มีผู้ติดเชื้อซึ่งยืนยันแน่นอนแล้วเพิ่มขึ้นจาก 3,352 ราย เป็นมากกว่า 4,298 ราย
**อนามัยโลกเตือนไวรัสอาจผสมกับหวัดนกในเอเชียอาคเนย์**
มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนเมื่อวานนี้ว่า ไม่ควรรู้สึกว่าปลอดภัยแล้วจากการที่เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอ (เอช1เอ็น1)นี้ ทำท่าจะลดทอนเบาบางลง อีกทั้งดูเหมือนจะระบาดไม่ร้ายแรงอะไร ทั้งนี้เธอบอกว่าไวรัสนี้อาจจะยังไม่ทันออกฤทธิ์ร้ายแรงถึงที่สุด โดยที่ยังคงมี “ความไม่แน่นอนอย่างใหญ่หลวง” เกี่ยวกับอันตรายของไวรัสสายพันธุ์นี้ เฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชานบอกว่าองค์การอนามัยโลกกำลังเฝ้าจับตามอย่างใกล้ชิดตามส่าวนต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเคยเป็นที่ระบาดใหญ่ของไวรัสไข้หวัดนกเอช5เอ็น1
หากเชื้อเอช1เอ็น1เกิดมีการผสมกับเอช5เอ็น1 ก็อาจจะเกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงได้ เธอกล่าว แต่ขณะเดียวกันก็ย้ำว่า “ดิฉันไม่ได้กำลังพูดว่ามันจะเกิดขึ้นนะ”