xs
xsm
sm
md
lg

"สนธิ"ฆ่าไม่ตาย!คนมีสีขนอาวุธสงครามรุมถล่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนร้ายขนอาวุธสงคราม"เอ็ม 16, อาก้า, เอชเค, เอ็ม 79 "ยิงถล่มรถ"สนธิ ลิ้มทองกุล" ใจกลางกรุง กระสุนเจาะกระโหลก รอดตายปาฎิหาริย์ ขณะที่คนขับรถ และคนติดตาม บาดเจ็บ ตร.มุ่งปมการเมือง จัดชุดล่าทหารฝ่ายตรงข้าม คาดไม่ต่ำว่า 5 คนร่วมก่อเหตุ แพทย์เผยอาการ" สนธิ" ผ่าตัดเรียบร้อย-ปลอดภัย คนไข้รู้สึกตัวดี ชี้เจอเศษกระสุนเนื้อโลหะ 3-4 ชิ้น ฝังอยู่บริเวณขมับด้านขวา ด้านกทม.เผยภาพจากกล้องCCTV พบรถต้องสงสัย ขับไล่หลังห่างรถยนต์คันเกิดเหตุเพียง 18 วินาที เป็นโตโยต้ากระบะ 2 ประตูสีบรอนซ์ทอง ขณะที่กล้อง CCTV แยกบางขุนพรหม 5 ตัว ระบบบันทึกภาพขัดข้อง

เวลา 05.40 น. วานนี้ (17 เม.ย.) ร.ต.อ.ประกอบ เย็นหลักร้อย ร้อยเวร สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงรถยนต์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เหตุเกิดบริเวณปั๊มคาลเท็กซ์ หน้าวัดเอี่ยมวรนุช สี่แยกบางขุนพรหม ถ.สามเสน แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 และพ.ต.อ.ขิง วิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม
จุดเกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน วล 89 กทม. ซึ่งเป็นรถยนต์ของนายสนธิ ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธปืนสงครามจนรถพรุนทั้งคัน กระจกฝั่งซ้ายด้านคนนั่ง และกระจกด้านหลังแตกละเอียดทั้งบาน ล้อรถยนต์ทั้ง 4 ล้อ ถูกยิงจนแบน บริเวณใกล้กันพบปลอกกระสุนอาวุธปืนสงครามชนิดอาก้า และเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวนมาก ใกล้กันพบรถประจำทาง ขสมก. สีครีมแดง สาย 53 วิ่งระหว่างวัดโสมนัส-รอบเมือง หมายเลขทะเบียน 12-0283 กรุงเทพมหานคร ถูกกระสุนลูกหลงเฉี่ยวที่ด้านหน้าบริเวณกันชนจอดอยู่ เบื้องต้นทราบชื่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล มีบาดแผลที่ศีรษะด้านขวา เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลวชิระ รายที่ 2 นายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถ อาการสาหัส ถูกยิงเข้าที่ลำตัวและศีรษะ ถูกนำส่งโรงพยาบาลมิชชัน และนายวายุภักดิ์ มัลคละสินธุ์ อายุ 40 ปี การ์ด ที่นั่งมาด้านหน้าคู่กับคนขับได้รับบาดเจ็บ เล็กน้อยถูกนำส่งโรงพยาบาลวชิระ
จากการสอบสวนทราบว่า นายสนธิ ได้เดินทางด้วยรถยนต์คันดังกล่าวออกจากบ้านพักย่าน ถ.สุโขทัย มา 3 คนพร้อมคนขับ และการ์ดที่นั่งมาด้านหน้า ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.30 น. เพื่อมาจัดรายการ "กู๊ด มอร์นิ่งไทยแลนด์" ที่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ถ.พระอาทิตย์ ในเวลา 06.00 น. ทุกวัน ขณะมาถึงที่เกิดเหตุ รถกระบะ โตโยต้า วีโก้ 2 ประตู สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบทะเบียนได้ขับมาประกบข้างรถ และ มือปืนสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงลายพราง สันนิษฐานว่ามือปืนน่าจะเป็นมืออาชีพ และมุ่งหวังจะเอาชีวิตเป้าหมาย ซึ่งอยู่ด้านหลังของรถกระบะ ได้ยิงใส่ล้อรถนายสนธิ เพื่อให้ยางแตกก่อน แล้วกระหน่ำยิงเข้าใส่ตัวรถ ก่อนหลบหนี

