นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. โดยมีเรื่องสําคัญ คือเรื่องการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ ในเรื่องกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตในการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์ บรรเทาสาธารณภัย ของกรุงเทพมหานคร กล่าวคือ ตามที่คณะกรรมการป.ป.ช. ได้ มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา นายโภคิน พลกุล เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งรมว.มหาดไทย นายประชา มาลีนนท์ เมื่อครั้งดํารงตําแหน่ง รมช.มหาดไทย นายวัฒนา เมืองสุข เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งรมว.พาณิชย์ นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งผู้ว่าฯกทม. พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติเมื่อครั้งดํารงตําแหน่งผู ้อํานวยการสํานักป้ องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. บริษัทSTEYR –DAIMLER - PUCH Spezialfahrzeug AG&CO KG และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งผู้ว่าฯกทม. กรณีกระทําความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อรถดับเพลิง และเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์ บรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร และได้ ส่งรายงาน และเอกสาร พร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดําเนินการฟ้องคดีบุคคลดังกล่าว ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 70 นั้น
อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า สํานวนยังมีข้อไม่สมบูรณ์ พอที่จะฟ้องคดีและได้ มีหนังสือลงวันที่ 24 ธ.ค.51 แจ้งข้อไม่สมบูรณ์มายังคณะกรรมการป.ป.ช. พร้อมแต่งตั้งคณะทํางานผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุด จํานวน 8 คน มาให้ พิจารณา ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ช. ได้พิจารณาในการประชุม เมื่อวันที่ 6 ม.ค.52 แล้วมีมติให้ ตั้งคณะทํางานผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการป.ป.ช.โดยมี นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. พร้ อมเจ้าหน้าที่และผู้ทรงคุณวุฒิ รวม 8 คน เป็นคณะทํางาน เพื่อให้ คณะทํางานของทั้งสองฝ่ายร่วมกันพิจารณาพยานหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์ และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์
บัดนี้คณะกรรมการป.ป.ช. ได้รับรายงานว่า คณะทํางานร่วมระหว่างผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการป.ป.ช. และฝ่ายอัยการสูงสุดได้ ดําเนินการพิจารณาพยานหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์ และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว และจะได้ ส่งเรื่องให้ อัยการสูงสุด เพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้ วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 มาตรา 11 ต่อไป
อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า สํานวนยังมีข้อไม่สมบูรณ์ พอที่จะฟ้องคดีและได้ มีหนังสือลงวันที่ 24 ธ.ค.51 แจ้งข้อไม่สมบูรณ์มายังคณะกรรมการป.ป.ช. พร้อมแต่งตั้งคณะทํางานผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุด จํานวน 8 คน มาให้ พิจารณา ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ช. ได้พิจารณาในการประชุม เมื่อวันที่ 6 ม.ค.52 แล้วมีมติให้ ตั้งคณะทํางานผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการป.ป.ช.โดยมี นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. พร้ อมเจ้าหน้าที่และผู้ทรงคุณวุฒิ รวม 8 คน เป็นคณะทํางาน เพื่อให้ คณะทํางานของทั้งสองฝ่ายร่วมกันพิจารณาพยานหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์ และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์
บัดนี้คณะกรรมการป.ป.ช. ได้รับรายงานว่า คณะทํางานร่วมระหว่างผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการป.ป.ช. และฝ่ายอัยการสูงสุดได้ ดําเนินการพิจารณาพยานหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์ และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว และจะได้ ส่งเรื่องให้ อัยการสูงสุด เพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้ วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 มาตรา 11 ต่อไป