เอเอฟพี - การชุมนุมประท้วงการประชุมสุดยอด จี 20 ที่กำหนดจัดขึ้นในกรุงลอนดอนวานนี้ (2) รุนแรงถึงขั้นมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างดุเดือดในวันพุธ(1) ผู้ชุมนุม 86 รายถูกจับ อีกทั้งมีชายผู้หนึ่งล้มลงหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
มีผู้คนหลายพันเข้าร่วมการประท้วงการประชุมระดับผู้นำของประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาชั้นนำ 20 ชาติ หรือ จี 20 ตลอดวันพุธ และมีชายผู้หนึ่งล้มลงหมดสติภายในวงล้อมสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของธนาคารกลางของอังกฤษ
ตำรวจและหน่วยรถพยาบาลลอนดอนระบุว่าได้รับแจ้งเหตุและเข้าไปช่วยปั๊มหัวใจให้กับชายคนดังกล่าวแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยในระหว่างปฐมพยาบาลอยู่นั้น ตำรวจยังถูกผู้ประท้วงปาขวดจำนวนมากใส่อีกด้วย
ขณะนี้ยังไม่มีการระบุสาเหตุการเสียชีวิตอย่างชัดเจน โดยจะต้องรอให้ไอพีซีซีซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระทำหน้าที่รับร้องทุกข์เกี่ยวกับตำรวจ เข้าไปสืบสวนให้แน่ชัด แต่ก่อนหน้านี้ก็มีผู้ประท้วงบาดเจ็บไปหลายรายจากการพยายามฝ่าแนวกั้นที่ตำรวจวางสกัดไว้ในย่านธนาคารกลางกรุงลอนดอน หลังจากที่เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงและมีการทำลายอาคารของสาขาแห่งหนึ่งของธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (อาร์เอสบี) ซึ่งเคยเป็นธนาคารเอกชนรายสำคัญ ทว่าประสบปัญหาจนรัฐบาลต้องเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในปีที่แล้ว
ตำรวจระบุว่าผู้ประท้วงมีด้วยกันราว 4,000 คน ซึ่งมีทั้งกลุ่มต่อต้านโลกาภิวัตน์ กลุ่มต่อต้านสงคราม และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้มารวมตัวกันที่ย่านการเงินของกรุงลอนดอน เพื่อเรียกร้องให้เพิ่มความช่วยเหลือแก่คนยากจนและกล่าวประณามพวกนักการธนาคารว่าเป็นต้นตอของวิกฤตการณ์ครั้งนี้
ผู้ประท้วงบางคนได้ทุบกระจกของสาขาของ อาร์เอสบี แล้วบุกเข้าไปทำลายข้าวของรวมทั้งคอมพิวเตอร์ด้วย สาขาที่ถูกทำลายตั้งอยู่ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ
ตำรวจปราบจลาจลได้สกัดพื้นที่บริเวณประตูหน้าของธนาคารไว้ แต่ก็ถูกขว้างปาด้วยขวดแก้ว กระป๋องเบียร์ และไข่ ขณะที่กำลังตำรวจอีกส่วนหนึ่งก็เข้าไปภายในธนาคารดังกล่าวเพื่อขับไล่ผู้บุกรุก ส่วนพวกมือดีก็พ่นสีสเปรย์ข้อความอาทิ "เดนมนุษย์" และ "ทำลายเงินเฟ้อ จับพวกคนรวยกินซะ"
ทั้งนี้ธนาคารดังกล่าวได้ปิดทำการเพราะมีการเตือนล่วงหน้าว่าอาจมีเหตุรุนแรง