ผบช.น.ถกเครียดล่ามือปืน
ต่อมาเวลา 10.30 น.ที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.ศส.บช.น. พ.ต.อ.ขิง แชวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วย ผกก.สส.บก.น. 1-9 ผกก.ศส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม ได้เข้าร่วมประชุมติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล และผู้ติดตาม
พล.ต.ท.วรพงษ์ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น. 1-9 เพื่อติดตามตัวคนร้าย โดยได้ทำการตรวจสอบพฤติการณ์แห่งคดี และรายละเอียดต่างๆ ทั้งจุดเกิดเหตุ ระยะเวลาที่เกิดเหตุและผู้ที่เห็นเหตุการณ์ว่าเป็นอย่างไร โดยให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อหารูปพรรณของคนร้าย และพาหนะที่ใช้ก่อเหตุแล้ว

โชคดีเอ็ม 79 ไม่ระเบิด
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า พาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะไม่ทราบทะเบียน และยังไม่ทราบจำนวนคนร้ายที่แน่ชัด นอกจากนี้ จุดเกิดเหตุพบปลอกกระสุน จำนวน 84 ปลอก เป็นอาวุธ 4 ชนิดด้วยกัน ประกอบด้วย ปลอกกระสุนปืนอาก้า 64 นัด ปืนเอชเค 17 นัด และปืนเอ็ม 16 อีก 3 นัด และยังพบระเบิดชนิดเอ็ม 79 เป็นหัวกระสุนที่ไม่ระเบิด ซึ่งหัวกระสุนพุ่งทะลุไปบนรถร่วมบริการฯ สาย 30 ที่วิ่งสวนมา สาเหตุที่กระสุนไม่ทำงาน เนื่องจากระยะจุดที่ยิงอยู่ในระยะใกล้เกินไป กระสุนไม่ครบเกลียวรอบทำให้ไม่ทำงาน ส่วนปืนอาก้า 1 แมกกาซีน บรรจุได้ไม่เกิน 30 นัด แต่ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนจำนวนมาก เป็นไปได้ว่ามือปืนอาจจะใช้ 2 แมกกาซีน
“ส่วนเรื่องอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้นเป็นอาวุธสงคราม แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นคนมีสีหรือไม่ เพราะอาวุธสงครามเช่นนี้ประชาชนทั่วไปก็สามารถมี และหามาได้ เช่นในกรณีของทางภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรื่องความปลอดภัยของบุคคลสำคัญ รวมทั้งประชาชนหากมีการร้องขอให้ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ก็ยินดีที่จะส่งกำลังไปดูแล”

คนขับรถเมล์เผยนาทีระทึก
จากการสอบปากคำนายสมคิด วงศ์บุดดี อายุ 49 ปี พนักงานขับรถร่วมบริการฯ สาย 30 หมายเลขทะเบียน 11-9033 กทม. วิ่งระหว่างสนามหลวง-ท่าน้ำนนท์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถมุ่งหน้าไปเทเวศร์ โดยขณะที่ขับใกล้ถึงแยกบางขุนพรหม ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จากนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนมีสิ่งของบางอย่างกระทบเข้าที่กระจกหลังแตก และได้ยินเสียงแฟนตะโกนบอกว่า มีคนยิงกันและรถถูกยิงจึงบอกให้จอด แต่มีผู้โดยสารตะโกนบอกว่า ให้ขับเลยไปอย่าจอด
ด้านนางเฉิดฉาย วงศ์บุดดี พนักงานเก็บเงินรถร่วมฯ สาย 30 ให้การว่า จังหวะที่รถมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้ยินเสียงปืนประมาณ 3 นัด จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกชุดใหญ่ ระหว่างนั้นตนนั่งอยู่ตรงกลางของรถรู้สึกว่ามีกระสุนปืนเฉี่ยวหัวไป ตนพร้อมผู้โดยสารจึงหมอบลง และตะโกนบอกให้แฟนจอด แต่ผู้โดยสารก็ตะโกนไม่ให้จอดเพราะกลัวว่าจะถูกยิง เมื่อรถเลยไปได้สักระยะ ก็พบว่ามีผู้โดยสาร 1 คนได้รับบาดเจ็บที่เท้าก่อนที่จะลงจากรถไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้แฟนตนขับรถมาไว้ที่ สน. เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบพบว่ามีปลอกกระสุนชนิดเอ็ม 79 ตกอยู่บนเบาะ
นายสมจิต หงษ์วิเศษ อายุ 47 ปี พนักงานขับรถสาย 51 วิ่งระหว่างสนามหลวง-ปากเกร็ด หมายเลขทะเบียน 12-5994 กทม.ให้การว่า ระหว่างเกิดเหตุตนขับรถตามสาย 30 มา เพื่อที่มุ่งหน้าไปปากเกร็ด ก็ได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัด ซึ่งคนเก็บเงินบอกว่ามีการยิงกัน โดยเห็นว่าคนร้ายใช้รถปิกอัพ และรถของตนถูกกระสุนปืนทะลุเข้ากระจกด้านหน้ารถ

