00 ก่อนจะเข้าเรื่อง ก็ต้องเริ่มถามก่อนว่า การเมืองไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต หรือไปไกลถึงขนาดทั้งชาตินี้และชาติหน้า ถ้าขาด เสนาะ เทียนทอง กับ บรรหาร ศิลปอาชา ไปสักคนหนึ่งหรือทั้งคู่ คิดว่ามันจะลำบากลำบนกันสักขนาดไหน การเมืองไทยจะถือว่าขนาดบุคลากรอันสำคัญยิ่ง รวมไปถึงเราจะคิดว่าทั้งคู่เป็นนักการเมืองผู้ซื่อสัตย์ หาใครมาเทียบเทียมไม่ได้ ถ้าขาดไปบ้านเมืองต้อง “ฉิบหาย” ล่มจมกระนั้นหรือ
00 ในทางตรงกันข้าม ถ้าขาด “เสนาะ-บรรหาร” จะดีหรือไม่ จะพัฒนาไปในทางบวกหรือไม่ หรือจะทำให้นักการเมืองไดโนเสาร์สายพันธุ์หนึ่งต้องสลายไปจะดีหรือไม่ อาจจะยังไม่มีคำตอบตอนนี้ แต่ให้คนไทยทุกคนลองนึกดูกันเล่นๆ แล้วย้อนดูบทบาทและพฤติกรรมแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันของทั้งสองคน ให้ค่อยๆหลับตานึกทบทวนความจำไปเรื่อยๆ แล้วจะเห็นแจ้งด้วยตาตัวเอง แต่เอาเป็นว่านาทีนี้ ทั้ง เสนาะ-บรรหาร สมควรหยุดนิ่ง เพื่อสงบอารมณ์ชั่วคราว อย่าให้คนเขาค่อนขอดเอาว่า “แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน” อีกต่อไปเลย !!
00 วกมาเข้าเรื่องกันเสียที และต้องย้ำกันเป็นครั้งที่ร้อย ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มี เป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองล้วนๆ แถมนักการเมืองที่กำลังออกอาการ “ทุเรศ” กันอยู่นั้น ยังเป็นนักการเมืองประเภทชั่วๆ เสียอีก เพราะตลอดเวลาเกือบทั้งชีวิต ตั้งแต่เข้ามาสู่วงการเมือง บางคนไต่เต้ามาจากการเมืองท้องถิ่น มาจนถึงระดับชาติ ล้วนมีแต่เรื่องวิ่งเต้น หาเศษหาเลยกับโครงการประมูลกับหน่วยราชการ
00 นักการเมืองบางคนเอาเงินภาษีของประชาชนมาก่อสร้างสถานที่ต่างๆ มากมาย แต่ดันเอาชื่อตัวเองกับเมียไปแปะหรา หาบุญคุณกับสังคมเสียอีก ทั้งที่ได้กินเปอร์เซ็นต์ ได้ค่าหัวคิวไปเต็มคราบแล้ว หรือบางคนค้าของเถื่อนตามชายแดน ขนาด“ธรณีสงฆ์” ยังเคยเบียดบังเอามาเป็นประโยชน์หน้าตาเฉย นับประสาอะไรกับเรื่องอื่นๆ
00 นี่ขนาดกำหนดข้อห้ามเอาไว้เป็นกติกาอย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญ เป็น “ยาแรง” กำราบนักการเมือง “ขี้ฉ้อ” ยังเอาไม่อยู่ มันยังใช้ฤทธิ์เดชคิดจะกลับไปเป็นอย่างเดิม หรือเมื่อทำผิดแล้ว คิดจะนิรโทษ ก็ต้องถามหน่อยว่าพวกเอ็งเป็นใคร และวิเศษมาจากไหน(วะ)
00 เที่ยวโทษคนโน้น อ้างโน่นอ้างนี่ หาว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นต้นตอทำให้บ้านเมืองแตกแยก เสียโอกาสบ้างละ สารพัด ทั้งที่ความจริงแล้วพอทำผิดแล้วถูกจับได้ เที่ยวร้องโวยวายจนน่ารำคาญ ดังนั้นกับคนพวกนี้ไม่สมควรประนีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น และทางที่ดีหากกวาดออกไปได้ แผ่นดินจะสูงขึ้นเสียด้วยซ้ำ
00 ไม่นึกว่าคนเราจะหาเรื่อง หาวิธีโกหกได้ถึงเพียงนี้ เพียงเพื่อต้องการก่อม็อบ หากินกับม็อบก็ทำกันได้ทุกทาง หลายคนคงรู้สึกสมเพชกับบรรดาแกนนำ “เสื้อแดง” โดยเฉพาะ“จตุพร พรหมพันธุ์” ที่พยายามสร้างประเด็นว่า นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้อยู่ในรถคันที่ถูกเสื้อแดงทุบที่กระทรวงมหาดไทย หาว่าเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมา
00 ก็ไม่รู้ว่าหัวใจมันทำด้วยอะไร ถึงได้เป็นไปถึงเพียงนี้ เอาละ ถ้านายกฯไม่ได้อยู่ในรถคันดังกล่าว แล้วเป็นไง หมายความว่าไอ้ “สุนัขแดง” ที่รุมทุบตีรถคันที่เข้าใจว่าเป็นรถนายกฯ (สมมุติ) อย่างบ้าคลั่ง แล้วมันทุบไปทำไม มีเจตนาอะไรที่ทุบไป เพราะตอนแรกเข้าใจว่านายกฯ อยู่ในนั้นหรือ
00 แล้วคนที่เป็นหัวโจกในเวลานั้นอย่าง “สุภรณ์ อัตถาวงศ์” มันเป็นตัวปลอมอย่างนั้นหรือ กรณีของ“อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง” ที่อาสานำคนไปล้มวงประชุมอาเซียนซัมมิท ที่พัทยา ก็เป็นตัวปลอมใส่ “หน้ากาก” เข้ามาหรือมีการสร้างเรื่องหลอกล่อให้เข้าไปในโรงแรมอย่างนั้นใช่หรือเปล่า ขาก ทุด !!
