xs
xsm
sm
md
lg

เสนอให้ศูนย์ประสานงานเป็นจุดจำหน่ายข้าวสาร ช่วยสานความสัมพันธ์เครือข่ายพธม.ในแต่ละพื้นที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข้าว ASTV เริ่มกระจายลงสู่พื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยพี่น้องพันธมิตรฯเสนอเป็นตัวแทนจำหน่ายจำนวนมาก โดยมีบางส่วนเสนอว่า ให้ใช้ศูนย์ประสานงานเป็นสถานที่จำหน่ายข้าวด้วย
สุราษฎร์ธานี –พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี เสนอให้ศูนย์ประสานงานทุกจังหวัด/อำเภอเป็นจุดจำหน่ายข้าวสารASTV หวังสานความสัมพันธ์เครือข่ายพันธมิตรฯในแต่ละพื้นที่ เริ่มต้นตั้งชื่อ”ร้านเถ้าแก่ชุมชน” เชื่อสามารถพัฒนาเป็นสหกรณ์ได้ในอนาคต

นายเกียรติศักดิ์ ชาครหัตถะการ ประธานศูนย์ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำหรับช่องทางการจำหน่ายข้าวสารASTV อยากให้ศูนย์ประสานงานของทุกจังหวัดและศูนย์ประสานงานทุกอำเภอเป็นสถานที่ในการกระจายสินค้าเช่นข้าวสารASTV เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์กันในหมู่สมาชิกพันธมิตรฯในทุกมิติ ทั้งด้านมวลชน ด้านค้าขาย และอื่นๆ

นอกจากจะมีการจำหน่ายข้าวสารแล้ว ก็ควรที่จะมีการสอบถามรายชื่อไป เพื่อให้เกิดการติดต่อสอบถามและสามารถกระจายข่าวสารไปพร้อมกับการขายข้าวด้วย ซึ่งจะทำให้การกระจายข่าวสารของเครือข่ายพันธมิตรฯเกิดขึ้นได้อย่างทั่วถึงและจะได้ผลดีมาก โดยรายได้ก็จะหมุนเวียนเข้ามาช่วยการขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชนไปในตัวด้วย

สำหรับรูปแบบการดำเนินการจะเป็นลักษณะของการจัดตั้งร้านค้าชุมชน ในเบื้องต้นจะใช้ชื่อร้านค้าโครงการเถ้าแก่ชุมชน และตามด้วยชื่อจังหวัด หรือ อำเภอ หลังจากนั้นก็จะพัฒนาไปเป็นสหกรณ์ได้ในอนาคต

ขณะที่ยอดจำหน่ายข้าวสารASTV ในพื้นที่สุราษฎร์ธานีขณะนี้มียอดขายจำนวนมาก โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งหมด ณ วันที่ 25 มีนาคม 2552 จำหน่ายได้แล้วจำนวน 500 ถุง ข้าวที่ดีที่สุดจะเป็นข้าวหอมมะลิ100% รองลงมาเป็นข้าวกล้องหอมมะลิ 100% ส่วนข้าวหอมทิพย์ และข้าวขาว100% มียอดจำหน่ายน้อยลงตามลำดับ

ส่วนสินค้าอื่นที่นำมาจำหน่ายประกอบด้วยขนมของกวงเม้ง ซึ่งเป็นสินค้าที่สนับสนุน ASTV มีสินค้า ทั้งหมด 5 รายการ ประกอบด้วยเต่าห่ง (ถั่วตุ้บตั้บ) ถั่วตัด งาขาวตัด งาดำตัด และ คอเป็ด มียอดขายต่อเดือนๆ ละ 100 ลัง นอกจากนั้นยังมีกาแฟอินโคมิก ที่ลงโฆษณาทาง ASTV มียอดจำหน่ายเดือนละ 60ลัง

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้การจำหน่ายข้าวสารในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ฯได้มีการกระจายสินค้าออกไปตามศูนย์ประสานงานตามอำเภอต่างๆ แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้าของกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯให้มากขึ้น เช่น อำเภอท่าชนะ ได้มอบหมายให้ นายบุญสุข ขุนดำ การ์ดอาสา ที่ ลูกป่วยเป็นโรคลิ่มเลือด เป็นผู้จำหน่ายสินค้า ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเครือข่ายให้มีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากเคยประสบปัญหาเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาลูกที่มีสูง

ในส่วนของนายบุญสุข ได้นำเงินที่ได้รับจากผู้บริจาคมารับสินค้าไปจำหน่าย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าพร้อมที่จะต่อสู้และเป็นการแสดงให้พี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงได้เข้าใจ และรับรู้ถึงการช่วยเหลือของกลุ่มพี่น้องพันธมิตรฯทั่วประเทศและทั่วโลกที่มีต่อพี่น้องพันธมิตรฯด้วยกัน นอกจากนั้นยังได้มีการกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เช่น อำเภอชัยบุรี อำเภอนาสาร อำเภอพระแสง
กำลังโหลดความคิดเห็น