"สนธิ"ลงจากรถเลือดท่วมตัว
พนักงานกวาดขยะรายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ถึงเหตุการยิงถล่มนายสนธิ ว่าตนเป็นพนักงานกวาดขยะช่วงเวลา 06.00 น. ตั้งแต่สี่แยกวิสุทธิกษัตริย์ ตัดถนนสามเสน เมื่อมาถึงสี่แยกบางขุนพรหม ได้เห็นรถของนายสนธิ จอดติดสัญญาณไฟแดง คู่กับรถประจำทางสาย 53 จากนั้น ตนได้ขับรถไปจอดในโรงแรม ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ก็ได้ยินเสียงปืนดัง จึงรีบออกมาดู
"พบว่าที่จุดเกิดเหตุพบประกายไฟจากปากกระบอกปืนแลบออกมาเป็นชุดๆ ซึ่งคนร้ายใจเย็นมาก หลังจากที่ยิง ก็มีการเปลี่ยนกระสุนยิงใหม่อีกชุด ก่อนหลบหนี แต่ระหว่างนั้นตกใจไม่สามารถจำทะเบียนได้ เห็นว่าเป็นรถกระบะ ช่วงนั้นเห็นคนในรถของนายสนธิ อีกคันมาเรียกรถกระบะ ที่สวนทางมาขอความช่วยเหลือ ให้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล จากนั้นนายสนธิ เดินลงมาจากรถ ในมือถือกระดาษคลิปรายการที่จะไปจัดรายการ อีกมือถือวิทยุ มีเลือดท่วมตัว"
พนักงานกวาดขยะ กล่าวต่อว่า ตนจึงร้องบอกนายสนธิ ว่า "ป๋า รีบไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ" ซึ่งระหว่างนั้น นายสนธิ ยังมีสติรับรู้ ก่อนถูกนำขึ้นรถยนต์ไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งช่วงนั้นก็เริ่มมีชาวบ้านออกมาดูมากแล้ว

จัดชุดล่าทีมฆ่าทหารฝ่ายตรงข้าม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หัวหน้าศูนย์สืบสวน บช.น. จัดชุดสืบสวนเข้าร่วมคลี่คลายคดี โดยระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฝีมือดีจาก บก.น.1-9 มาร่วมด้วย โดยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม และกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เป็นชุดหลัก นอกจากนี้ พล.ต.ท.วรพงษ์ สั่งให้เจ้าหน้าที่ไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
ต่อมาได้มีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งไล่ล่าหาเบาะแส พร้อมกระจายกำลังตามจับตัวคนร้าย ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 5 คน โดยเป็นทหาร ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งมีความขัดแย้งกันทางการเมือง คาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วๆนี้

ตั้ง 2 ประเด็นการเมือง-ส่วนตัว
พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานและสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์โดยวางประเด็นไว้กว้างๆ ทั้งเรื่องการเมือง และส่วนตัว การกระทำของคนร้ายถือว่าเป็นมืออาชีพ เพราะว่าหวังประทุษร้ายถึงชีวิต และจะตรวจสอบการเดินทางของนายสนธิ จากกล้องวงจรปิด ว่ามีคนร้ายตามประกบมาหรือไม่ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณแยกบางขุนพรหมนั้น ไม่มี อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย
ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกหาข่าวความเคลื่อนไหวกลุ่มมือปืนแล้ว และยังตอบไม่ได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนมีสีหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าแกนนำพันธมิตรฯ คนอื่นเห็นว่าไม่มีความปลอดภัย สามารถร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยให้ได้ รวมถึงได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มในการตรวจตราอาวุธต่างๆ บ้านพักบุคคลสำคัญด้วย

