ศูนย์ข่าวภูเก็ต-พันธมิตรฯใต้บน 3 จังหวัดทั้งชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ผนึกกำลังประกาศต่อต้านอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำและโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ เชื่อส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างแน่นอน
นายสุนทร รักรงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ 16 จังหวัด เปิดเผย “ASTV ผู้จัดการรายวัน” ว่า ภายหลังจากที่แกนนำพันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้ ได้หารือร่วมกันและแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ในการนำเสนอปัญหาของแต่ละพื้นที่ ในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ตอนบน 3 จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี มีจุดยืนร่วมกันในการต่อต้าน อุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ โรงไฟฟ้าถ่านหิน และอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เนื่องจากแกนนำพันธมิตรฯและพันธมิตรฯทั้ง 3 จังหวัดมองว่า พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยว จากที่มีทะเลและชายหาดที่สวยงาม สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละจำนวนมาก การที่รัฐบาลจะเข้ามาส่งเสริมอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ ที่ประจวบคีรีขันธ์ และโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ไม่สอดรับกับการท่องเที่ยว เพราะอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำและโรงไฟฟ้าถ่านหิน ล้วนแต่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนทั้งสิ้น และไม่เฉพาะอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำและโรงไฟฟ้าถ่านหินเท่านั้น อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชุมชนทางพันธมิตรฯจะร่วมกับชุมชนในพื้นที่ต่อต้านทั้งหมด
“ที่เราปักธงต่อต้านอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำและโรงไฟฟ้า เนื่องจากตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับปัจจุบันและรัฐบาลได้ส่งเสริมให้มีอุตสาหกรรมเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และชุมพร ภายหลังจากที่ภาคตะวันออกได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมและภาคตะวันออกถูกควบคุมด้วยกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งต่อไปในอนาคตเชื่อว่าจะมีอุตสาหกรรมเกิดขึ้นในพื้นที่เป็นจำนวนมาก สิ่งที่ตามมาคือปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่มีให้เห็นเป็นตัวอย่างมาแล้วหลายพื้นที่ ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้น”
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯภาคใต้ เผยต่อว่า สำหรับการเคลื่อนไหวต่อต้านอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำและโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้น เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2552 แกนนำพันธมิตรฯ 3 จังหวัด ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ได้ประชุมร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรฯภาคตะวันตก ทั้งราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ กาญจนบุรี ที่ บ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ประชุมมีความเห็นเป็นไปในแนวทางเดียวกันในการร่วมกันต่อต้านอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ โรงไฟฟ้าถ่านหิน และอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้มอบหมายให้พันธมิตรฯฯประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้ประสานงานในการกำหนดยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนต่อต้านอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ
ส่วนรูปแบบการต่อต้าน จะต้องศึกษาต้นแบบจากกรณีการต่อต้านของชุมชนที่บ่อนอก เป็นต้นแบบ แล้วมาประยุกต์เข้ากับพื้นที่ อย่างกรณีที่ชุมพรตอนนี้ที่ชาวบ้านออกมาต่อต้านโครงการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กว่า 3,800 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจ่ายเงินค่าเวนคืน ก็เป็นโครงการที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ ซึ่งได้รับการต่อต้านจากประชานชนในพื้นที่เช่นกัน ไม่ต่างจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ที่กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตำบลชมโค ออกมาต่อต้าน เพราะเกรงว่าเมื่อโครงการเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต คุณภาพชีวิต รวมถึงสิ่งแวดล้อม เหมือนกับที่แม่เมาะ ซึ่งการต่อต้านนั้นพันธมิตรฯจะดำเนินการร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ทุกพื้นที่ที่เกิดปัญหา