รอยเตอร์ - ภัยคุกคามจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ที่คร่าชีวิตชาวเม็กซิโกกว่า 100 คนแล้ว กลับกลายเป็นลาภลอยให้กับบริษัทผู้ผลิตยาและวัคซีนหลายแห่งด้วยกัน
บริษัทโรช โฮลดิ้ง เอจี แห่งสวิตเซอร์แลนด์ และ บริษัทแกล็กโซสมิธไคลน์ พีแอลซี แห่งอังกฤษ คือ 2 ยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์ที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากรัฐบาลและองค์กรหลายแห่งคงเพิ่มคำสั่งซื้อยา "ทามิฟลู" และ "รีเลนซา" ที่บริษัททั้งสองเป็นผู้ผลิต
ราคาหุ้นของบริษัททั้งสองยังเพิ่มขึ้น 4 และ 3 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับในการซื้อขายวานนี้(27) ส่วนราคาหุ้นของไบโอทา โฮลดิ้งส์แห่งออสเตรเลีย ซึ่งขายไลเซนส์ยารีเลนซาให้กับแกล็กโซก็พุ่งขึ้นถึง 82 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ก็เตือนว่ารายได้จากการจำหน่ายยาดังกล่าวอาจไม่สูงมากนัก เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศต่างก็สั่งซื้อยาดังกล่าวเก็บสต๊อกไว้เป็นจำนวนมากแล้วตั้งแต่เมื่อครั้งที่ไข้หวัดนกแพร่ระบาด
"แน่นอนว่าบริษัทยาคงจะได้รับประโยชน์ด้วย และอาจจะมีรายได้เพิ่มขึ้นบ้างจริง แต่จะไม่มากเท่ากับในช่วงที่ไข้หวัดนกระบาดในช่วงแรก" เจฟ โฮลฟอร์ด นักวิเคราะห์ภาคอุตสาหกรรมยา ของบริษัทโบรกเกอร์เจฟเฟอรีส์ให้ความเห็น
ทั้งนี้ ยารีเลนซาซึ่งมีชื่อสามัญว่า "ซานามิเวียร์" (zanamivir) และยาทามิฟลูซึ่งมีชื่อสามัญว่า "โอเซลทามิเวียร์" (oseltamivir) เป็นตัวยาที่ดูจะใช้ได้ผลในการต่อสู้กับไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังแพร่ระบาดในเม็กซิโก และขยายไปถึงสหรัฐฯ และนิวซีแลนด์แล้ว
บริษัทโรชแถลงว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเตรียมการเพิ่มกำลังผลิตยาทามิฟลูอยู่ แต่ระบุด้วยว่ากระบวนการตั้งแต่การสังเคราะห์ยาไปจนถึงการบรรจุยาสำหรับออกจำหน่ายได้นั้นต้องใช้เวลานานถึง 8 เดือน
"เรากำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบขั้นตอนต่างๆ ในกระบวนการทั้งหมดเพื่อดูว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้มากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ คือเราไม่สามารถทำได้ในเวลาชั่วข้ามคืน" โฆษกของโรชกล่าว
ขณะนี้องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ยังไม่ได้ขอให้โรชส่งยาจำนวน 3 ล้านเม็ดที่เตรียมไว้สำหรับใช้เป็น "แนวป้องกันไฟ" ในพื้นที่ที่เกิดการแพร่ระบาดขึ้น เนื่องจากยังมียาสำรองอยู่อีก 2 ล้านเม็ดที่โรชเคยบริจาคไว้เมื่อเกิดไข้หวัดนกระบาดคราวก่อน เพื่อให้นำไปใช้ในประเทศที่ไม่ได้เตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดได้ดีเพียงพอ
ที่ผ่านมา ยาทามิฟลูเป็นที่ต้องการมากกว่า เพราะตัวยามีลักษณะเป็นเม็ดซึ่งรับประทานได้ง่าย ในขณะที่ยารีเลนซาเป็นยาประเภทที่ใช้วิธีสูดดม ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ แกล็กโซก็สามารถจำหน่ายยารีเลนซาได้เพิ่มขึ้นเมื่อมีผู้ซื้อเพิ่มการสำรองยามากขึ้น โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2009 ยอดขายยารีเลนซาได้แซงหน้ายอดขายยาทามิฟลูไป เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศ โดยเฉพาะอังกฤษและญี่ปุ่น ได้เพิ่มคำสั่งซื้อยาดังกล่าว
ทามิฟลูเป็นยาที่คิดค้นขึ้นโดยบริษัทกิลีด ไซแอนส์ ซึ่งเป็นกิจการด้านเทคโนโลยีชีวภาพในสหรัฐฯ
การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในครั้งนี้ ยังอาจช่วยเพิ่มยอดขายวัคซีนรักษาโรคด้วยเช่นกัน ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ในขณะนี้ได้แก่ซาโนฟี-อาเวติส, แกล็กโซ, โนวาติส และแบ็กซ์เตอร์ อินเตอร์เนชันแนล แม้ว่าการผลิตวัคซีนสำหรับต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนก็ตาม
ราคาหุ้นของบริษัทโนวาแว็กซ์เพิ่มขึ้น 75 เปอร์เซ็นต์ในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ (24) เนื่องจากเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพอีกแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ และขณะนี้กำลังผลิตวัคซีนชนิดใหม่อยู่
