ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมรับเทศกาลสงกรานต์แล้ว โดยระดมกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งความบันเทิงควบคู่กับการสืบสานประเพณีไทย ชี้นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซียทะลักเข้าทำยอดห้องพักนับหมื่นห้องเต็มล่วงหน้าแล้วเป็นสัญญาณผ่านจุดตายหลังจากที่ซบเซามานาน คาดเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท โดยตัวเลขการเข้าพักโรงแรมตลอดทั้งปีกระเตื้องสู่ 60% ด้านนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ฟุ้งนักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย
ภาครัฐและเอกชนร่วมระดมงบประมาณกว่า 1 ล้านบาท จัดงาน Hatyai midnight Songkran ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน ตั้งแต่เวลา 18.00 -24.00 น. บริเวณถนนนิพัทธ์อุทิศ 3, ถนนเสน่หานุสรณ์ และถนนธรรมนูญวิถี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
นายประภาส อินทนปสาธน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้ สำนักงานหาดใหญ่ เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ของ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นหนึ่งในสิบแห่งที่ ททท.สำนักงานใหญ่ได้ร่วมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศผ่านสื่อส่วนกลาง และส่งข้อมูลกระจายให้แก่สำนักงานอีก 34 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีจุดขายที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์จากเที่ยงวันยันเที่ยงคืน และมีการเปิดแผ่นเพลงจากดีเจบนถนนที่เล่นน้ำสงกรานต์
กิจกรรมที่น่าสนใจ มีทั้งที่เป็นความบันเทิงและสืบสานประเพณี อาทิ ขบวนแห่คาร์นิวัล, ประกวดนางสงกรานต์, มวยทะเล ซึ่งคู่เอกระหว่างนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ พบนายวิทยา พานิชพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, การแสดงฟรีคอนเสิร์ตวงเพลย์กราวด์, ปาร์ตี้โฟม, อุโมงค์น้ำ, ส่วนในวันที่ 13 เมษายน จะมีกิจกรรมทำบุญตักบาตร, รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ, ขบวนแห่งนางสงกรานต์ พระพุทธสิหิงค์ สรงน้ำพระ เป็นต้น
ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวของ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การปิดสนามบินเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านยังคงเดินทางเข้าท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยต้องเดินทางด้วยรถยนต์ หลังจากที่สายการบินระหว่างประเทศได้ยุติการให้บริการมานับปี
ทั้งนี้ เทศกาลวันสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่น้อยกว่า 20,000 คน ซึ่งได้จองห้องพักทั้งใน อ.หาดใหญ่ และเมืองสงขลาตลอดทั้ง 3 วัน คาดการณ์ว่าอย่างน้อยจะมีเม็ดเงินสะพัดใน จ.สงขลา ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทอย่างแน่นอน
นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมธุรกิจโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวและกรุ๊ปทัวร์ได้ทยอยจองห้องพักใน อ.หาดใหญ่จนเต็มหมดแล้ว ซึ่งมีราว 9,000 ห้อง เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ของ อ.หาดใหญ่ ในทุกๆ ปีได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยในปีนี้ตรงกับช่วงปิดเทอมของประเทศมาเลเซียทำให้เป็นโอกาสทองของโรงแรมใน อ.หาดใหญ่เลยทีเดียว
“ปัญหาของ อ.หาดใหญ่ ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวคือห้องพักไม่เพียงพอ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ามาแต่ไม่ได้จองห้องพักล่วงหน้า เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จะมีปัญหาตรงนี้ หากต้องการจะพักในตัวเมืองหาดใหญ่จะต้องเสี่ยงหาเกสต์เฮาส์หรือห้องพักราคาถูกเอง หรือจะพักที่ อ.เมืองสงขลา ซึ่งอยู่ห่างจาก อ.หาดใหญ่ราว 20 กิโลเมตร ทราบว่าห้องพักถูกจองใกล้จะเต็มแล้วเช่นเดียวกัน” นายสมชาติ กล่าวต่อและว่า
สำหรับธุรกิจโรงแรมใน อ.หาดใหญ่ ซึ่งเคยได้รับผลกระทบจากความไม่เชื่อมั่นความไม่ปลอดภัยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายสมชาติกล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมามีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเพื่อนบ้านเดินทางเข้ามาร่วมเทศกาลสำคัญๆ จนห้องพักเต็ม ส่วนวันหยุดก็จะมีนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวเดินทางมาชอปปิ้ง รับประทานอาหาร และซื้อของฝาก ซึ่งค่าใช้จ่ายถูกกว่าการเที่ยวในสิงคโปร์ 2-3 เท่าตัว ทำให้โดยเฉลี่ยโรงแรมใน อ.หาดใหญ่มีการเข้าพัก 60% ต่างจากช่วงปี 2548-2549 ที่ตกต่ำสุดขีดที่มีเพียง 30% และผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมทุกแห่งต้องรัดเข็มขัดลดค่าใช้จ่าย ส่วนรายย่อยหลายแห่งต้องปิดกิจการลง
