วานนี้(19 มี.ค.)ภายหลังเกิดเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายสุขสันต์ สีหาเลิศ อายุ 36 ปี ลูกจ้างโรงน้ำแข็งภายในตลาดสดคลองเตย และนายกนก สุขแก้ว อายุ 32 ปี ลูกจ้างโรงน้ำแข็งเดียวกันจนเสียชีวิตเมื่อตอนหัวค่ำวันที่ 18 มี.ค. ภายในตลาดคลองเตย จนกระทั่งเมื่อเวลา 01.00 น. ผู้บริหารบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานตลาดคลองเตย ได้นำตัวนายศราวุธ สายประสม อายุ 36 ปี อยู่เลขที่ 24 หมู่ 7 ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน เข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.โดยอ้างว่า เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ แต่ไม่ใช่ผู้ที่ลงมือสังหารผู้เสียชีวิต
โดยนายศราวุธ ปฏิเสธว่า ก่อนเกิดเหตุจะมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตนั้น ยอมรับว่า มีเรื่องกับคู่กรณีอีก 2 คน ซึ่งไม่เกี่ยวกับผู้ตาย มาหาเรื่องและทำท่าจะชักปืนยิงก่อน จึงยิงปืนสวนไป ส่งผลให้มีตำรวจบาดเจ็บ 1 นาย จากนั้นก็หลบหนีไป แต่มาคิดภายหลังว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตาย 2 ศพ จึงเข้ามอบตัวดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผบก.น.5 กล่าวว่า เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรต่อ นายศราวุธไว้ก่อน เพราะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกันกับที่มีคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย
พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ต้องหาอีกคนที่ก่อเหตุยิงจนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพนั้น ทราบแล้วว่าชื่อ ส.ท.อินทร มาภิบาล หรือธร อายุ 51 ปี เป็นหัวหน้า รปภ.บริษัท ลีเกิ้ล ฯ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง โดยศาลอนุมัติหมายจับเลขที่ ส.482/2552 ลงวันที่ 19 มี.ค.52 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทาง สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งนี้ คดีที่มีการทะเลาะวิวาทที่ตลาดคลองเตยนั้น มีคดีความต่างๆ รวมทั้งสิ้น 55 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นไปแล้ว 70% บางส่วนก็รอหลักฐานอยู่
คดีนี้ไม่มีความซับซ้อน และเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งอยากให้มีการเจรจา ให้ได้ผลสรุปที่ดีทั้งสองฝ่าย เรื่องที่เกิดขึ้นตำรวจไม่ได้หย่อนยาน เพราะมีกำลัง ปจ. เฝ้าวันละ 1 กองร้อย หรือจำนวน 150 นาย ทุกวัน ส่วนจุดที่เกิดเมื่อคืนนี้ ก็ไม่ใช่จุดล่อแหลมแต่อย่างใด ซึ่ง พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 ได้ปรับแผนในการดูแลเพิ่มเติมและเพิ่มสายตรวจเดินเท้ามากขึ้นในตลาด และดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ที่สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เดินทางไปรับศพพร้อมกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจำนวนหนึ่ง โดยนางขนิษฐา บุญเจริญ กล่าวว่า จะแห่ศพทั้ง 2 คน ไปที่หน้ารัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมาได้ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจาก ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล ซึ่งหลังนายอภิสิทธิ์ รับเรื่องแล้ว พวกตนจะให้เวลา 7 วัน หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าจะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร
จากนี้ไป หากไม่มีหน่วยงานไหนยื่นมือเข้าช่วยเหลืออีก พวกเราก็จะไม่ทน เป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่อไปแล้ว จะใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน หากพวกเขาใช้ปืนได้ พวกเราก็จะใช้ปืนตอบโต้บ้าง และจะสู้ให้ถึงที่สุด
ต่อมาที่ สน.ท่าเรือ นายภูโมกข์ นุ่นจันทร์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ลีเกิ้ลฯ แถลงว่า เหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่ยอมรับว่า ผู้ที่เข้ามอบตัว และมือปืนที่ก่อเหตุ เป็นคนของบริษัทจริง โดยเชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัว ที่กลุ่มผู้ประท้วง โดยเฉพาะผู้ตายทั้ง 2 คน มักหาเรื่องรังแกคนของบริษัทก่อนเช่น เคาะหัว หรือเดินเหยียบหัวแม่เท้าเป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นายภูโมกข์ แถลงข่าวอยู่นั้น ปรากฏว่า กลุ่มพ่อค้า แม่ค้าตลาดคลองเตยประมาณ 500 คน เดินทางด้วยรถบัส 8 คัน มายัง สน.ท่าเรือ จากนั้น ใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวโจมตี ตำรวจ สน.ท่าเรือ ที่ให้นายภูโมกข์ ใช้สถานที่ เป็นที่แถลงข่าว จนการแถลงข่าวต้องยกเลิกกลางคัน
