จับตา “ทัพคนรักป๋า” ความเคลื่อนไหวของคนหัวใจสีเหลือง

รายงาน
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่

หลังจาก “กลุ่มคนเสื้อแดง” หรือที่อ้างตนเองว่าเป็น “กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)” ประกาศจัดการชุมนุมแบบต่อเนื่องยืดยาว เพื่อต้องการแตกหักกับรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยรวมตัวกันชุมนุมล้อมหน้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา วาดหวังต้องการสร้างภาพให้เป็นรัฐบาลไร้ทำเนียบ แบบที่ผองพี่น้องประชาชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากทั่วประเทศ เคยทำประสบผลสำเร็จมาแล้ว

ทั้งนี้ ตลอดการชุมนุมของบรรดากลุ่มเสื้อแดงดังกล่าว ปรากฏว่าได้จัดให้มีการเชื่อมต่อสัญญาณวีดีโอลิงก์หรือไม่ก็การโฟนอินเข้ามายังเวทีคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันกลายเป็นนักโทษหนีอาญาแผ่นดิน หรือที่เรียกกันว่า “นักโทษชาย (นช.) แม้ว” ในฐานะหัวหน้ากลุ่มเสื้อแดงและผู้อยู่เบื้องหลังการจัดชุมนุมตัวจริงเสียงจริง ได้มีโอกาสปราศรัยกับบรรดาสาวกเสื้อแดงเหล่านั้น

ทว่า เนื้อหาของการปราศรัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณมุ่งเน้นสื่อสารกับมวลชนคนเสื้อแดงนั้น ช่างสอดรับกันเสียเหลือเกินกับการให้ข้อมูลของบรรดาแกนนำที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันขึ้นเวที โดยเฉพาะคีย์หลักอย่าง 3 เกลอหัวขวด นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยแทบทุกครั้งจะเป็นการพูดจาโจมตีและใสร้ายป้ายสีพุ่งเป้าไปยัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่าเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญและอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 และยังเลยลามไปถึงองคมนตรีท่านอื่นๆ แถมยังมีเลศนัยแฝงเร้นอย่างมีนัยสำคัญถึงความต้องการทำลายล้างระบบอำมาตยาธิปไตยอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จากการที่บรรดาผู้นำรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำเหล่าทัพไม่ว่าจะเป็นกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงข้าราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหลายกลับมีท่าทีวางเฉยมาตลอด โดยแทบจะไม่มีการออกมาดำเนินการใดๆ หรือเพียงแต่จะออกมาตอบโต้และชี้แจงด้วยข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องก็แทบจะไม่ปรากฏ โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลสื่อสารมวลชนของภาครัฐ หรือภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐกลับแทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในเรื่องนี้

จึงไม่แปลกที่จะมีพี่น้องประชาชนกลุ่มต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ไม่ข้องเกี่ยวกับรัฐบาลหรือส่วนราชการใดๆ ต้องกระโดดออกมาปกป้องสถาบันอันเป็นที่เคารพรักและเทิดทูนของประชาชน โดยเฉพาะต้องการปกป้องคนดีอย่าง ป๋าเปรม-พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งได้ทยอยออกมาเคลื่อนไหวแล้วอย่างต่อเนื่อง

สงขลาตื่นก่อนในนาม “คนรักป๋าเปรม”

ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้การจุดไฟของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดำเนินมาต่อเนื่อง ส่งผลให้วันที่ 30 มีนาคม ชาวจังหวัดสงขลา ซึ่งถือเป็นบ้านเกิดของประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษจำนวนมากได้อดรนทนไม่ไหว ต้องออกมารวมตัวกันในนาม “กลุ่มคนรักป๋าเปรม” เพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มเสื้อแดง เพื่อปกป้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นปูชนียบุคคล ที่ชาวสงขลาศรัทธาและเคารพรักเป็นอย่างยิ่ง

กลุ่มคนรักป๋าเปรมเริ่มออกมาเคลื่อนไหวโต้ตอบด้วยการร่วมชุมนุมกัน ที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์พธำมรงค์ ถ.ปละท่า อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อแสดงพลังและแสดงถึงสัญลักษณ์ว่า ชาวสงขลาไม่พอใจต่อการกระทำของ นช.แม้ว และกลุ่มเสื้อแดง โดยได้ออกแถลงการณ์พร้อมข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ยื่นต่อรัฐบาลเพื่อให้ใช้กฎหมายหยุดยั้งการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มคนเสื้อแดง โดยแถลงการณ์ดังกล่าวใช้หัวข้อว่า “กรณีทักษิณบิดเบือนกล่าวเท็จใส่ร้ายป๋าเปรม” มีเนื้อหาสาระสำคัญ คือ