ส่วนที่ด้านนอกของธนาคารกลางของอังกฤษ พวกผู้ประท้วงก็ปะทะกับตำรวจ โดยมีทั้งการด่าทอต่อว่า ปาระเบิดสี ประทัด และขวดแก้วเข้าใส่ ในขณะที่ตำรวจใช้โล่ป้องกันตัวและหาจังหวะโต้ตอบกลับเพื่อต้อนพวกผู้ประท้วงให้จนมุม
"จุดไฟ จุดไฟ แล้วจับพวกนายแบงก์โยนเข้าไป" เสียงผู้ประท้วงร้องตะโกน หลังจากนั้นมีการเผาหุ่นที่แต่งตัวเป็นพวกนายธนาคาร โดยหุ่นดังกล่าวถูกแขวนห้อยลงมาจากเสาไฟต้นหนึ่ง
มีผู้บาดเจ็บจากการปะทะกันหลายราย เด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้รับการพยาบาลปิดบาดแผลที่ศีรษะซึ่งมีเลือดโชก ส่วนนีล แคฟฟรีย์ ชาวลอนดอนวัย 45 ปีซึ่งกำลังตกงานก็มีเลือดอาบแก้ม และเขาอ้างว่าตำรวจทำร้ายร่างกายเขา
"ผมกำลังยืนอยู่เฉยๆ แต่จู่ๆ ตำรวจคนหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วใช้กระบองเหล็กฟาดผม" แคฟฟรีย์ยังเล่าเหตุการณ์บุกธนาคารอาร์บีเอสด้วยว่า "ผมเห็นคนๆ หนึ่งยกท่อนเหล็กใหญ่ท่อนหนึ่งขึ้นฟาดไปที่กระจก เขาคงโกรธมากจนหูอื้อตาลาย "
ไซมอน โอไบรเอน ผู้บัญชาการตำรวจลอนดอน บอกว่า "เท่าที่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดและจากฝ่ายตำรวจ มันดูเหมือนว่าผู้ประท้วงไม่ได้พยายามดำเนินการประท้วงให้เข้มข้นขึ้น แต่เป็นการบุกเข้าไปแล้วก่อเหตุรุนแรงมากกว่า"
"ภาพที่เราเห็นคือการบุกเข้าไปในธนาคารโดยเจตนา และเห็นชัดว่าพวกเขาพยายามที่จะขว้างปาข้าวของที่ติดไฟเข้าไปภายในธนาคารด้วย"
มีผู้คนหลายพันเข้าร่วมการประท้วงการประชุมระดับผู้นำของประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาชั้นนำ 20 ชาติ หรือ จี 20 ตลอดวันพุธ และมีชายผู้หนึ่งล้มลงหมดสติภายในวงล้อมสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของธนาคารกลางของอังกฤษ
ตำรวจและหน่วยรถพยาบาลลอนดอนระบุว่าได้รับแจ้งเหตุและเข้าไปช่วยปั๊มหัวใจให้กับชายคนดังกล่าวแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยในระหว่างปฐมพยาบาลอยู่นั้น ตำรวจยังถูกผู้ประท้วงปาขวดจำนวนมากใส่อีกด้วย
ขณะนี้ยังไม่มีการระบุสาเหตุการเสียชีวิตอย่างชัดเจน โดยจะต้องรอให้ไอพีซีซีซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระทำหน้าที่รับร้องทุกข์เกี่ยวกับตำรวจ เข้าไปสืบสวนให้แน่ชัด แต่ก่อนหน้านี้ก็มีผู้ประท้วงบาดเจ็บไปหลายรายจากการพยายามฝ่าแนวกั้นที่ตำรวจวางสกัดไว้ในย่านธนาคารกลางกรุงลอนดอน หลังจากที่เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงและมีการทำลายอาคารของสาขาแห่งหนึ่งของธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (อาร์เอสบี) ซึ่งเคยเป็นธนาคารเอกชนรายสำคัญ ทว่าประสบปัญหาจนรัฐบาลต้องเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในปีที่แล้ว
