พีเอฟพี ฉวยเศรษฐกิจตก ต้นทุนการลงทุนต่ำ ราคาเหล็กวูบ 50% ทุ่ม 100 ล้านบาท ปรับปรุงไลน์การผลิตใหม่ รองรับเศรษฐกิจฟื้นพร้อมลุย หลังพบตลาดอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปยังโต พร้อมเร่งขยายจุดกระจายสินค้า สิ้นปีโต 10%
นายทวี ปิยะพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอฟพี เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปตราพีเอฟพี กล่าวว่า บริษัททุ่มงบ 100 ล้านบาท ปรับปรุงไลน์การผลิตอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปให้มีประสิทธิภาพ และรองรับกับการขยายตลาดหลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว อีกทั้งขณะนี้ยังเป็นช่วงเวลาของการลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำมีผลทำให้ราคาเหล็กลดลง 50%
ขณะเดียวกันยังได้ลงทุนขยายจุดจำหน่ายสินค้าในตลาดต่างจังหวัด อาทิ ตลาดไทย มหาชัย ชุมพร พิษณุโลก เพื่อกระจายสินค้าให้กับตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าตลาด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าขาดตลาด เพราะแนวโน้มตลาดอาหารแช่แข็งมูลค่า 3,500 ล้านบาทในประเทศมีอัตราการเติบโต 5-10%
“พฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจคุณภาพสินค้ามากขึ้น รวมถึงร้านค้ากังวลว่าหากใช้สินค้าไม่ได้มาตรฐานอาจถูกผู้บริโภคฟ้องร้อง จึงหันมาซื้อสินค้าที่มีแบรนด์มากขึ้น”
ผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% หรือมีรายได้ 2,200 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 1,100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 1,100 บาท เป็นตลาดในประเทศ โดยมีส่วนแบ่งตลาดมาจากตลาดสด 60% ร้านอาหาร 25 % ส่วนที่เหลือ 15 % มาจากโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ
นายทวี ปิยะพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอฟพี เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปตราพีเอฟพี กล่าวว่า บริษัททุ่มงบ 100 ล้านบาท ปรับปรุงไลน์การผลิตอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปให้มีประสิทธิภาพ และรองรับกับการขยายตลาดหลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว อีกทั้งขณะนี้ยังเป็นช่วงเวลาของการลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำมีผลทำให้ราคาเหล็กลดลง 50%
ขณะเดียวกันยังได้ลงทุนขยายจุดจำหน่ายสินค้าในตลาดต่างจังหวัด อาทิ ตลาดไทย มหาชัย ชุมพร พิษณุโลก เพื่อกระจายสินค้าให้กับตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าตลาด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าขาดตลาด เพราะแนวโน้มตลาดอาหารแช่แข็งมูลค่า 3,500 ล้านบาทในประเทศมีอัตราการเติบโต 5-10%
“พฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจคุณภาพสินค้ามากขึ้น รวมถึงร้านค้ากังวลว่าหากใช้สินค้าไม่ได้มาตรฐานอาจถูกผู้บริโภคฟ้องร้อง จึงหันมาซื้อสินค้าที่มีแบรนด์มากขึ้น”
ผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% หรือมีรายได้ 2,200 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 1,100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 1,100 บาท เป็นตลาดในประเทศ โดยมีส่วนแบ่งตลาดมาจากตลาดสด 60% ร้านอาหาร 25 % ส่วนที่เหลือ 15 % มาจากโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