เชียงใหม่- ปีนี้สงกรานต์เชียงใหม่ไร้มนต์ขลัง เจ้าของธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมกุมขมับหมดหวังโกยรายได้เหตุนักท่องเที่ยวจองห้องพักไม่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ระบุหมดช่วงเทศกาลหากสายป่านไม่ยาวต้องปลดพนักงานก่อนเป็นอันดับแรก หากสถานการณ์บ้านเมืองไม่ดีขึ้นเตรียมขายกิจการกันเป็นแถว ด้านททท.ปั้นตัวเลขบนอากาศหวังรายได้สงกรานต์ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 700 ล้าน เพ้อไตรมาส 3 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะคึกคักขึ้น
สงกรานต์เชียงใหม่ปี 52 ยอดจองโรงแรมต่ำสุด
จากสถิติของสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ มีการแจ้งยอดจองโรงแรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีที่ผ่านมาว่าจะอยู่ในระหว่าง 90-95 % แต่สำหรับปี 2552 ถือเป็นตัวเลขการจองห้องพักที่น้อยที่สุดไม่ถึง 40 % ซึ่งถือเป็นช่วงวิกฤตที่สุดของธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมของจังหวัดเชียงใหม่
นายกนก สุวรรณวิสูตร์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจโรงแรมในภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าอยู่ในสภาวะที่ซบเซาที่สุดโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง โดยดูจากอัตราการเข้าพักโรงแรมระดับ 3 ,4 และ 5 ดาว ช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมาเฉลี่ยที่ 57% ,73% และ 40% ตามลำดับ ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีอัตราเข้าพักที่ 81% ,84% และ 72% ตามลำดับ โดยเฉพาะอัตราการเข้าพักของโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ลดลงต่ำสุดจาก 72 %เหลือเพียง 40 % เท่านั้น
สำหรับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งจังหวัดอยู่ที่ 38% จากปีก่อนเฉลี่ยที่ 60% ส่วนเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าอัตราเข้าพักโรงแรมในเชียงใหม่จะเฉลี่ยที่ 50-55% จากทุกปีจะอยู่ที่ 90-95%
นายกนก กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการโรงแรมระดับ 4-5 ดาวกำลังวิเคราะห์กันว่า หากสถานการณ์หลังจากนี้ไปไม่ดีขึ้น อาจจะต้องมีการปรับลดพนักงานลงอย่างน้อย 15% หรือประมาณ 4,000 คน และหากยังไม่ดีขึ้นอีกก่อนสิ้นปีหรือไตรมาส 3 อาจจะมีการปรับลดพนักงานอีกครั้งราว 25% หรือ 6,000 คน และเมื่อถึงที่สุดแล้วเจ้าของโรงแรมรายใดสายป่านทางการเงินไม่ยาวพอก็อาจจะต้องถึงกับขายกิจการก็เป็นได้
“ตอนนี้แต่ละโรงแรมได้มีการลดราคาห้องพักลงกว่า 70% ของราคาปกติแล้ว ซึ่งไม่สามารถลดลงกว่านี้ได้อีก อย่างโรงแรม 3 ดาวปัจจุบันราคาเหลือคืนละ 900-1,000 บาท หากต่ำกว่านี้กิจการก็อยู่ไม่ได้”
ด้านนายสมฤทธิ์ ไหคำ ประธานชมรมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ กล่าวว่า ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาเทศกาลสงกรานต์ของเชียงใหม่ถือว่าเป็นที่นิยมอันดับหนึ่งของประเทศ ที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเล่นน้ำสงกรานต์ที่นี่ แต่สำหรับปีนี้น่าจะถือเป็นปีที่ภาวะท่องเที่ยวต่ำสุดก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจหรือการเมือง ที่ทำให้ประเทศวุ่นวายยังหาจุดจบไม่เจอ ปีที่ผ่านมาแม้ภาวะเศรษฐกิจส่อแววว่า จะมีปัญหาแต่ตัวเลขของนักท่องเที่ยวก็ยังดีกว่าปีนี้มาก ซึ่งถือว่าเมื่อเทียบกันกับปีที่แล้วปี 52 นี้ตัวเลขตกลงไปกว่า 50 % ในส่วนมัคคุเทศก์เองแทบจะไม่มีลูกค้าเข้ามาเลย
“ก็ไม่รู้ว่าตลอดทั้งปีนี้ภาวการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้นหรือไม่ ถ้าดีไม่เท่าปีที่แล้วก็ขอแค่สามารถประคองกันไปให้พ้นปีนี้ก็แล้วกันและหวังว่าทั้งภาวะเศรษฐกิจและการเมืองน่าจะสดใสและเข้าใจกันมากกว่านี้”
ททท.ฝันตัวเลขรายได้สงกรานต์ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 700 ล.
นายเฉลิมศักดิ์ สุรนันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวภาคเหนือ เขต 1(ททท.) เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์ในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยร้อยละ 70 ซึ่งเดินทางมาเป็นครอบครัวโดยรถยนต์ส่วนตัว ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าจะเริ่มคึกคักในไตรมาส 3 เป็นต้นไป โดยขณะนี้อัตราการจองห้องพักนักท่องเที่ยวจองมาแล้ว 50 % ดังนั้น นักท่องเที่ยวไม่ต้องเกรงว่า มาเที่ยวสงกรานต์ที่เชียงใหม่แล้ว จะไม่มีที่พักเพราะยังมีห้องพักเหลืออีกอย่างเพียงพอ
ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวภาคเหนือเขต 1 เชื่อว่า ช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันในช่วงสงกรานต์ จะมีเงินสะพัดมายังภาคเหนือทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายวันละประมาณ 3,500 บาท ต่อหัวต่อคน แต่ทั้งนี้สงกรานต์ เชียงใหม่ จะต้องชูจุดขายด้านวัฒนธรรม ประเพณีล้านนาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวหรือ กระตุ้นไทยเที่ยวไทยเป็นหลัก
บรรยากาศสงกรานต์ปีนี้ของเชียงใหม่ยังเชื่อว่า เป็นมนต์เสน่ห์สำคัญที่คนจะมาเที่ยว โดยภายใต้แนวคิดแบบวัฒนธรรมล้านนานั้น ยังสร้างความประทับใจได้มากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวคนไทยเอง และมั่นใจว่ารายได้ที่จะตกในเชียงใหม่น่าจะอยู่ราวๆ วันละ 120-150 ล้าน ส่วนเรื่องหมอกควันก็ไม่น่าจะมีผลกระทบใดๆ แต่ที่ห่วงคือเรื่องการใช้จ่ายต่อหัวของประชาชนที่อาจจะมีน้อยลงช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้
ปีนี้ปิดถนนรอบคูเมืองให้สาดน้ำกันเต็มที่
พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า งาน "ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่" ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนจะปิดถนนรอบคูเมือง ตั้งแต่เวลา 12.00-18.00 น. ให้เป็นถนนคนเดินเล่นสาดน้ำตลอดวัน ห้ามรถทุกประเภทวิ่งผ่าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ควบคุมแอลกอฮอล์ และรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี มีเจ้าหน้าที่ประจำ 4 มุมเมือง จุดละ 30 นายและจราจร 200 นาย รักษาความปลอดภัย และกำหนดจุดจอดรถบริเวณ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สถานีบริการน้ำมัน และพื้นที่เอกชนแทน ตาม 4 มุมเมืองแทน ยกเว้นรถสาธารณะหรือรถรับจ้างสี่ล้อแดง ที่ให้วิ่งผ่านรอบคูเมืองได้