ระบอบทักษิณกำลังฟื้นกลับมาใหม่ พยายามกล่าวเท็จ บิดเบือน ใส่ร้าย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อต้องการสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง เพื่อมุ่งหวังจะให้เกิดความวุ่นวาย นำไปสู่การเจรจาออก พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ “อภัยโทษความผิดทักษิณ” ยกเลิกความผิด คดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ที่ศาลสั่งจำคุก 2 ปี, ยกเลิกความผิดคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท, คดีโกงเงินธนาคารกรุงไทยให้รัฐบาลพม่ากู้, คดีหนีภาษีสรรพากร ฯลฯ โดยที่ 3 เกลอหัวขวดปลุกม็อบคนเสื้อแดงก็เพื่อหวังให้นายใหญ่ทักษิณได้กลับบ้าน

สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มคนรักป๋าเปรม ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อหยุดยั้งการใส่ร้ายป้ายสีโจมตีประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษทันที 2.ตัดสัญญาณโฟนอินและวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณทันที เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม 3.รัฐบาลต้องนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนมาจำคุกตามคำพิพากษาของศาล 4.ให้จับแกนนำคนเสื้อแดงคือ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ มาดำเนินคดีทันที

ลั่นขอปกป้อง “ป๋าเปรม” ถึงที่สุด

นายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีนครสงขลา ในฐานะที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนรักป๋าเปรมด้วย เปิดเผยว่า การที่กลุ่มคนรักป๋าเปรมมาร่วมชุมนุมกันนั้น เพื่อแสดงพลังมวลชน และเพื่อต้องการสื่อสารกับสังคมโดยทั่วไปให้รับรู้ว่า การกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดง หรือ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เหมือนเป็นการดิ้นรนเฮือกสุดท้ายเพื่อหวังที่จะได้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมที่ตนสร้างขึ้น

“กลุ่มคนรักป๋าเปรม จึงได้ออกแถลงการณ์และข้อเรียกร้องดังกล่าวขึ้น และนำไปยื่นให้แก่ นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อให้ส่งผ่านไปให้ถึงมือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้กฎหมายหยุดยั้งการกระทำดังกล่าวของ นช.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง” นายกเทศมนตรีนครสงขลา กล่าวและว่า

นอกจากกลุ่มคนรักป๋าเปรม จะออกมาคัดค้านการกระทำของกลุ่มเสื้อแดงและทักษิณแล้ว เรายังต้องการให้กำลังใจ พล.อ.เปรมด้วย ที่ท่านทำงานให้แก่ประเทศชาติและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาโดยตลอด หากเราไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้มาปกป้องให้คนที่ทำความดีให้แก่แผ่นดิน สักวันหนึ่งเราก็จะไม่มีคนทำดีให้แก่แผ่นดินอีก จะมีก็แต่คนสอพลอและเห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้อง

“เพราะฉะนั้น กลุ่มคนรักป๋าเปรมเราจึงต้องออกมาเคลื่อนไหว นำพี่น้องประชาชนที่เป็นมวลชนออกมายืนยันว่า เรารักและศรัทธา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เราไม่ต้องการให้คนเสื้อแดงหรือระบอบทักษิณมาทำลายสถาบันที่สำคัญอีกสถาบันหนึ่งของชาติไทยคือ สถาบันองคมนตรี และเราจะดำเนินการในเรื่องนี้จนถึงที่สุดเลยด้วย” นายอุทิศกล่าว

 ร่วมเติมสีสันจาก “พันธมิตรฯ”

เมื่อแถลงการณ์และข้อเรียกร้องของกลุ่มคนรักป๋าเปรมแพร่กระจายออกไปในวันที่ 30 มีนาคม พร้อมๆ กับมีการประชาสัมพันธ์กระจายข่าวเพื่อให้ชาวสงขลามาร่วมชุมนุมเพื่อออกมาเคลื่อนไหวปกป้อง “ป๋าเปรม” โดยการเดินขบวนไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อผ่านไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในวันต่อมานั้น