จัดกำลังดูแล"สนธิ"
เมื่อเวลา 17.45 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าผบ.ตร. ได้ย้ำเรื่องความปลอดภัยของนายสนธิ เนื่องจากมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีลอบทำร้าย คาดว่าคนร้ายลงมือไม่สำเร็จ อาจจะกลับมาก่อเหตุซ้ำ ซึ่งตนได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยของนายสนธิ อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ลงมากับกำดูแลคดีดังกล่าว และในวันนี้ (18 เม.ย.) จะประชุมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ สน.ชนะสงคราม เวลา 10.00 น.

เสธ.แดงร้อนตัวปัดไม่เกี่ยว**
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลอบสังหารนายสนธิ เพราะไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร แม้ก่อนหน้านี้ จะมีการเคยเตือนให้พันธมิตรฯระวังจะมีคนจองกฐินอีกจำนวนมาก เชื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือคนของรัฐ เพราะการก่อเหตุไม่มีมือปืนที่ไหนใช้รถกระบะ เนื่องจาก สภาพการจราจรติดขัด ดังนั้น การใช้รถกระบะได้ ต้องมั่นใจว่า ต้องมีคนช่วยพาหลบหนีต่อ อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คงไม่ทำ เพราะทุกวันนี้ ไม่ได้สู้กับพันธมิตรฯแล้ว แต่สู้กับบุคคลระดับสูงและพวกอำมาตย์
พล.ต.ขัตติยะ บอกด้วยว่า เดาไม่ออกว่า กลุ่มไหนของรัฐ ลอบสังหาร เพราะ นายสนธิ ปราศรัยพาดพิงคนอื่นไปทั่วทำให้มีศัตรูเยอะ และคงไม่ใช่กลุ่มเสื้อแดง มาแก้แค้น เพราะตอนนี้ ส่วนใหญ่ถูกจับกุมเกือบหมดแล้ว

แพทย์เผย“สนธิ” ปลอดภัย
นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระ เปิดเผยถึงผลการผ่าตัด นายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่า นายสนธิรู้สึกตัวดีตอนที่มาโรงพยาบาล โดยสามารถพูดคุยกับแพทย์ได้ อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบร่างกายพบบาดแผลสำคัญที่ศีรษะบริเวณขมับด้านขวา ซึ่งส่งผลทำให้กะโหลกศีระยุบ และมีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ อาการของนายสนธิไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด และน่าจะปลอดภัยดี ซึ่งแพทย์จะให้การรักษาอย่างเต็มที่
ต่อมาในเวลาประมาณ 12.00 น. หลังใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง นพ.ชัยวัน ได้เปิดแถลงข่าวอีกครั้ง ว่า ผลการผ่าตัดเป็นไปอย่างน่าพอใจ นายสนธิ รู้สึกตัวดี พูดคุยได้เป็นปกติ ในส่วนของการผ่าตัดนั้น จากบาดแผลที่ได้รับคือ ถูกเศษกระสุนเนื้อโลหะประมาณ 3-4 ชิ้น ฝังอยู่บริเวณขมับด้านขวา โดยเศษกระสุนดังกล่าวกระแทกผ่านกะโหลกศีรษะชั้นนอกจนทะลุแตก และกระแทกไปยังเนื้อสมองชั้นใน จนดันให้เนื้อสมองเกิดความบอบช้ำ มีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง ซึ่งได้ผ่าตัดเอาเศษโลหะ เศษกะโหลก พร้อมทั้งเลือดที่คั่งออก และเย็บบาดแผลเข้ากลับเหมือนเดิม
ทั้งนี้ แพทย์ได้ย้ายนายสนธิ ออกจากห้องไอซียูมาอยู่ที่ห้องพิเศษแล้ว โดยคาดว่าประมาณ 5-6 วัน ก็จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ขอให้งดเยี่ยม เพราะอยากให้คนไข้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ สำหรับการรักษาความปลอดภัย ขณะนี้ทางโรงพยาบาลได้ให้หน่วยรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลกับตำรวจดูแล ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร
"ก่อนจะเข้าห้องผ่าตัด คุณสนธิฝากบอกว่า ให้หมอทำการรักษาอย่างเต็มที่ และไว้ใจให้โรงพยาบาลวชิระในการรักษา” นพ.ชัยวันกล่าว

