เอเอฟพี - พรรคฝ่ายค้านของมาเลเซียฉลองชัยชนะในศึกเลือกตั้งซ่อมวานนี้ (8) หลังสามารถคว้าชัยชนะเหนือพรรครัฐบาลได้ใน 2 รัฐจากทั้งหมด 3 รัฐ และถือเป็นชัยชนะของฝ่ายค้านหลังจากฝ่ายรัฐบาลเพิ่งได้นาจิบ ราซัก มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ผลการเลือกตั้งซ่อมคราวนี้ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอังคาร (7) ปรากฏว่า แนวร่วมรัฐบาล "บาริซันเนชั่นแนล" ที่มีพรรคอัมโนเป็นแกนนำต้องพ่ายแพ้ใน 2 พื้นที่สำคัญ คือ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรัฐเประ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย รวมทั้ง การเลือกตั้งสมาชิกสภาประจำรัฐในรัฐเกดะห์ด้วย ขณะที่รัฐบาลคว้าชัยชนะได้เพียงรัฐเดียวเท่านั้นคือการเลือกตั้งสมาชิกสภารัฐที่ซาราวักบนเกาะบอร์เนียว
อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นเสียงสะท้อนของชาวมาเลเซียที่เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถทำตามสัญญาและไม่สามารถดำเนินการปฏิรูปได้ โดยเขาระบุว่า แรงสนับสนุนของฝ่ายค้านมีเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน นับตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งฝ่ายค้านได้รับชัยชนะเป็นผู้ปกครอง 5 ใน 13 รัฐ และได้ที่นั่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของที่นั่งในรัฐสภา อันวาร์ยังกล่าวว่าผลการเลือกตั้งซ่อมแสดงให้เห็นว่าชาวมาเลเซียต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในประเทศ
การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นบททดสอบแรกของพรรครัฐบาลภายใต้การนำของนาจิบ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเมื่อวันศุกร์(3)ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะบ่งชี้ความนิยมของชาวมาเลเซียที่มีต่อรัฐบาล หลังจากเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลต้องสูญเสียที่นั่งให้กับฝ่ายค้านในการเลือกตั้งทั่วไปเป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศ
นักวิเคราะห์ระบุว่า นาจิบ ซึ่งประกาศจะปฏิรูปพรรคอัมโนที่เป็นตัวแทนของชาวมาเลย์มุสลิมซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศ รวมทั้งจะปรับปรุงความสัมพันธ์กับชนกลุ่มน้อยชาวจีนและอินเดีย จำเป็นต้องเร่งนำนโยบายมาปฏิบัติให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเอาจริงกับการปฏิรูปเพราะอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี ผู้นำคนก่อน ไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาว่าจะจัดการกับการคอร์รัปชั่น และการปรับปรุงความสัมพันธ์ด้านเชื้อชาติในหมู่ชาวมาเลเซียได้ในระหว่างที่เขาครองอำนาจเป็นเวลา 6 ปี โดยนาจิบต้องทำให้ชาวมาเลเซียกลับมาสนับสนุนรัฐบาลให้ได้อีกครั้งก่อนจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2013
อิบราฮิม ซุฟเฟียน นักวิเคราะห์จากเมอร์เดกา เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัททำโพลกล่าวว่า นาจิบจะต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นชิ้นเป็นอันให้ได้ก่อน ชาวมาเลเซียจึงจะหันกลับมาสนับสนุนแนวร่วมรัฐบาลอีกครั้ง เพราะชาวมาเลเซียต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในขณะนี้ และนาจิบไม่สามารถคาดหวังว่าการใช้วาทศิลป์เพียงอย่างเดียวจะช่วยเขาได้
ทางด้านโก๊ะสึคูน ประธานพรรคเกราคาน ที่มีฐานเสียงเป็นชาวมาเลย์เชื้อสายจีนและเป็นหนึ่งในแนวร่วมรัฐบาล กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมแสดงให้เห็นว่า แนวร่วมรัฐบาลบาริซันเนชั่นแนลที่ครองอำนาจในเวทีการเมืองมาเลเซียกว่าครึ่งศตวรรษ ยังไม่สามารถเรียกเสียงสนุนกลับคืนมาได้โดยเฉพาะในหมู่ประชาชนที่ไม่ได้มีเชื้อสายมาเลย์ และแนวร่วมรัฐบาลจะต้องดูผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจเพื่อให้เกิดการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาวต่อไป
