เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (26เม.ย.) ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ส.ส.พรรคเพื่อไทย โฆษกพรรคเพื่อไทย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และประชาชน ได้เดินทางไปร่วมตรวจสอบการ
ชันสูตรศพของพลทหารอภินพ เครือสุก ซึ่งเสียชีวิตที่บ้านแม่ทัพภาคที่ 1 ในช่วงที่มีเหตุการณ์ผลักดันการ
ชุมนุมของเจ้าหน้าที่ ตามที่ญาติร้องขอ เนื่องจากเกิดความสงสัยว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการส่ง เอสเอ็ม
เอส แจ้งมารดาว่า นายกรัฐมนตรีอยู่ที่บ้านแม่ทัพภาค 1 ในขณะนั้น
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างว่า ญาติของพลทหารอภินพ ได้มาร้องต่อพรรค
เพื่อไทย ขอให้ร่วมตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ทาง
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไม่อนุญาตให้คณะที่ทางญาติเชิญมาด้วย เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลตำรวจ
และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เป็นแพทย์ เข้าร่วมตรวจสอบด้วย โดยอ้างกฎระเบียบปฏิบัติ ดังนั้นจึงมีการ
ประสานไปยังโรงพยาบาลศิริราชแทน และได้รับความกรุณาให้คณะที่ทางญาติเชิญมาสามารถเข้าร่วมตรวจ
สอบการชันสูตรศพในวันที่ 27 เม.ย.ได้ด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่า เราไม่ได้หากินกับศพอย่างที่รัฐบาลกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางไปร่วมตรวจสอบการชันสูตรศพครั้งนี้ มีส.ส.พรรคเพื่อไทย อดีต
คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เดินทางไปร่วมตรวจสอบด้วย อาทิ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นาย
ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ส.ส.ชัยภูมิ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายพร้อมพงศ์ นพ.ทศพร เสรี
รักษ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช.
**ไม่อนุญาตคนนอกร่วมชันสูตร
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า สถาบันฯ มี
มาตรฐานการทำงานซึ่งได้รับความไว้วางใจมาตลอด 7 ปี ที่ก่อตั้งสถาบันฯ ทั้งนี้ ศพนี้ถือเป็นศพแรกที่มีการ
ขอให้ผู้อื่นนอกจากญาติและทนายเข้าร่วมชันสูตร ซึ่งสถาบันฯ ไม่สามารถอนุญาตได้ เพราะผิดระเบียบ และ
จะถูกมองว่ามีการเลือกปฏิบัติ รวมถึงอาจถูกกล่าวหาว่ามี 2 มาตรฐาน เมื่อการชันสูตรอื่นปฏิบัติอย่างไร ศพนี้
ก็ต้องปฏิบัติเช่นนั้น หากญาติไม่สบายใจก็สามารถนำศพไปชันสูตรที่สถาบันฯอื่นได้
"คณิต" ย้ำไม่มีใครทำพลทหารเสียชีวิต
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ยินดีที่จะให้มีการชันสูตรพลิกศพ พลทหารอภินพ
เครือสุข ที่เสียชีวิตภายในบ้านพัก กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็ก รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ใหม่ ตามที่มารดาพล
ทหารอภินพ ต้องการ โดยจะต้องเป็นไปตามระบบ และถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะได้หายสงสัย
"ผมยืนยันว่าไม่มีใครไปทำร้ายเขาให้เสียชีวิต ผมก็เพิ่งเสียลูกชายไปจากอุบัติเหตุ เมื่อ 3 เดือนก่อน
การสูญเสียลูก เป็นสิ่งที่ลำบาก ผมก็เสียใจ และยินดีให้ความร่วมมือกับญาติของผู้เสียชีวิตทุกอย่าง เขาต้อง
การอะไร ก็พร้อมที่จะทำให้ตามใจทุกอย่าง เพื่อให้คลี่คลายความสงสัย" แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว
พล.ท.คณิตกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ มีทหารที่ดูแลบ้านอยู่ 3 คน จากการสอบถาม ทุกคนก็ยืนยันว่า
พลทหารอภินพ ลื่นหกล้ม เมื่อเพื่อนถามว่าจะไปหาหมอหรือไม่ พลทหารอภินพ ก็บอกว่าไม่เป็นอะไร แค่
ปวดหัวจึงไม่ได้นำส่งโรงพยาบาล แล้วพลทหารอภินพ ก็เสียชีวิต ในเช้าวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา หากเจ้า
หน้าที่ตำรวจต้องการทราบข้อเท็จจริง ก็สอบถามเพื่อนของผู้ตาย ที่อยู่ในบ้านพักด้วยกันได้
**เสื้อแดงจัดนิทรรศการสลายการชุมนุม
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเตรียมที่จะจัดนิทรรศการ 13 เมษายน
การสลายการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเป็นประวัติศาสตร์การเมืองอีกบทหนึ่งว่า การสลายการชุมนุม
นั้นมีการใช้อำนาจเกินที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการว่าจะใช้ชื่องานอย่างไร และ
จะใช้สถานที่ที่ไหน ทั้งนี้ งานนิทรรศการดังกล่าว จะมีการเชิญหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เข้าร่วมด้วย อาทิ
สหพันธ์นิสิตนักศึกษา องค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ สื่อมวลชนทั้งในประเทศ