ย้ายรักษารพ.จุฬาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังผ่าตัด นายสนธิ ได้ย้ายออกจากโรงพยาบาลวชิระไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยเมื่อ เวลา17.55 น. ที่ตึก สก ชั้น 10 ห้องประชุมมงคลนาวิน รศ.นพ. ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริหาร และคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบศัลยกรรม แถลงว่าโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้รับการส่งต่อคนไข้จาก รพ.วชิระ 2 คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายวายุภักดิ์ มังคละสินธุ์ การ์ดของนายสนธิ และรพ.มิชชั่นอีก 1 ราย คือ นายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถ โดยอาการของ นายสนธิ ที่รับการส่งมาจาก รพ.วชิระนั้น ขณะนี้อาการปลอดภัย ตอบสนองได้ดี แต่มีอาการปวดหัวเล็กน้อย แต่จะต้องมีการเฝ้าดูอาการ 24 ชั่วโมง หากเกินกว่านี้ก็คงไม่มีปัญหาอะไร นอกจากนี้ทางด้านร่างกายนั้น ศ.นพ.สุวิทย์ ศรีอัษฎาพร ศัลยแพทย์วินิจฉัยว่า นายสนธิ มีรอยถลอกเล็กน้อยบริเวณหน้าอกด้านซ้าย มีรอยช้ำ และรอยถลอก แพทย์ทำการตรวจร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติและปลอดภัยดี
ส่วนอีก 2 ราย คือ 1. นายวายุภักดิ์ จากการตรวจสอบร่างการถูกยิงที่แขน โดยศัลยแพทย์ได้วินิจฉัยเบื้องต้นผู้ป่วยรายนี้ มีรอยแผลเหมือนถูกกระสุนที่ต้นแขนขวา และขาทั้ง 2 ข้าง มีรอยถลอก แต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต โดยคณะแพทย์ได้รักษาเบื้องต้นโดยการทำแผล หากพบว่ามีเนื้อตายจะดำเนินการตัดทิ้งภายหลัง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลารักษาไม่กี่วัน
สำหรับ นายอดุลย์ ผศ.นพ.สุรชัย เคารพธรรม ศัลยแพทย์ระบบประสาทได้วินิจฉัยอาการเบื้องต้น ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ได้ผ่าตัดเนื้อสมองข้างขวาไป 1 ข้าง ส่วนขาทั้ง 2 ข้าง อ่อนแรง แขนขวาหัก ซึ่งทาง รพ.มิชชั่น ได้ใส่เหล็กดามมาแล้ว นอกจากนี้จาการคลำชีพจรที่แขนข้างที่หัก พบว่าชีพจรเต้นอ่อน แต่การเลี้ยงของเลือดยังดีอยู่ ส่วนรอยกระสุนที่ทรวงอกด้านขวาและทะลุออกด้านหลัง ทางรพ.มิชชั่น ได้ทำการรักษาเบื้องต้นโดยใส่ท่อระบายเลือดและระบายลมรั่วที่หน้าอกไปแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยคณะแพทย์จะทำเอ็กซ์เรย์ร่างการอีกครั้ง เพื่อจะวินิจฉัยว่าจะดำเนินการรักษาอย่างไรต่อไป อย่างไรก็ตามคนไข้รายนี้รู้สึกตัวดี
รศ.นพ.ธีระพงศ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยทั้ง 3 รายได้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู และของดเยี่ยมเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ส่วนการรักษาความปลอดภัยทาง รพ.จุฬาฯ ดูแลร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ส่วนจะออกโรงพยาบาลได้วันไหนนั้น จะขอประเมินอีกครั้ง เบื้องต้นจะมีการแถลงข่าวอาการผู้ป่วยทั้ง 3 รายอีกครั้งในเวลา 11.00 น. วันที่ 18 เม.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ใต้ถุนตึก สก. ทางโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้ตั้งโต๊ะเยี่ยมผู้ป่วยทั้ง 3 รายอีกด้วย