ตำรวจระบุว่าผู้ประท้วงมีด้วยกันราว 4,000 คน ซึ่งมีทั้งกลุ่มต่อต้านโลกาภิวัตน์ กลุ่มต่อต้านสงคราม และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้มารวมตัวกันที่ย่านการเงินของกรุงลอนดอน เพื่อเรียกร้องให้เพิ่มความช่วยเหลือแก่คนยากจนและกล่าวประณามพวกนักการธนาคารว่าเป็นต้นตอของวิกฤตการณ์ครั้งนี้
ผู้ประท้วงบางคนได้ทุบกระจกของสาขาของ อาร์เอสบี แล้วบุกเข้าไปทำลายข้าวของรวมทั้งคอมพิวเตอร์ด้วย สาขาที่ถูกทำลายตั้งอยู่ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ
ตำรวจปราบจลาจลได้สกัดพื้นที่บริเวณประตูหน้าของธนาคารไว้ แต่ก็ถูกขว้างปาด้วยขวดแก้ว กระป๋องเบียร์ และไข่ ขณะที่กำลังตำรวจอีกส่วนหนึ่งก็เข้าไปภายในธนาคารดังกล่าวเพื่อขับไล่ผู้บุกรุก ส่วนพวกมือดีก็พ่นสีสเปรย์ข้อความอาทิ "เดนมนุษย์" และ "ทำลายเงินเฟ้อ จับพวกคนรวยกินซะ"
ทั้งนี้ธนาคารดังกล่าวได้ปิดทำการเพราะมีการเตือนล่วงหน้าว่าอาจมีเหตุรุนแรง
ส่วนที่ด้านนอกของธนาคารกลางของอังกฤษ พวกผู้ประท้วงก็ปะทะกับตำรวจ โดยมีทั้งการด่าทอต่อว่า ปาระเบิดสี ประทัด และขวดแก้วเข้าใส่ ในขณะที่ตำรวจใช้โล่ป้องกันตัวและหาจังหวะโต้ตอบกลับเพื่อต้อนพวกผู้ประท้วงให้จนมุม
"จุดไฟ จุดไฟ แล้วจับพวกนายแบงก์โยนเข้าไป" เสียงผู้ประท้วงร้องตะโกน หลังจากนั้นมีการเผาหุ่นที่แต่งตัวเป็นพวกนายธนาคาร โดยหุ่นดังกล่าวถูกแขวนห้อยลงมาจากเสาไฟต้นหนึ่ง
มีผู้บาดเจ็บจากการปะทะกันหลายราย เด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้รับการพยาบาลปิดบาดแผลที่ศีรษะซึ่งมีเลือดโชก ส่วนนีล แคฟฟรีย์ ชาวลอนดอนวัย 45 ปีซึ่งกำลังตกงานก็มีเลือดอาบแก้ม และเขาอ้างว่าตำรวจทำร้ายร่างกายเขา
"ผมกำลังยืนอยู่เฉยๆ แต่จู่ๆ ตำรวจคนหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วใช้กระบองเหล็กฟาดผม" แคฟฟรีย์ยังเล่าเหตุการณ์บุกธนาคารอาร์บีเอสด้วยว่า "ผมเห็นคนๆ หนึ่งยกท่อนเหล็กใหญ่ท่อนหนึ่งขึ้นฟาดไปที่กระจก เขาคงโกรธมากจนหูอื้อตาลาย "
ไซมอน โอไบรเอน ผู้บัญชาการตำรวจลอนดอน บอกว่า "เท่าที่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดและจากฝ่ายตำรวจ มันดูเหมือนว่าผู้ประท้วงไม่ได้พยายามดำเนินการประท้วงให้เข้มข้นขึ้น แต่เป็นการบุกเข้าไปแล้วก่อเหตุรุนแรงมากกว่า"
"ภาพที่เราเห็นคือการบุกเข้าไปในธนาคารโดยเจตนา และเห็นชัดว่าพวกเขาพยายามที่จะขว้างปาข้าวของที่ติดไฟเข้าไปภายในธนาคารด้วย"
