“วีระศักดิ์” เล็งหารือผู้บริหารการบินไทย ขอใช้เป็นช่องทางโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการ ทรานเฟอร์ พาสเซนเจอร์ หวังเป็นหน้าร้านให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นทาง ยัน 1 มิ.ย.นี้เริ่มให้บริการได้ชัวร์ ล่าสุด แอตต้า จัด 10 เส้นทางท่องเที่ยวเสนอขาย เคาะราคาเริ่มต้นที่ 500 บาท มั่นใจดูดนักท่องเที่ยวได้ 30%ของกลุ่มที่แวะเปลี่ยนเครื่อง
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า จะหารือกับผู้บริหารสายการบินไทย เพื่อขอความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์โครงการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างประเทศ (ทรานเฟอร์ พาสเซนเจอร์) เช่น ขอใช้จุดขาย หรือเคาท์เตอร์ขายตั๋วการบินไทยในต่างประเทศกว่า 60 แห่ง เป็นจุดให้ข้อมูลโครงการและแพกเกจเส้นทางที่จะนำเสนอขายผ่านแผ่นพับ หรือโบว์ชัวร์ และขอให้มีการปรับปรุงซอฟแวร์ที่นักท่องเที่ยวใช้จองตั๋วเครื่องบิน เพื่อให้มีป๊อปอัพ บอกข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในเส้นทางที่จัดไว้ ขึ้นให้นักท่องเที่ยวได้อ่าน ส่วนบนเครื่องบินหากเป็นไปได้ จะขอแทรกโบว์ชัวร์ลงไปในแมกกาซีนสวัสดี หรือฉายวีทีอาร์เส้นทางท่องเที่ยวให้ผู้โดยสารได้รับชม
อย่างไรก็ตามสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) ได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับให้บริการในโครงการนี้ 10 กลุ่มเส้นทาง ได้แก่ เส้นทางเที่ยวชมธรรมชาติ อาทิ ป้อมพระจุลชายทะเล จ.สมุทรปราการ ชมป่าชายเลน ,เส้นทางสถานที่สำคัญทางศาสนา และ วัด ,เส้นทางชมวัง และงานศิลป์แผ่นดินไทย ,เส้นทางชมการแสดงโชว์พร้อมรับประทานอาหารค่ำ ,เส้นทางสุขภาพและความงาม เช่น สปา ,เส้นทางล่องคลองชมสวน ,เส้นทางชอปปิ้งตลาดหรือห้างสรรพสินค้า ,เส้นทางเที่ยวฟาร์ม สวนสัตว์และสวนสนุก ,เส้นทางเล่นกอล์ฟ และ เส้นทางซิตี้ทัวร์ หรือนั่งรถชมเมือง
“ แต่ละโปรแกรมจะใช้เวลาเดินทาง พร้อมทำกิจกรรมราว 4 ชั่วโมง ราคาค่าแพกเกจเริ่มที่ 500 บาทต่อคน ไปถึงกว่า 2,000 บาท ต่อคน ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวในการเดินทางแต่ละกรุ๊ปว่าจะมีจำนวนเท่าใด “
โครงการนี้จะเริ่มให้บริการตั้งแต่ 1 มิ.ย.52 ระยะเวลาโครงการ 2 ปี แต่จะมีการประเมินทุก 3 เดือนเพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม คาดว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มที่รอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ประมาณ 1,000 คนต่อวัน สร้างรายได้วันละกว่า 2 ล้านบาท โดยจำนวนดังกล่าวคิดเป็น 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวันที่แวะเข้ามารอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีประมาณ 3,000 คน โดยเป้าหมายครั้งนี้จะมากกว่าครั้งก่อนที่เคยจัดทำโครงการมา โดยทำระยะ 4 ปี มีนักท่องเที่ยวทรานเฟอร์ มาใช้บริการราว 240,000 คน สร้างรายได้กว่า 25,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อย เพราะขาดการประชาสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกอย่างสรุปได้ทั้งหมด จะเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ทันที โดย ททท.จะใช้ทุกสื่อที่มีอยู่ เช่นเว็บไซน์ทั้งส่วนกลางและสำนักงานในต่างประเทศ ลำดับต่อไปจะขอความร่วมมือกับทีมไทยแลนด์ ขอความร่วมมือเครือข่ายสำนักงานของแต่ละหน่วยงานในต่างประเทศ เช่น สถานกงสุล สำนักงานพาณิชย์ สำนักงานบีโอไอ ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย เนื่องจากเห็นว่าจะต้องให้นักท่องเที่ยวที่มีโปรแกรมการเดินทางและแวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทย ได้รับรู้ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อจะได้มีเวลาศึกษาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวและตัดสินใจได้ทันทีเมื่อเครื่องลงจอด