พันธมิตรฯ -คนดังแห่เยี่ยมอาการ
เมื่อเวลาประมาณ 12.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการนำโต๊ะวางสมุดเยี่ยมมาตั้งไว้บริเวณด้านล่างของอาคารเพชรรัตน์ โรงพยาบาลวชิระ ซึ่งมีพันธมิตรฯ รวมทั้งบุคคลสำคัญเดินทางมาลงชื่อเยี่ยมนายสนธิ อย่างต่อเนื่อง
นายชัยอนันต์ สมุทวณิช อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวหลังเดินทางเข้าเยี่ยมอาการนายสนธิที่ห้องไอ.ซี.ยู. ว่า ได้เข้าไปเยี่ยมนายสนธิ แต่ยังนอนหลับอยู่ พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ลอบยิงนายสนธิ ทราบว่าเคยเกิดขึ้น 2-3 ครั้ง โดยมีการยิงเข้าไปในบ้าน และระหว่างที่มีการชุมนุม
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ตำรวจ รัฐบาล จะต้องควบคุมสถานการณ์ให้เรียบร้อย เพราะเป็นห่วงคนอื่นด้วย ส่วนนายกรัฐมนตรี ต้องระวังตัวมากขึ้น นอกจากนี้ ยังอยู่ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่มีการลอบยิงกันด้วยอาวุธสงครามกลางเมือง ดังนั้นตำรวจต้องเข้มข้นการดูแลมากขึ้น
นางสันสนีย์ เอกะสิงห์ อายุ 52 พันธมิตรฯ กทม.กล่าวว่า ทราบข่าวทันทีที่นายสนธิถูกยิง เนื่องจากดู ASTV ตลอดเวลา รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็โล่งใจที่อาการไม่สาหัส และปลอดภัยดี ทั้งนี้ คนที่ทำอย่างนี้ได้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย แต่เป็นหมาลอบกัด เป็นคนที่ไม่ยอมต่อสู้ด้วยความจริง
น.ส.จันทิมา เตียงวิลาวัณย์ จากตลาดราชบุรี กล่าวว่า นายสนธิ เป็นคนดีจึงแคล้วคลาดจากสิ่งชั่วร้ายมาได้ ขอเป็นกำลังใจให้สู้เพื่อความดี คิดว่าจากกระแสข่าวที่ว่าการลอบสังหารแกนนำในครั้งนี้เป็นการล่อพันธมิตรฯ ออกจากที่ตั้งนั้น เป็นไปได้สูง ส่วนตัวพร้อมสู้เสมอ แต่ฟังแกนนำมากกว่า หากมติแกนนำขอให้เราอยู่ในที่ตั้ง ก็จะทำตาม ไม่เช่นนั้นจะโดนกวาดล้างเหมือนเสื้อแดง ประเทศชาติก็จะไม่มีอะไรดีขึ้น
น.ส.ดวงดาว ประเสริฐสม อายุ 60 ปี พันธมิตรฯ กรุงเทพมหานคร จากบางโพ กล่าวว่า ทราบข่าวตอนเช้ารู้สึกคับแค้นใจว่าทำไมถึงกระทำเหตุอุกอาจราวกับบ้านเมืองไร้ขื่อแปเช่นนี้ ตำรวจเองก็พึ่งพาไม่ได้เลย อยากฝากให้นายกรัฐมนตรี จัดการโดยเด็ดขาด
นส.มัณฑนา ปัณณเมทา พันธมิตรจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า หลังทราบข่าวในช่วงเช้าก็เดินทางมาทันที พอทราบอาการเบื้องต้นว่าปลอดภัยก็สบายใจ อยากให้นายสนธิสู้ต่อไป เพราะเป็นบุคคลผู้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประเทศชาติ และเราชาวพันธมิตรฯ ทุกคนจะยืนเคียงข้าง และเป็นกำลังใจให้ตลอดไป
ในขณะที่กลุ่มนักศึกษาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล ม.มหิดล กว่า 10 คน เดินทางมาลงชื่อเยี่ยมนายสนธิ พร้อมทั้งกล่าวว่า ทราบข่าวก็รู้สึกตกใจมาก เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับคุณดีๆ อย่างนายสนธิ ตอนนี้ประเทศชาติบอบช้ำมามากแล้ว อยากให้หยุดการทำร้ายประเทศชาติ หยุดสร้างปัญหา ควรห่วงถึงชื่อเสียงของประเทศบ้าง เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งน่าจะเป็นการยั่วยุให้พี่น้องพันธมิตรฯ ออกมาร่วมต่อสู้ จนอาจจะตกหลุมพรางของกลุ่มที่จ้องทำลายชาติ อยากให้พี่น้องพันธมิตรฯ อยู่เฉยๆ วันนี้แม้จะไม่อนุญาตให้เยี่ยม แต่ก็จะส่งกำลังใจให้นายสนธิตลอด
นอกจากนี้ยังมีบุคคลสำคัญเดินทางมาให้กำลังใจ รวมทั้งส่งแจกันดอกไม้มาเยี่ยมอาการด้วยจำนวนมาก เช่น นายกษิต ภิรมย์ พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ และคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง นายสำราญ รอดเพชร น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ฯลฯ