ไทยและต่างประเทศ และนักกฎหมายมาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกันด้วย
ชันสูตรศพของพลทหารอภินพ เครือสุก ซึ่งเสียชีวิตที่บ้านแม่ทัพภาคที่ 1 ในช่วงที่มีเหตุการณ์ผลักดันการ
ชุมนุมของเจ้าหน้าที่ ตามที่ญาติร้องขอ เนื่องจากเกิดความสงสัยว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการส่ง เอสเอ็ม
เอส แจ้งมารดาว่า นายกรัฐมนตรีอยู่ที่บ้านแม่ทัพภาค 1 ในขณะนั้น
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างว่า ญาติของพลทหารอภินพ ได้มาร้องต่อพรรค
เพื่อไทย ขอให้ร่วมตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ทาง
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไม่อนุญาตให้คณะที่ทางญาติเชิญมาด้วย เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลตำรวจ
และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เป็นแพทย์ เข้าร่วมตรวจสอบด้วย โดยอ้างกฎระเบียบปฏิบัติ ดังนั้นจึงมีการ
ประสานไปยังโรงพยาบาลศิริราชแทน และได้รับความกรุณาให้คณะที่ทางญาติเชิญมาสามารถเข้าร่วมตรวจ
สอบการชันสูตรศพในวันที่ 27 เม.ย.ได้ด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่า เราไม่ได้หากินกับศพอย่างที่รัฐบาลกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางไปร่วมตรวจสอบการชันสูตรศพครั้งนี้ มีส.ส.พรรคเพื่อไทย อดีต
คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เดินทางไปร่วมตรวจสอบด้วย อาทิ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นาย
ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ส.ส.ชัยภูมิ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายพร้อมพงศ์ นพ.ทศพร เสรี
รักษ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช.
**ไม่อนุญาตคนนอกร่วมชันสูตร
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า สถาบันฯ มี
มาตรฐานการทำงานซึ่งได้รับความไว้วางใจมาตลอด 7 ปี ที่ก่อตั้งสถาบันฯ ทั้งนี้ ศพนี้ถือเป็นศพแรกที่มีการ
ขอให้ผู้อื่นนอกจากญาติและทนายเข้าร่วมชันสูตร ซึ่งสถาบันฯ ไม่สามารถอนุญาตได้ เพราะผิดระเบียบ และ
จะถูกมองว่ามีการเลือกปฏิบัติ รวมถึงอาจถูกกล่าวหาว่ามี 2 มาตรฐาน เมื่อการชันสูตรอื่นปฏิบัติอย่างไร ศพนี้
ก็ต้องปฏิบัติเช่นนั้น หากญาติไม่สบายใจก็สามารถนำศพไปชันสูตรที่สถาบันฯอื่นได้
"คณิต" ย้ำไม่มีใครทำพลทหารเสียชีวิต
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ยินดีที่จะให้มีการชันสูตรพลิกศพ พลทหารอภินพ
เครือสุข ที่เสียชีวิตภายในบ้านพัก กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็ก รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ใหม่ ตามที่มารดาพล
ทหารอภินพ ต้องการ โดยจะต้องเป็นไปตามระบบ และถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะได้หายสงสัย
"ผมยืนยันว่าไม่มีใครไปทำร้ายเขาให้เสียชีวิต ผมก็เพิ่งเสียลูกชายไปจากอุบัติเหตุ เมื่อ 3 เดือนก่อน
การสูญเสียลูก เป็นสิ่งที่ลำบาก ผมก็เสียใจ และยินดีให้ความร่วมมือกับญาติของผู้เสียชีวิตทุกอย่าง เขาต้อง
การอะไร ก็พร้อมที่จะทำให้ตามใจทุกอย่าง เพื่อให้คลี่คลายความสงสัย" แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว
พล.ท.คณิตกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ มีทหารที่ดูแลบ้านอยู่ 3 คน จากการสอบถาม ทุกคนก็ยืนยันว่า
พลทหารอภินพ ลื่นหกล้ม เมื่อเพื่อนถามว่าจะไปหาหมอหรือไม่ พลทหารอภินพ ก็บอกว่าไม่เป็นอะไร แค่
ปวดหัวจึงไม่ได้นำส่งโรงพยาบาล แล้วพลทหารอภินพ ก็เสียชีวิต ในเช้าวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา หากเจ้า
หน้าที่ตำรวจต้องการทราบข้อเท็จจริง ก็สอบถามเพื่อนของผู้ตาย ที่อยู่ในบ้านพักด้วยกันได้
**เสื้อแดงจัดนิทรรศการสลายการชุมนุม
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเตรียมที่จะจัดนิทรรศการ 13 เมษายน
การสลายการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเป็นประวัติศาสตร์การเมืองอีกบทหนึ่งว่า การสลายการชุมนุม
นั้นมีการใช้อำนาจเกินที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการว่าจะใช้ชื่องานอย่างไร และ
จะใช้สถานที่ที่ไหน ทั้งนี้ งานนิทรรศการดังกล่าว จะมีการเชิญหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เข้าร่วมด้วย อาทิ
สหพันธ์นิสิตนักศึกษา องค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ สื่อมวลชนทั้งในประเทศ
ไทยและต่างประเทศ และนักกฎหมายมาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกันด้วย