ด้านนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าวอย่างมั่นใจว่า อ.หาดใหญ่ ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ด้วยเป็นคนละกลุ่ม เหตุการณ์ไม่มีความต่อเนื่อง และห่างไกลปัญหาความไม่ปลอดภัยแล้ว อีกทั้งประชาชนมีความร่วมมือ กลมเกลียว สร้างเครือข่ายร่วมเป็นหูเป็นตาที่เข้มแข็ง ทั้งการดูแลคอยจับพิรุธความผิดปกติ ป้องกันปัญหาอาชญากรรม อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากทหาร ตำรวจ อาสาสมัครมาช่วยสอดส่องดูแล ร่วมกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีอยู่ จึงเชื่อมั่นในความปลอดภัยได้
ภาครัฐและเอกชนร่วมระดมงบประมาณกว่า 1 ล้านบาท จัดงาน Hatyai midnight Songkran ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน ตั้งแต่เวลา 18.00 -24.00 น. บริเวณถนนนิพัทธ์อุทิศ 3, ถนนเสน่หานุสรณ์ และถนนธรรมนูญวิถี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
นายประภาส อินทนปสาธน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้ สำนักงานหาดใหญ่ เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ของ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นหนึ่งในสิบแห่งที่ ททท.สำนักงานใหญ่ได้ร่วมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศผ่านสื่อส่วนกลาง และส่งข้อมูลกระจายให้แก่สำนักงานอีก 34 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีจุดขายที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์จากเที่ยงวันยันเที่ยงคืน และมีการเปิดแผ่นเพลงจากดีเจบนถนนที่เล่นน้ำสงกรานต์
กิจกรรมที่น่าสนใจ มีทั้งที่เป็นความบันเทิงและสืบสานประเพณี อาทิ ขบวนแห่คาร์นิวัล, ประกวดนางสงกรานต์, มวยทะเล ซึ่งคู่เอกระหว่างนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ พบนายวิทยา พานิชพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, การแสดงฟรีคอนเสิร์ตวงเพลย์กราวด์, ปาร์ตี้โฟม, อุโมงค์น้ำ, ส่วนในวันที่ 13 เมษายน จะมีกิจกรรมทำบุญตักบาตร, รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ, ขบวนแห่งนางสงกรานต์ พระพุทธสิหิงค์ สรงน้ำพระ เป็นต้น
ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวของ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การปิดสนามบินเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านยังคงเดินทางเข้าท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยต้องเดินทางด้วยรถยนต์ หลังจากที่สายการบินระหว่างประเทศได้ยุติการให้บริการมานับปี
ทั้งนี้ เทศกาลวันสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่น้อยกว่า 20,000 คน ซึ่งได้จองห้องพักทั้งใน อ.หาดใหญ่ และเมืองสงขลาตลอดทั้ง 3 วัน คาดการณ์ว่าอย่างน้อยจะมีเม็ดเงินสะพัดใน จ.สงขลา ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทอย่างแน่นอน
นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมธุรกิจโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวและกรุ๊ปทัวร์ได้ทยอยจองห้องพักใน อ.หาดใหญ่จนเต็มหมดแล้ว ซึ่งมีราว 9,000 ห้อง เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ของ อ.หาดใหญ่ ในทุกๆ ปีได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยในปีนี้ตรงกับช่วงปิดเทอมของประเทศมาเลเซียทำให้เป็นโอกาสทองของโรงแรมใน อ.หาดใหญ่เลยทีเดียว
“ปัญหาของ อ.หาดใหญ่ ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวคือห้องพักไม่เพียงพอ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ามาแต่ไม่ได้จองห้องพักล่วงหน้า เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จะมีปัญหาตรงนี้ หากต้องการจะพักในตัวเมืองหาดใหญ่จะต้องเสี่ยงหาเกสต์เฮาส์หรือห้องพักราคาถูกเอง หรือจะพักที่ อ.เมืองสงขลา ซึ่งอยู่ห่างจาก อ.หาดใหญ่ราว 20 กิโลเมตร ทราบว่าห้องพักถูกจองใกล้จะเต็มแล้วเช่นเดียวกัน” นายสมชาติ กล่าวต่อและว่า
สำหรับธุรกิจโรงแรมใน อ.หาดใหญ่ ซึ่งเคยได้รับผลกระทบจากความไม่เชื่อมั่นความไม่ปลอดภัยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายสมชาติกล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมามีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเพื่อนบ้านเดินทางเข้ามาร่วมเทศกาลสำคัญๆ จนห้องพักเต็ม ส่วนวันหยุดก็จะมีนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวเดินทางมาชอปปิ้ง รับประทานอาหาร และซื้อของฝาก ซึ่งค่าใช้จ่ายถูกกว่าการเที่ยวในสิงคโปร์ 2-3 เท่าตัว ทำให้โดยเฉลี่ยโรงแรมใน อ.หาดใหญ่มีการเข้าพัก 60% ต่างจากช่วงปี 2548-2549 ที่ตกต่ำสุดขีดที่มีเพียง 30% และผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมทุกแห่งต้องรัดเข็มขัดลดค่าใช้จ่าย ส่วนรายย่อยหลายแห่งต้องปิดกิจการลง
ด้านนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าวอย่างมั่นใจว่า อ.หาดใหญ่ ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ด้วยเป็นคนละกลุ่ม เหตุการณ์ไม่มีความต่อเนื่อง และห่างไกลปัญหาความไม่ปลอดภัยแล้ว อีกทั้งประชาชนมีความร่วมมือ กลมเกลียว สร้างเครือข่ายร่วมเป็นหูเป็นตาที่เข้มแข็ง ทั้งการดูแลคอยจับพิรุธความผิดปกติ ป้องกันปัญหาอาชญากรรม อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากทหาร ตำรวจ อาสาสมัครมาช่วยสอดส่องดูแล ร่วมกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีอยู่ จึงเชื่อมั่นในความปลอดภัยได้