xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” หญิงเหล็กที่ไม่ท้อแม้ต้องสู้ลำพัง เป็นทั้ง พ่อและแม่ ให้ ลูกสาว-ลูกชาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเจนกิจ กลัดสาคร พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อำเภอสัตหีบ จากจังหวัดชลบุรี
ศูนย์ข่าวศรีราชา - “คุณปู” หรือ "ปิญชาน์ สุขภูตานันท์" หญิงเหล็กที่ต้องต่อสู้และเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูกสาว-ลูกชาย หลังจากสามีต้องเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่เวทีของการชุมนุมพันธมิตรฯ

นางปิญชาน์ (ปู) สุขภูตานันท์ ภรรยาของ นาย เจนกิจ กลัดสาคร พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อำเภอสัตหีบ จากจังหวัดชลบุรี ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่เวทีของการชุมนุมพันธมิตรฯ ในทำเนียบรัฐบาล ทำให้นายเจนกิจ กลัดสาคร เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งสร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่แก่นางปิญชาน์ และครอบครัว เป็นอย่างมาก

“ในความเป็นจริง ตนและลูกๆก็ไม่ต้องการจะอยู่บ้านหลังนี้ เพราะต้องทนเห็น สิ่งของเครื่องใช้ของพ่อ เป็นประจำทุกคืน ทำให้คิดถึงคุณพ่อเจนกิจทุกวัน โดยทุกคนต้องนอนร้องไห้ทุกคืน แต่ก็ต้องอดทนต่อไป เพราะยังไม่สามารถขยับขยายไปที่ไหนได้” นางปิญชาน์ กล่าวทั้งน้ำตา

หลังจากสูญเสียเสาหลักของบ้านในครั้งนี้ ทำให้เธอ ต้องดูแลบุตรสาว ด.ญ.ลิปิการ์ กลัดสาคร อายุ 11 ปี และบุตรชาย ด.ช.ศิรชัช กลัดสาคร อายุ 9 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้น ป.6 และชั้น ป.2 ที่โรงเรียนใกล้บ้าน ที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทุกวัน

นางปิญชาน์ (ปู) สุขภูตานันท์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่มีอะไรเหลือเลย เนื่องจากบ้านที่อาศัยในปัจจุบันก็เป็นบ้านของพี่ชาย ซึ่งได้เปิดขายของและอาหารตามสั่ง แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่สะดวกเท่าที่ควร เพราะไม่ใช่บ้านของเราเอง ซึ่งก็มีความอึดอัดบ้างเล็กน้อย และพยายามจะขอซื้อบ้านหลังดังกล่าวจากพี่ชาย เพื่อให้เป็นบ้านของตนเองเพื่อหวังที่จะสร้างหลักและอนาคตไว้ให้ลูกทั้ง 2 คน รวมทั้งเพื่อความสะดวกหากจะทำธุรกิจอะไรเพิ่มขึ้น แต่ช่วงนี้ก็ยังไม่มีเงินและไม่ทราบว่าพี่ชายจะขายให้หรือไม่ เนื่องจากบ้านหลังนี้ อยู่ในย่านทำเลการค้าขาย โดยหากจะไปซื้อบ้านหลังใหม่ ซึ่งจะไกลแหล่งชุมชน และไม่สามารถประกอบอาชีพอะไรได้ ปัญหายิ่งจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องอยู่บ้านหลังนี้ไปก่อน
นางปิญชาน์ (ปู) สุขภูตานันท์ ภรรยาของ นายเจนกิจ กลัดสาคร พร้อมด้วยลูกสาวและลูกชาย
นางปิญชาน์ เล่าอีกว่าที่ผ่านมาสามีตน เป็นเสาหลักที่หารายได้เข้าบ้าน ส่วนตนเป็นเพียงแม่บ้านคอยดูแลลูก 2 คนเท่านั้น แต่เมื่อสามีจากไป ตนเองต้องมารับผิดชอบ ทำให้บางครั้งรู้สึกเหนื่อยล้าและท้อถอยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องอดทนเพื่อลูกทั้ง 2 คน

นางปิญชาน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ลูกสาวเรียนจบชั้น ป6.แล้ว แต่ต้องการไปเรียนต่อระดับมัธยม ที่โรงเรียนระยองวิทยาคม เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพและไม่ห่างจากบ้านพักมากนัก ซึ่งตนสามารถไปรับไปส่งได้ แต่ก็ไม่ทราบว่าลูกสาวจะสอบเข้าเรียนในโรงเรียนดังกล่าวได้หรือไม่ หากไม่ได้คงต้องเข้าโรงเรียนเอกชนที่ใกล้บ้านมากที่สุด เพราะไม่รู้จะให้ไปเรียนที่ไหน เพราะไกลหูไกลตาของตน

ส่วนลูกชายนั้น ขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ป.2 ซึ่งก็ต้องการให้ไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลระยอง เช่นกัน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับลูกทั้ง 2 คน ว่าจะสอบติดหรือไม่ แต่จะต้องให้ลูกทั้ง 2 คน เรียนให้สูงเท่าที่ตนสามารถส่งเรียนได้

นางปิญชาน์ กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดมีแม่ยกพันธมิตรฯ ใจดี เข้ามารับอุปถัมภ์ดูแลบุตรสาวของตน โดยจะส่งเสียเล่าเรียนให้ถึงระดับปริญญาตรี ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อทราบว่าเป็นพันธมิตรฯ และได้รับความเดือดร้อนจากการร่วมชุมนุม จนสามีเสียชีวิตและต้องแบกรับภาระบุตร 2 คน จึงเข้ามาช่วยเหลือ โดยตนรู้สึกปลาบปลื้มมากที่พันธมิตรฯเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งๆที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง แต่เข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มใจ

“ตนมีความสุข เมื่อได้พบปะพูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรฯด้วยกัน เพราะกลุ่มพันธมิตรฯจะคอยให้กำลังใจและช่วยเหลือตนและครอบครัวอย่างเต็มที่ แม้ในช่วงที่ทำบุญ 100 วัน คุณเจนกิจ พันธมิตรฯ จากหลากหลายพื้นที่ได้เดินทางมาร่วมงานและให้กำลังใจ จนตนมีกำลังใจในการต่อสู้ต่อไป โดยไม่ย่อท้อ ทุกครั้งที่ดูรายการ ของ ASTV ก็ต้องร้องไห้ทุกครั้ง เพราะ คิดถึงวันเก่าๆ จนลูกชายขอร้องว่า ไม่อยากให้ แม่ เปิดดูช่อง ของ ASTV เพราะไม่อยาก เห็นแม่ร้องไห้อีก “

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้บ้านเมืองเราก็ยังไม่สงบสุข ถึงแม้จะได้รัฐบาลใหม่ ก็ยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง แต่หากเมื่อใดที่บ้านเมือง ไม่สงบและมีเหตุการณ์ ใดเกิดขึ้น ต้องมีการรวมตัวกันอีกครั้งของกลุ่มพันธมิตรฯ ตนพร้อมที่จะร่วมต่อสู้เพื่อสานเจตนารมณ์ ของสามีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น