เมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้ (27เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่าในช่วงนี้ ตนไม่ค่อยอยากพูดหรือให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะเห็นว่าถ้าพูดอะไรไปแล้ว จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ จึงขอให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ จะดีกว่า
ทั้งนี้นายสุเทพ ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา โดยเฉพาะในด้านการรักษาความปลอดภัยว่าในเมื่อเรามีบทเรียนกันมาแล้ว ในครั้งนี้จึงจะมีการปรับแผนกันใหม่ โดยถ้านายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ตนเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ จะขอให้กระทรวงกลาโหมเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมด โดยใช้กำลังทหารทุกเหล่าและตำรวจ ทำงานแบบสนธิกำลัง ซึ่งกันและกัน ซึ่งคิดว่าถ้ามีการปรับแผนแล้ว จะทำให้ผู้นำของประเทศต่างๆ มีความมั่นใจในการเดินทางมาร่วมประชุมมากขึ้น ที่สำคัญเราจะไม่ยอมให้เหตุการณ์ที่มีการบุกสถานที่ประชุมเกิดขึ้นซ้ำสอง มิฉะนั้นประเทศไทยจะไม่มีที่ยืนบนเวทีโลก
สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลในช่วงนี้ เนื่องจากยังมีความเป็นห่วงเรื่องของการก่อวินาศกรรม และการลอบสังหารบุคคลสำคัญๆ จึงได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ และทหารสนธิกำลังร่วมกันปฏิบัติงานดูแลรักษาความปลอดภัย โดยตั้งจุดตรวจ และมีสายตรวจเคลื่อนที่ร่วมกัน เพื่อสกัดโอกาสการก่อเหตุ
ส่วนคดีการลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ นั้นนายสุเทพ ถอนหายใจก่อนตอบว่า เครียด เรื่องนี้ทำให้ตนรู้สึกเครียดอยู่ไม่น้อย แต่ยืนยันได้ว่า ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนเสื้อเหลือง และไม่ใช่ฝีมือของรัฐบาล หรือกองทัพ เพราะการกระทำดังกล่าวจะเป็นชนวนก่อให้เกิดความไม่สงบมากขึ้น ซึ่งตำรวจจะต้องตามเกมให้ทัน และทำงานให้หนัก อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาความปลอดภัยดังกล่าวคงต้องทำไปสักระยะหนึ่ง ควบคู่ไปกับการประเมินด้านการข่าวไปทุกวันๆ
ทั้งนี้นายสุเทพ ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา โดยเฉพาะในด้านการรักษาความปลอดภัยว่าในเมื่อเรามีบทเรียนกันมาแล้ว ในครั้งนี้จึงจะมีการปรับแผนกันใหม่ โดยถ้านายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ตนเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ จะขอให้กระทรวงกลาโหมเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมด โดยใช้กำลังทหารทุกเหล่าและตำรวจ ทำงานแบบสนธิกำลัง ซึ่งกันและกัน ซึ่งคิดว่าถ้ามีการปรับแผนแล้ว จะทำให้ผู้นำของประเทศต่างๆ มีความมั่นใจในการเดินทางมาร่วมประชุมมากขึ้น ที่สำคัญเราจะไม่ยอมให้เหตุการณ์ที่มีการบุกสถานที่ประชุมเกิดขึ้นซ้ำสอง มิฉะนั้นประเทศไทยจะไม่มีที่ยืนบนเวทีโลก
สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลในช่วงนี้ เนื่องจากยังมีความเป็นห่วงเรื่องของการก่อวินาศกรรม และการลอบสังหารบุคคลสำคัญๆ จึงได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ และทหารสนธิกำลังร่วมกันปฏิบัติงานดูแลรักษาความปลอดภัย โดยตั้งจุดตรวจ และมีสายตรวจเคลื่อนที่ร่วมกัน เพื่อสกัดโอกาสการก่อเหตุ
ส่วนคดีการลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ นั้นนายสุเทพ ถอนหายใจก่อนตอบว่า เครียด เรื่องนี้ทำให้ตนรู้สึกเครียดอยู่ไม่น้อย แต่ยืนยันได้ว่า ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนเสื้อเหลือง และไม่ใช่ฝีมือของรัฐบาล หรือกองทัพ เพราะการกระทำดังกล่าวจะเป็นชนวนก่อให้เกิดความไม่สงบมากขึ้น ซึ่งตำรวจจะต้องตามเกมให้ทัน และทำงานให้หนัก อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาความปลอดภัยดังกล่าวคงต้องทำไปสักระยะหนึ่ง ควบคู่ไปกับการประเมินด้านการข่าวไปทุกวันๆ