ผลการเลือกตั้งซ่อมคราวนี้ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอังคาร (7) ปรากฏว่า แนวร่วมรัฐบาล "บาริซันเนชั่นแนล" ที่มีพรรคอัมโนเป็นแกนนำต้องพ่ายแพ้ใน 2 พื้นที่สำคัญ คือ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรัฐเประ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย รวมทั้ง การเลือกตั้งสมาชิกสภาประจำรัฐในรัฐเกดะห์ด้วย ขณะที่รัฐบาลคว้าชัยชนะได้เพียงรัฐเดียวเท่านั้นคือการเลือกตั้งสมาชิกสภารัฐที่ซาราวักบนเกาะบอร์เนียว
อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นเสียงสะท้อนของชาวมาเลเซียที่เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถทำตามสัญญาและไม่สามารถดำเนินการปฏิรูปได้ โดยเขาระบุว่า แรงสนับสนุนของฝ่ายค้านมีเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน นับตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งฝ่ายค้านได้รับชัยชนะเป็นผู้ปกครอง 5 ใน 13 รัฐ และได้ที่นั่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของที่นั่งในรัฐสภา อันวาร์ยังกล่าวว่าผลการเลือกตั้งซ่อมแสดงให้เห็นว่าชาวมาเลเซียต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในประเทศ
การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นบททดสอบแรกของพรรครัฐบาลภายใต้การนำของนาจิบ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเมื่อวันศุกร์(3)ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะบ่งชี้ความนิยมของชาวมาเลเซียที่มีต่อรัฐบาล หลังจากเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลต้องสูญเสียที่นั่งให้กับฝ่ายค้านในการเลือกตั้งทั่วไปเป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศ
นักวิเคราะห์ระบุว่า นาจิบ ซึ่งประกาศจะปฏิรูปพรรคอัมโนที่เป็นตัวแทนของชาวมาเลย์มุสลิมซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศ รวมทั้งจะปรับปรุงความสัมพันธ์กับชนกลุ่มน้อยชาวจีนและอินเดีย จำเป็นต้องเร่งนำนโยบายมาปฏิบัติให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเอาจริงกับการปฏิรูปเพราะอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี ผู้นำคนก่อน ไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาว่าจะจัดการกับการคอร์รัปชั่น และการปรับปรุงความสัมพันธ์ด้านเชื้อชาติในหมู่ชาวมาเลเซียได้ในระหว่างที่เขาครองอำนาจเป็นเวลา 6 ปี โดยนาจิบต้องทำให้ชาวมาเลเซียกลับมาสนับสนุนรัฐบาลให้ได้อีกครั้งก่อนจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2013
อิบราฮิม ซุฟเฟียน นักวิเคราะห์จากเมอร์เดกา เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัททำโพลกล่าวว่า นาจิบจะต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นชิ้นเป็นอันให้ได้ก่อน ชาวมาเลเซียจึงจะหันกลับมาสนับสนุนแนวร่วมรัฐบาลอีกครั้ง เพราะชาวมาเลเซียต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในขณะนี้ และนาจิบไม่สามารถคาดหวังว่าการใช้วาทศิลป์เพียงอย่างเดียวจะช่วยเขาได้
ทางด้านโก๊ะสึคูน ประธานพรรคเกราคาน ที่มีฐานเสียงเป็นชาวมาเลย์เชื้อสายจีนและเป็นหนึ่งในแนวร่วมรัฐบาล กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมแสดงให้เห็นว่า แนวร่วมรัฐบาลบาริซันเนชั่นแนลที่ครองอำนาจในเวทีการเมืองมาเลเซียกว่าครึ่งศตวรรษ ยังไม่สามารถเรียกเสียงสนุนกลับคืนมาได้โดยเฉพาะในหมู่ประชาชนที่ไม่ได้มีเชื้อสายมาเลย์ และแนวร่วมรัฐบาลจะต้องดูผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจเพื่อให้เกิดการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาวต่อไป