xs
xsm
sm
md
lg

ยูเอ็นยังไร้ข้อสรุปตอบโต้โสมแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์-การประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินาน 3 ชั่วโมงเมื่อวันอาทิตย์(5) เพื่อหารือเกี่ยวกับการยิงจรวดพิสัยไกลของเกาหลีเหนือได้ปิดฉากลงโดยยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันในการกำหนดมาตรการตอบโต้เกาหลีเหนือได้ แม้ที่ประชุมจะได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากรัฐบาลสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรที่ต้องการให้ลงโทษเกาหลีเหนือโดยเร็ว
คล็อด เฮลเลอร์ เอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำสหประชาชาติในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงฯประจำเดือนนี้ กล่าวหลังการประชุมฉุกเฉินว่า การหารือของสมาชิกทั้ง 15 ชาติของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้ข้อสรุปเพียงแค่จะมีการนัดหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการที่เหมาะสมต่อไปเท่านั้น แม้หลายฝ่ายจะมองว่า การกระทำของเกาหลีเหนือมีผลต่อความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตอนเหนือ ที่มีระบบเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 6 ของระบบเศรษฐกิจโลกก็ตาม
ขณะที่ ฮิโรฟูมิ นากาโซเนะ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นได้ออกมาให้สัมภาษณ์ที่กรุงโตเกียวว่า ญี่ปุ่นจะยังคงผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ลงมติครั้งใหม่เพื่อลงโทษรัฐบาลเกาหลีเหนือให้ได้ต่อไป
นักการทูตรายหนึ่งเปิดเผยกับรอยเตอร์โดยระบุว่า ที่ประชุมมีความเห็นแตกแยกออกเป็น 2 ฝ่ายด้วยคะแนนเสียง 10 : 5 โดยในบรรดาชาติที่เป็นสมาชิกถาวรทั้ง 5 ชาตินั้น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และอังกฤษ เห็นว่าการกระทำของเกาหลีเหนือละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงฯ อย่างชัดเจน ขณะที่จีน ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของเกาหลีเหนือ รวมทั้ง รัสเซียต่างเห็นว่า การยิงสิ่งที่เกาหลีเหนืออ้างว่าเป็นดาวเทียมนั้นไม่เป็นการละเมิดมติที่ 1718 แต่อย่างใด โดยจีนและรัสเซีย เรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีความอดกลั้น แต่ก็พร้อมที่จะใช้สิทธิยับยั้งเพื่อขัดขวางมติใดๆของคณะมนตรีความมั่นคงฯที่จะนำไปสู่การลงโทษเกาหลีเหนือ
นอกจากนั้น ผู้แทนอีกหลายชาติในคณะมนตรีความมั่นคงฯ เช่น ลิเบีย เวียดนาม และยูกันดา ต่างไม่คิดว่าการกระทำของเกาหลีเหนือละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงฯ พร้อมเรียกร้องให้ระงับการตอบโต้ใดๆ ต่อเกาหลีเหนือ เพื่อป้องกันไม่ให้การเจรจา 6 ฝ่ายในการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือต้องล้มเหลว
ซูซาน ไรซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ และยูกิโอะ ทาคาสึ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสหประชาชาติยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐฯและญี่ปุ่นต้องการให้มีมติคณะมนตรีความมั่นคงฯฉบับใหม่เกี่ยวกับเกาหลีเหนือที่มีความเข้มงวดในการบังคับใช้มากขึ้น โดยอาจเสนอให้ขยายระยะเวลาของมาตรการห้ามขายอาวุธให้เกาหลีเหนือออกไป และอาจมีมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อเกาหลีเหนือด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันได้มีปฏิกิริยาของสื่อเกาหลีใต้เกี่ยวกับการยิงจรวดพิสัยไกลของเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเช่นกัน โดยบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ จุงอัง อิลโบ หนังสือพิมพ์ชั้นนำของเกาหลีใต้ระบุว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องยอมรับความจริงว่า การยิงจรวดพิสัยไกลของเกาหลีเหนือได้ทำให้สถานะด้านความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีเปลี่ยนแปลงไป และเกาหลีใต้จำเป็นต้องปรับปรุงกองทัพใหม่ เพราะที่ผ่านมากองทัพเกาหลีใต้จะให้ความสำคัญกับการรับมือสงครามตามรูปแบบเพื่อรับมือการโจมตีอย่างเปิดเผยของเกาหลีเหนือเท่านั้น ไม่ใช่สงครามที่ฝ่ายเกาหลีเหนือมีศักยภาพในการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเช่นนี้
ส่วนในญี่ปุ่น ผลสำรวจความคิดเห็นโดยหนังสือพิมพ์โยมิอูริระบุว่า ร้อยละ 88 ของชาวญี่ปุ่นรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ขณะที่หนังสือพิมพ์แนวอนุรักษ์นิยมของญี่ปุ่นอย่าง ซันเคอิ ชิมบุน ระบุในบทบรรณาธิการว่า ญี่ปุ่นควรจะมีกลไกที่สามารถทำลายโรงงานขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้ก่อนที่จะเป็นฝ่ายถูกโจมตีโดยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
กำลังโหลดความคิดเห็น