บริษัทโรช โฮลดิ้ง เอจี แห่งสวิตเซอร์แลนด์ และ บริษัทแกล็กโซสมิธไคลน์ พีแอลซี แห่งอังกฤษ คือ 2 ยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์ที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากรัฐบาลและองค์กรหลายแห่งคงเพิ่มคำสั่งซื้อยา "ทามิฟลู" และ "รีเลนซา" ที่บริษัททั้งสองเป็นผู้ผลิต
ราคาหุ้นของบริษัททั้งสองยังเพิ่มขึ้น 4 และ 3 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับในการซื้อขายวานนี้(27) ส่วนราคาหุ้นของไบโอทา โฮลดิ้งส์แห่งออสเตรเลีย ซึ่งขายไลเซนส์ยารีเลนซาให้กับแกล็กโซก็พุ่งขึ้นถึง 82 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ก็เตือนว่ารายได้จากการจำหน่ายยาดังกล่าวอาจไม่สูงมากนัก เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศต่างก็สั่งซื้อยาดังกล่าวเก็บสต๊อกไว้เป็นจำนวนมากแล้วตั้งแต่เมื่อครั้งที่ไข้หวัดนกแพร่ระบาด
"แน่นอนว่าบริษัทยาคงจะได้รับประโยชน์ด้วย และอาจจะมีรายได้เพิ่มขึ้นบ้างจริง แต่จะไม่มากเท่ากับในช่วงที่ไข้หวัดนกระบาดในช่วงแรก" เจฟ โฮลฟอร์ด นักวิเคราะห์ภาคอุตสาหกรรมยา ของบริษัทโบรกเกอร์เจฟเฟอรีส์ให้ความเห็น
ทั้งนี้ ยารีเลนซาซึ่งมีชื่อสามัญว่า "ซานามิเวียร์" (zanamivir) และยาทามิฟลูซึ่งมีชื่อสามัญว่า "โอเซลทามิเวียร์" (oseltamivir) เป็นตัวยาที่ดูจะใช้ได้ผลในการต่อสู้กับไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังแพร่ระบาดในเม็กซิโก และขยายไปถึงสหรัฐฯ และนิวซีแลนด์แล้ว
บริษัทโรชแถลงว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเตรียมการเพิ่มกำลังผลิตยาทามิฟลูอยู่ แต่ระบุด้วยว่ากระบวนการตั้งแต่การสังเคราะห์ยาไปจนถึงการบรรจุยาสำหรับออกจำหน่ายได้นั้นต้องใช้เวลานานถึง 8 เดือน
"เรากำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบขั้นตอนต่างๆ ในกระบวนการทั้งหมดเพื่อดูว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้มากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ คือเราไม่สามารถทำได้ในเวลาชั่วข้ามคืน" โฆษกของโรชกล่าว
ขณะนี้องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ยังไม่ได้ขอให้โรชส่งยาจำนวน 3 ล้านเม็ดที่เตรียมไว้สำหรับใช้เป็น "แนวป้องกันไฟ" ในพื้นที่ที่เกิดการแพร่ระบาดขึ้น เนื่องจากยังมียาสำรองอยู่อีก 2 ล้านเม็ดที่โรชเคยบริจาคไว้เมื่อเกิดไข้หวัดนกระบาดคราวก่อน เพื่อให้นำไปใช้ในประเทศที่ไม่ได้เตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดได้ดีเพียงพอ
ที่ผ่านมา ยาทามิฟลูเป็นที่ต้องการมากกว่า เพราะตัวยามีลักษณะเป็นเม็ดซึ่งรับประทานได้ง่าย ในขณะที่ยารีเลนซาเป็นยาประเภทที่ใช้วิธีสูดดม ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ แกล็กโซก็สามารถจำหน่ายยารีเลนซาได้เพิ่มขึ้นเมื่อมีผู้ซื้อเพิ่มการสำรองยามากขึ้น โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2009 ยอดขายยารีเลนซาได้แซงหน้ายอดขายยาทามิฟลูไป เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศ โดยเฉพาะอังกฤษและญี่ปุ่น ได้เพิ่มคำสั่งซื้อยาดังกล่าว
ทามิฟลูเป็นยาที่คิดค้นขึ้นโดยบริษัทกิลีด ไซแอนส์ ซึ่งเป็นกิจการด้านเทคโนโลยีชีวภาพในสหรัฐฯ
การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในครั้งนี้ ยังอาจช่วยเพิ่มยอดขายวัคซีนรักษาโรคด้วยเช่นกัน ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ในขณะนี้ได้แก่ซาโนฟี-อาเวติส, แกล็กโซ, โนวาติส และแบ็กซ์เตอร์ อินเตอร์เนชันแนล แม้ว่าการผลิตวัคซีนสำหรับต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนก็ตาม
ราคาหุ้นของบริษัทโนวาแว็กซ์เพิ่มขึ้น 75 เปอร์เซ็นต์ในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ (24) เนื่องจากเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพอีกแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ และขณะนี้กำลังผลิตวัคซีนชนิดใหม่อยู่
