ฝันกลายเป็นจริงสำหรับคนที่เคยหงุดหงิดกับการติดแหงกอยู่บนท้องถนน และอยากหาทางไปให้พ้นๆ จากสภาพการจราจรติดขัดนั้นในชั่วพริบตา
เพราะ ‘รถบินได้’ คันแรกของโลกประเดิมทดสอบสมรรถนะกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วในสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือน ด้วยการทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าก่อนลงสู่พื้น โดยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียวที่ทำให้ปีกพับเก็บเข้าที่กลายสภาพเป็นรถวิ่งฉิวต่อบนไฮเวย์
เทอร์ราฟิวเกีย ทรานสิชัน มีความเร็ว 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนท้องถนน และสามารถจอดเก็บอย่างปลอดภัยในโรงรถ
คาร์ล ไดเอทริชต์ ผู้สร้างทรานสิชันคุยว่ารถบินได้รุ่นนี้ถือเป็นการปฏิวัติโลกของการเดินทางส่วนบุคคลที่วงการการบินใฝ่ฝันมาตั้งแต่ปี 1918
บริษัทผู้สร้างอวดอ้างว่าทรานสิชันสามารถบินได้ระยะทาง 643 กิโลเมตรด้วยน้ำมันหนึ่งถัง และหากต้องการเติมน้ำมันก็ทำได้ง่ายดายโดยการขับเข้าไปจอดในสถานีบริการทั่วไปเท่านั้น
แม้ก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวรถบินได้มาหลายครั้ง แต่ทรานสิชันถือเป็นรุ่นแรกที่มีปีกพับได้ ทำให้การเปลี่ยนจากการบินบนฟ้าลงมาวิ่งบนถนนทำได้อย่างราบรื่น
อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมนี้อาจมีอุปสรรคเล็กน้อยจากราคาเปิดตัวที่สูงถึง 139,000 ล้านปอนด์ แม้บางคนอาจคิดว่าราคานี้สูสีเบนท์ลีย์รุ่นท็อปก็ตาม
นอกจากนั้น ผู้ขับยังต้องมีทั้งใบขับขี่รถยนต์และใบอนุญาตนักบิน
ในฐานะที่เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ทรานสิชันจึงไม่เหมาะบินในสภาพอากาศเลวร้าย ทัศนวิสัยไม่ชัดเจน หรือน่านฟ้าที่จำกัด แต่ข้อดีของรถบินได้รุ่นนี้คือ สามารถเปลี่ยนมาเดินทางบนถนนหากสภาพการบินไม่เป็นใจ
ฟิล เมทเทียร์ นักบินทดสอบของบริษัท และอดีตทหารอากาศ เป็นผู้ประเดิมบินทดสอบทรานสิชันเมื่อต้นเดือน
“ผมมีชั่วโมงบินเป็นพันๆ ชั่วโมงกับเครื่องบินหลายรุ่น ตั้งแต่ไปเปอร์คับส์ยันเอฟ-16 สำหรับทรานสิชัน ผมรู้สึกว่ามันบินนิ่มเหมือนเครื่องบินจริงๆ”
ทั้งนี้ การที่ทรานสิชันถูกจัดเป็น ‘เครื่องบินเล็กสำหรับการกีฬา’ จึงทำให้การขอใบอนุญาตทำได้ง่ายขึ้น โดยขณะนี้บริษัทกำลังรอใบรับรองจากสำนักงานความปลอดภัยทางหลวงและการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ และมั่นใจว่าอีกไม่นานนี้ ทรานสิชันจะได้โลดแล่นบนถนนและแผ่นฟ้า
เพราะ ‘รถบินได้’ คันแรกของโลกประเดิมทดสอบสมรรถนะกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วในสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือน ด้วยการทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าก่อนลงสู่พื้น โดยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียวที่ทำให้ปีกพับเก็บเข้าที่กลายสภาพเป็นรถวิ่งฉิวต่อบนไฮเวย์
เทอร์ราฟิวเกีย ทรานสิชัน มีความเร็ว 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนท้องถนน และสามารถจอดเก็บอย่างปลอดภัยในโรงรถ
คาร์ล ไดเอทริชต์ ผู้สร้างทรานสิชันคุยว่ารถบินได้รุ่นนี้ถือเป็นการปฏิวัติโลกของการเดินทางส่วนบุคคลที่วงการการบินใฝ่ฝันมาตั้งแต่ปี 1918
บริษัทผู้สร้างอวดอ้างว่าทรานสิชันสามารถบินได้ระยะทาง 643 กิโลเมตรด้วยน้ำมันหนึ่งถัง และหากต้องการเติมน้ำมันก็ทำได้ง่ายดายโดยการขับเข้าไปจอดในสถานีบริการทั่วไปเท่านั้น
แม้ก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวรถบินได้มาหลายครั้ง แต่ทรานสิชันถือเป็นรุ่นแรกที่มีปีกพับได้ ทำให้การเปลี่ยนจากการบินบนฟ้าลงมาวิ่งบนถนนทำได้อย่างราบรื่น
อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมนี้อาจมีอุปสรรคเล็กน้อยจากราคาเปิดตัวที่สูงถึง 139,000 ล้านปอนด์ แม้บางคนอาจคิดว่าราคานี้สูสีเบนท์ลีย์รุ่นท็อปก็ตาม
นอกจากนั้น ผู้ขับยังต้องมีทั้งใบขับขี่รถยนต์และใบอนุญาตนักบิน
ในฐานะที่เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ทรานสิชันจึงไม่เหมาะบินในสภาพอากาศเลวร้าย ทัศนวิสัยไม่ชัดเจน หรือน่านฟ้าที่จำกัด แต่ข้อดีของรถบินได้รุ่นนี้คือ สามารถเปลี่ยนมาเดินทางบนถนนหากสภาพการบินไม่เป็นใจ
ฟิล เมทเทียร์ นักบินทดสอบของบริษัท และอดีตทหารอากาศ เป็นผู้ประเดิมบินทดสอบทรานสิชันเมื่อต้นเดือน
“ผมมีชั่วโมงบินเป็นพันๆ ชั่วโมงกับเครื่องบินหลายรุ่น ตั้งแต่ไปเปอร์คับส์ยันเอฟ-16 สำหรับทรานสิชัน ผมรู้สึกว่ามันบินนิ่มเหมือนเครื่องบินจริงๆ”
ทั้งนี้ การที่ทรานสิชันถูกจัดเป็น ‘เครื่องบินเล็กสำหรับการกีฬา’ จึงทำให้การขอใบอนุญาตทำได้ง่ายขึ้น โดยขณะนี้บริษัทกำลังรอใบรับรองจากสำนักงานความปลอดภัยทางหลวงและการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ และมั่นใจว่าอีกไม่นานนี้ ทรานสิชันจะได้โลดแล่นบนถนนและแผ่นฟ้า