กล้อง CCTVบางขุนพรหม 5 ตัวขัดข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากการศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า จากการตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV) ของ กทม.ที่ติดตั้งบริเวณสี่แยกบางขุนพรหม จำนวน 5 ตัว โดยเป็นกล้องภาพนิ่งจำนวน 4 ตัว กล้องเคลื่อนไหว เมื่อมีการคอนโทรลจำนวน 1 ตัว ปรากฏว่าไม่มีการบันทึกภาพในช่วงเกิดเหตุที่นายสนธิ ถูกยิง เนื่องจากระบบบันทึกภาพของกล้อง CCTV ขัดข้องทั้ง 5 ตัวพร้อมกัน โดยระบบบันทึกภาพไม่ทำงานตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 16 เม.ย. ซึ่งเมื่อเกิดเหตุยิงถล่มขึ้นจึงทราบว่าระบบบันทึกภาพขัดข้อง ทั้งนี้ แม้ว่าระบบบันทึกภาพจะไม่ขัดข้องแต่ทิศทางของมุมกล้องไม่ตรงกับจุดที่เกิดเหตุ ดังนั้นแม้บันทึกภาพได้แต่ก็มองไม่เห็น

CCTV เทเวศร์บันทึกภาพรถต้องสงสัย
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบกล้อง CCTV ที่ติดตั้งบริเวณแยกเทเวศร์ พบว่ารถยนต์ ของคันที่เกิดเหตุวิ่งผ่านไปในเวลา 05.41.33 น. และรถต้องสงสัย โตโยต้ากระบะ 2 ประตู สีบรอนซ์ทอง ที่ก่อเหตุวิ่งผ่านไปในเวลา 05.41.51 น. โดยวิ่งตามกัน ระยะเวลาห่างแค่ 18 วินาที ก่อนที่จะเกิดยิงถล่มรถของนายสนธิ ในเวลาต่อมา ซึ่งภาพดังกล่าวถือเป็นเพียงภาพเดียวที่กล้อง CCTV สามารถจับภาพได้ เพราะจากการตรวจสอบกล้องที่แยกสี่เสาเทเวศร์ ก็ไม่ปรากฏภาพรถของนายสนธิ แต่อย่างใด
นอกจากนี้ จากการลงตรวจสอบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณแยกบางขุนพรหม พบว่า ตู้ควบคุมระบบบันทึกภาพมีรอยกระสุนปืน 1 รอย แต่ทั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับระบบบันทึกภาพขัดข้องก่อนหน้านี้ แต่ประการใด อีกทั้งไม่ทราบว่ารอยกระสุนปืนดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหรือหลังเหตุการณ์ยิงถล่มแกนนำพันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ จากภาพที่บันทึกได้ของกล้อง CCTV ที่ติดตั้งบริเวณแยกบางลำพู ยังพบว่ารถที่คาดว่าจะเป็นรถต้องสงสัย เนื่องจากมีลักษณะเดียวกัน กระบะหลังมีการบรรทุกของเช่นกันได้วิ่งมาตามถนนสามเสนและเลี้ยวซ้ายไปทางถนนพระสุเมรุ ซึ่งบังคับให้วิ่งตรงผ่านหน้าวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น