ตาก-โครงการนำร่องสองแถวไทย 6 คัน วิ่งพาเที่ยว เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเมียวดี -วัดและตลาดบุเรงนอง ของพม่าไร้ผล มีเฉพาะคนพื้นที่แห่นั่งรถฟรีหมดโปรโมชันกลับเงียบสงบเหมือนเดิม เตือนนักท่องเที่ยวเข้าไปแบบขาจรอาจถูกไกด์พม่าหลอกตกลงราคาแบบคลุมเครือ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ หอการค้าจังหวัดตากร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดจัดโครงการนำรถสองแถว จำนวน 6 คัน จากเขตไทยข้ามสะพานมิตรภาพไทย – พม่า ไปยังจังหวัดเมียวดีฝั่งพม่า ตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด โดยเป็นโครงการนำร่องเพื่อแก้ปัญหาที่รถยนต์โดยสาร 2 แถวไทย ถูกรถตู้โดยสารพม่าเข้ามาวิ่งทับเส้นทางในเขตไทย โดยรถสองแถวดังกล่าวจะบริการนักท่องเที่ยวฟรีเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ และให้บริการ 2 เที่ยวแรกฟรี ซึ่งต่อไปรถยนต์ 2 แถวไทยสามารถนำนักท่องเที่ยวไทยข้ามไปฝั่งพม่าได้ เนื่องจากทางฝ่ายปกครอง และคณะกรรมการชายแดนไทย – พม่า ส่วนท้องถิ่น อำเภอแม่สอด ( TBC ) ได้ประสานกับฝ่ายพม่าไว้แล้ว โดยทางพม่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
การจัดการท่องเที่ยวจะเป็นในรูปแบบท่องเที่ยวเชิงศึกษาการค้า-การลงทุน-ศิลปะ ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมฯลฯ เป็นครั้งแรก โดยได้รับความสะดวกด้านการจราจร และนำพาไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจากคณะฝ่ายพม่า อาทิ เขตเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดเมียวดี ห่างจากตัวเมืองจังหวัดเมียวดีประมาณ 11.5 กิโลเมตร และตลาดบุเรงนอง ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ และเป็นตลาดชื่อดังของพม่า ที่มีสินค้าหลากหลาย รวมทั้งการเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวพม่า ตลอดจนอาคาร บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ร้านค้าของชาวพม่า
โครงการนำร่องสองแถวพาเที่ยวเมียวดีไร้ผล
รายงานข่าวจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตากแจ้งว่า หลังจากยุติโครงการนำร่องดังกล่าวลงเพราะเป็นโครงการนำร่องช่วงสั้น ๆ เท่านั้น ปรากฏว่าไม่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจแต่อย่างใด สาเหตุเป็นเพราะอากาศที่ร้อนระอุประกอบกับเมื่อเดินทางเข้าไปยังฝั่งเมียวดีแล้วโปรแกรมการท่องเที่ยวต่าง ๆ ยังไม่สามารถเดินทางเข้าไปไกลถึง 11.5 กิโลเมตรเหมือนอย่างวันที่มีโครงการนำร่องแต่อย่างใด
แหล่งข่าวจากบริษัทนำเที่ยวในจังหวัดตากกล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการที่ดีแต่ในสภาพความเป็นจริงแล้วการเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวทางด้านนี้ยังไม่สะดวกเท่าที่ควรในแง่ของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะหากจะขายโปรแกรมทัวร์ด้วยแล้วยังไม่มีจุดเด่นเพียงพอโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนอย่างปัจจุบันนี้ด้วยแล้วแถบจะหากลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวมาด้านนี้ค่อนข้างลำบากมาก ซึ่งเชื่อว่าโปรแกรมการท่องเที่ยวทางด้านเมียวดียังไม่สามารถจะเป็นจุดขายที่โดดเด่นได้และคงเป็นจุดเด่นเพียงด้านการค้าและอุตสาหกรรมเท่านั้นเพราะนอกจากจะได้เข้าไปไกลที่สุดคือตลาดบุเรงนองแล้วก็ได้เที่ยวเพียงวัดใกล้เคียงอีกไม่กี่วัดเท่านั้น นอกนั้นก็ไม่มีอะไร ประกอบกับสภาพการจราจรของฝั่งพม่าเองเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายเชื่อว่าแม้จะมีการเจรจาให้สองแถวไทยสามารถวิ่งเข้าไปได้แต่ก็เชื่อไม่มีใครกล้าเข้าไปวิ่งแน่นอน
เตือนนักท่องเที่ยวขาจรระวังถูกคนพม่าหลอก
แม้ภาวะการท่องเที่ยวด้านแม่สอด-เมียวดียังไม่มีโปรแกรมขายทัวร์ที่จัดไว้อย่างชัดเจน จากตลาดภายนอกจะมีเพียงตลาดในพื้นที่เท่านั้นแต่เป็นการพาไปเที่ยวโดยรถตู้สนนราคาแบบเหมาจ่ายคันละ 1,000บาท(ไม่รวมค่าทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราวคนละ 30 หรือ50 บาท) และอาจจะมีขึ้นลงบ้างไม่กำหนดตายตัวก็ตาม แต่หากนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้าไปเองทางเจ้าหน้าที่ด่านแม่สอดได้ปิดป้ายเตือนในเรื่องของการตกลงราคากับไกด์หรือคนขับรถในฝั่งเมียวดีให้แน่นอนก่อน แต่ก็ไม่ได้เตือนหรือยกตัวอย่างว่ามีกรณีตัวอย่างเช่นไรบ้าง
นายวุฒิชัย สิทธิกุล ตัวแทนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวยังอำเภอแม่สอดเพื่อต่อไปยังฝั่งจังหวัดเมียวดีของพม่าเปิดเผยว่า เนื่องจากเห็นว่ามีโครงการนำร่องในการท่องเที่ยวและเห็นว่าทางฝั่งเมียวดีเปิดให้เข้าไปเที่ยวได้กว่า 10 กิโลเมตรจึงเห็นว่าน่าสนใจแต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงจริง ๆ โครงการนำร่องดังกล่าวก็หมดไปแล้วกลุ่มจึงต้องเดินทางเข้าไปเองแต่เห็นว่าราคาที่รถตู้เสนอแบบเหมาจ่ายนั้นค่อนข้างแพงจึงเพียงเดินทางข้ามสะพานไปแล้วเดินเที่ยวแค่ในตัวตลาดเมียวดีก็พอ แต่มีไกด์ชาวพม่าเข้ามาติดต่อพร้อมกับบอกว่าที่ฝั่งพม่ามีรถนำเที่ยวโปรแกรมเดียวกับรถตู้ฝั่งไทยแต่ราคาถูกกว่าเพียง 300 บาทเท่านั้น
“เราเห็นป้ายเตือนกันแล้วและตกลงราคาเป็นที่แน่นอนว่า 300 บาทจึงตกลงหลังจากท่องเที่ยวตามโปรแกรมเหมือนที่ฝั่งไทยเสนอแล้วกลับปรากฏว่าไกด์พม่าขอค่าแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกคนละ 100 บาท โดยบอกว่าที่ตกลงกันนั้นเฉพาะค่ารถเท่านั้นจึงขอเตือนนักท่องเที่ยวว่าควรระวังแบบกรณีดังกล่าวด้วย”