00 ในทางตรงกันข้าม ถ้าขาด “เสนาะ-บรรหาร” จะดีหรือไม่ จะพัฒนาไปในทางบวกหรือไม่ หรือจะทำให้นักการเมืองไดโนเสาร์สายพันธุ์หนึ่งต้องสลายไปจะดีหรือไม่ อาจจะยังไม่มีคำตอบตอนนี้ แต่ให้คนไทยทุกคนลองนึกดูกันเล่นๆ แล้วย้อนดูบทบาทและพฤติกรรมแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันของทั้งสองคน ให้ค่อยๆหลับตานึกทบทวนความจำไปเรื่อยๆ แล้วจะเห็นแจ้งด้วยตาตัวเอง แต่เอาเป็นว่านาทีนี้ ทั้ง เสนาะ-บรรหาร สมควรหยุดนิ่ง เพื่อสงบอารมณ์ชั่วคราว อย่าให้คนเขาค่อนขอดเอาว่า “แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน” อีกต่อไปเลย !!
00 วกมาเข้าเรื่องกันเสียที และต้องย้ำกันเป็นครั้งที่ร้อย ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มี เป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองล้วนๆ แถมนักการเมืองที่กำลังออกอาการ “ทุเรศ” กันอยู่นั้น ยังเป็นนักการเมืองประเภทชั่วๆ เสียอีก เพราะตลอดเวลาเกือบทั้งชีวิต ตั้งแต่เข้ามาสู่วงการเมือง บางคนไต่เต้ามาจากการเมืองท้องถิ่น มาจนถึงระดับชาติ ล้วนมีแต่เรื่องวิ่งเต้น หาเศษหาเลยกับโครงการประมูลกับหน่วยราชการ
00 นักการเมืองบางคนเอาเงินภาษีของประชาชนมาก่อสร้างสถานที่ต่างๆ มากมาย แต่ดันเอาชื่อตัวเองกับเมียไปแปะหรา หาบุญคุณกับสังคมเสียอีก ทั้งที่ได้กินเปอร์เซ็นต์ ได้ค่าหัวคิวไปเต็มคราบแล้ว หรือบางคนค้าของเถื่อนตามชายแดน ขนาด“ธรณีสงฆ์” ยังเคยเบียดบังเอามาเป็นประโยชน์หน้าตาเฉย นับประสาอะไรกับเรื่องอื่นๆ
00 นี่ขนาดกำหนดข้อห้ามเอาไว้เป็นกติกาอย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญ เป็น “ยาแรง” กำราบนักการเมือง “ขี้ฉ้อ” ยังเอาไม่อยู่ มันยังใช้ฤทธิ์เดชคิดจะกลับไปเป็นอย่างเดิม หรือเมื่อทำผิดแล้ว คิดจะนิรโทษ ก็ต้องถามหน่อยว่าพวกเอ็งเป็นใคร และวิเศษมาจากไหน(วะ)
00 เที่ยวโทษคนโน้น อ้างโน่นอ้างนี่ หาว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นต้นตอทำให้บ้านเมืองแตกแยก เสียโอกาสบ้างละ สารพัด ทั้งที่ความจริงแล้วพอทำผิดแล้วถูกจับได้ เที่ยวร้องโวยวายจนน่ารำคาญ ดังนั้นกับคนพวกนี้ไม่สมควรประนีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น และทางที่ดีหากกวาดออกไปได้ แผ่นดินจะสูงขึ้นเสียด้วยซ้ำ
00 ไม่นึกว่าคนเราจะหาเรื่อง หาวิธีโกหกได้ถึงเพียงนี้ เพียงเพื่อต้องการก่อม็อบ หากินกับม็อบก็ทำกันได้ทุกทาง หลายคนคงรู้สึกสมเพชกับบรรดาแกนนำ “เสื้อแดง” โดยเฉพาะ“จตุพร พรหมพันธุ์” ที่พยายามสร้างประเด็นว่า นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้อยู่ในรถคันที่ถูกเสื้อแดงทุบที่กระทรวงมหาดไทย หาว่าเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมา
00 ก็ไม่รู้ว่าหัวใจมันทำด้วยอะไร ถึงได้เป็นไปถึงเพียงนี้ เอาละ ถ้านายกฯไม่ได้อยู่ในรถคันดังกล่าว แล้วเป็นไง หมายความว่าไอ้ “สุนัขแดง” ที่รุมทุบตีรถคันที่เข้าใจว่าเป็นรถนายกฯ (สมมุติ) อย่างบ้าคลั่ง แล้วมันทุบไปทำไม มีเจตนาอะไรที่ทุบไป เพราะตอนแรกเข้าใจว่านายกฯ อยู่ในนั้นหรือ
00 แล้วคนที่เป็นหัวโจกในเวลานั้นอย่าง “สุภรณ์ อัตถาวงศ์” มันเป็นตัวปลอมอย่างนั้นหรือ กรณีของ“อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง” ที่อาสานำคนไปล้มวงประชุมอาเซียนซัมมิท ที่พัทยา ก็เป็นตัวปลอมใส่ “หน้ากาก” เข้ามาหรือมีการสร้างเรื่องหลอกล่อให้เข้าไปในโรงแรมอย่างนั้นใช่หรือเปล่า ขาก ทุด !!