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า จะหารือกับผู้บริหารสายการบินไทย เพื่อขอความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์โครงการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างประเทศ (ทรานเฟอร์ พาสเซนเจอร์) เช่น ขอใช้จุดขาย หรือเคาท์เตอร์ขายตั๋วการบินไทยในต่างประเทศกว่า 60 แห่ง เป็นจุดให้ข้อมูลโครงการและแพกเกจเส้นทางที่จะนำเสนอขายผ่านแผ่นพับ หรือโบว์ชัวร์ และขอให้มีการปรับปรุงซอฟแวร์ที่นักท่องเที่ยวใช้จองตั๋วเครื่องบิน เพื่อให้มีป๊อปอัพ บอกข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในเส้นทางที่จัดไว้ ขึ้นให้นักท่องเที่ยวได้อ่าน ส่วนบนเครื่องบินหากเป็นไปได้ จะขอแทรกโบว์ชัวร์ลงไปในแมกกาซีนสวัสดี หรือฉายวีทีอาร์เส้นทางท่องเที่ยวให้ผู้โดยสารได้รับชม
อย่างไรก็ตามสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) ได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับให้บริการในโครงการนี้ 10 กลุ่มเส้นทาง ได้แก่ เส้นทางเที่ยวชมธรรมชาติ อาทิ ป้อมพระจุลชายทะเล จ.สมุทรปราการ ชมป่าชายเลน ,เส้นทางสถานที่สำคัญทางศาสนา และ วัด ,เส้นทางชมวัง และงานศิลป์แผ่นดินไทย ,เส้นทางชมการแสดงโชว์พร้อมรับประทานอาหารค่ำ ,เส้นทางสุขภาพและความงาม เช่น สปา ,เส้นทางล่องคลองชมสวน ,เส้นทางชอปปิ้งตลาดหรือห้างสรรพสินค้า ,เส้นทางเที่ยวฟาร์ม สวนสัตว์และสวนสนุก ,เส้นทางเล่นกอล์ฟ และ เส้นทางซิตี้ทัวร์ หรือนั่งรถชมเมือง
“ แต่ละโปรแกรมจะใช้เวลาเดินทาง พร้อมทำกิจกรรมราว 4 ชั่วโมง ราคาค่าแพกเกจเริ่มที่ 500 บาทต่อคน ไปถึงกว่า 2,000 บาท ต่อคน ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวในการเดินทางแต่ละกรุ๊ปว่าจะมีจำนวนเท่าใด “
โครงการนี้จะเริ่มให้บริการตั้งแต่ 1 มิ.ย.52 ระยะเวลาโครงการ 2 ปี แต่จะมีการประเมินทุก 3 เดือนเพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม คาดว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มที่รอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ประมาณ 1,000 คนต่อวัน สร้างรายได้วันละกว่า 2 ล้านบาท โดยจำนวนดังกล่าวคิดเป็น 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวันที่แวะเข้ามารอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีประมาณ 3,000 คน โดยเป้าหมายครั้งนี้จะมากกว่าครั้งก่อนที่เคยจัดทำโครงการมา โดยทำระยะ 4 ปี มีนักท่องเที่ยวทรานเฟอร์ มาใช้บริการราว 240,000 คน สร้างรายได้กว่า 25,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อย เพราะขาดการประชาสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกอย่างสรุปได้ทั้งหมด จะเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ทันที โดย ททท.จะใช้ทุกสื่อที่มีอยู่ เช่นเว็บไซน์ทั้งส่วนกลางและสำนักงานในต่างประเทศ ลำดับต่อไปจะขอความร่วมมือกับทีมไทยแลนด์ ขอความร่วมมือเครือข่ายสำนักงานของแต่ละหน่วยงานในต่างประเทศ เช่น สถานกงสุล สำนักงานพาณิชย์ สำนักงานบีโอไอ ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย เนื่องจากเห็นว่าจะต้องให้นักท่องเที่ยวที่มีโปรแกรมการเดินทางและแวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทย ได้รับรู้ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อจะได้มีเวลาศึกษาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวและตัดสินใจได้ทันทีเมื่อเครื่องลงจอด