ทำให้เช้าของวันที่ 31 มีนาคม คลื่นมหาชนจากทั่วทุกสารทิศในจังหวัดสงขลาร่วมหมื่นคน ได้มาร่วมชุมนุมกันที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์พธำมรงค์อีกครั้ง เพื่อร่วมเดินขบวนไปยังศาลากลางจังหวัดสงขลา ทำให้ขบวนดังกล่าวมีความยาวไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร และไม่แปลกที่ในริ้วขบวนจะมีมวลชนที่มาพร้อมกับ “มือตบ” อุปกรณ์ประจำตัวของผองพี่น้อง “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งถือว่าได้สร้างสีสันให้แก่ริ้วขบวนได้อย่างน่าสนใจมากเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม การเติมแต้มแต่งสีสันให้แก่การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนรักป๋าเปรมครั้งนี้ แม้ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสงขลา” จะไม่มีการประกาศเข้าร่วมเคลื่อนไหวด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วมวลชนของทั้งสองกลุ่มก็แทบจะเป็นชุดเดียวกัน

เมื่อขบวนเดินเข้ามาถึงศาลากลางจังหวัดสงขลา ได้มีการเผ่าหุ่น นช.ทักษิณและ 3 เกลอหัวขวด ก่อนที่นายกเทศมนตรีนครสงขลา จะเป็นตัวแทนในการยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา โดยผู้ว่าฯ รับปากว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ก่อนที่ผู้ร่วมชุมนุมจะแยกย้ายกันกลับ และรอติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่อไป โดยมีสัญญาใจร่วมกันว่า หากกลุ่มเสื้อแดงยังไม่หยุดจาบจ้วงสถาบันองคมนตรี หรือข้อเรียกร้องไม่มีความคืบหน้า กลุ่มคนรักป๋าเปรมสงขลา ก็จะระดมพลขึ้นไปปกป้องป๋าเปรมที่กรุงเทพมหานครทันที

 “คนรักป๋าเปรม” ทั่วประเทศเคลื่อนตาม

จากการที่กลุ่มคนรักป๋าเปรม ในจังหวัดสงขลาออกมาเคลื่อนไหว ได้ส่งผลให้บรรดากลุ่มคนรักป๋าที่กระจายอยู่ทั่วประเทศได้ลุกขึ้นมาร่วมให้กำลังใจและปกป้องป๋า พล.อ.เปรม รวมถึงสถาบันองคมนตรีตามมาด้วย เช่น เครือข่ายคนปักษ์ใต้จังหวัดตรัง, กลุ่มคนรักป๋าเปรมจังหวัดนครศรีธรรมราช, กลุ่มคนขอนแก่นรักในหลวง จังหวัดขอนแก่น และอีกหลายๆ จังหวัดทั่วทุกภาค

ในส่วนของพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในจังหวัดต่างๆ ก็ออกมาร่วมเคลื่อนไหวในครั้งนี้ด้วย เช่น พันธมิตรฯ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงาและจังหวัดชุมพร เป็นต้น พร้อมออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลใช้กฎหมายหยุดการกระทำดังกล่าวของกลุ่มคนเสื้อแดงทันที และสำทับด้วยว่าหากรัฐบาล กองทัพและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องยังเพิกเฉย พันธมิตรฯ ในหลายจังหวัดพร้อมที่จะยกทัพไปปกป้องประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษถึงกรุงเทพมหานครด้วย

นอกจากนี้แล้ว เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ พล.อ.เปรม เดินทางไปพักผ่อนที่บ้านไร้กังวลในจังหวัดนครราชสีมา ก็เปิดโอกาสให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคอีสานกว่า 10 จังหวัด รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เข้าพบเพื่อให้กำลังใจและมีพิธีรดน้ำดำหัวอีกด้วย

ถึงแม้พี่น้องประชาชนคนรักป๋าทั่วประเทศได้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องเพื่อร่วมปกป้อง “ป๋าเปรม” และสถาบันองคมนตรีมาหลายวันแล้ว แต่จนถึงขณะนี้กลับยังไม่มีทีท่าว่า ระบอบทักษิณจะหยุดพฤติกรรมดังกล่าว แถมยังคงเดินหน้าโจมตีหนักขึ้นเรื่อยๆ แถมกลุ่มนปช.หรือกลุ่มเสื้อแดง ยังประกาศกร้าวนัดชุมนุมใหญ่ เพื่อแสดงพลัง วันนี้( 8 เม.ย.) ทำให้กลุ่มคนรักป๋าเปรมสงขลา คนรักป๋าเปรมนครศรีธรรมราช และในอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ ต่างพากันเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อปกป้องป๋าเปรม ตามสัญญา

เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีลุ้นว่า กองทัพเสื้อแดงกับกองทัพคนรักป๋า จะมีการประจันหน้ากันหรือไม่ และกรุงเทพฯจะ เดือดเป็นไฟขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่