โดยนายศราวุธ ปฏิเสธว่า ก่อนเกิดเหตุจะมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตนั้น ยอมรับว่า มีเรื่องกับคู่กรณีอีก 2 คน ซึ่งไม่เกี่ยวกับผู้ตาย มาหาเรื่องและทำท่าจะชักปืนยิงก่อน จึงยิงปืนสวนไป ส่งผลให้มีตำรวจบาดเจ็บ 1 นาย จากนั้นก็หลบหนีไป แต่มาคิดภายหลังว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตาย 2 ศพ จึงเข้ามอบตัวดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผบก.น.5 กล่าวว่า เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรต่อ นายศราวุธไว้ก่อน เพราะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกันกับที่มีคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย
พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ต้องหาอีกคนที่ก่อเหตุยิงจนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพนั้น ทราบแล้วว่าชื่อ ส.ท.อินทร มาภิบาล หรือธร อายุ 51 ปี เป็นหัวหน้า รปภ.บริษัท ลีเกิ้ล ฯ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง โดยศาลอนุมัติหมายจับเลขที่ ส.482/2552 ลงวันที่ 19 มี.ค.52 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทาง สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งนี้ คดีที่มีการทะเลาะวิวาทที่ตลาดคลองเตยนั้น มีคดีความต่างๆ รวมทั้งสิ้น 55 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นไปแล้ว 70% บางส่วนก็รอหลักฐานอยู่
คดีนี้ไม่มีความซับซ้อน และเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งอยากให้มีการเจรจา ให้ได้ผลสรุปที่ดีทั้งสองฝ่าย เรื่องที่เกิดขึ้นตำรวจไม่ได้หย่อนยาน เพราะมีกำลัง ปจ. เฝ้าวันละ 1 กองร้อย หรือจำนวน 150 นาย ทุกวัน ส่วนจุดที่เกิดเมื่อคืนนี้ ก็ไม่ใช่จุดล่อแหลมแต่อย่างใด ซึ่ง พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 ได้ปรับแผนในการดูแลเพิ่มเติมและเพิ่มสายตรวจเดินเท้ามากขึ้นในตลาด และดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ที่สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เดินทางไปรับศพพร้อมกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจำนวนหนึ่ง โดยนางขนิษฐา บุญเจริญ กล่าวว่า จะแห่ศพทั้ง 2 คน ไปที่หน้ารัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมาได้ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจาก ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล ซึ่งหลังนายอภิสิทธิ์ รับเรื่องแล้ว พวกตนจะให้เวลา 7 วัน หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าจะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร
จากนี้ไป หากไม่มีหน่วยงานไหนยื่นมือเข้าช่วยเหลืออีก พวกเราก็จะไม่ทน เป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่อไปแล้ว จะใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน หากพวกเขาใช้ปืนได้ พวกเราก็จะใช้ปืนตอบโต้บ้าง และจะสู้ให้ถึงที่สุด
ต่อมาที่ สน.ท่าเรือ นายภูโมกข์ นุ่นจันทร์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ลีเกิ้ลฯ แถลงว่า เหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่ยอมรับว่า ผู้ที่เข้ามอบตัว และมือปืนที่ก่อเหตุ เป็นคนของบริษัทจริง โดยเชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัว ที่กลุ่มผู้ประท้วง โดยเฉพาะผู้ตายทั้ง 2 คน มักหาเรื่องรังแกคนของบริษัทก่อนเช่น เคาะหัว หรือเดินเหยียบหัวแม่เท้าเป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นายภูโมกข์ แถลงข่าวอยู่นั้น ปรากฏว่า กลุ่มพ่อค้า แม่ค้าตลาดคลองเตยประมาณ 500 คน เดินทางด้วยรถบัส 8 คัน มายัง สน.ท่าเรือ จากนั้น ใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวโจมตี ตำรวจ สน.ท่าเรือ ที่ให้นายภูโมกข์ ใช้สถานที่ เป็นที่แถลงข่าว จนการแถลงข่าวต้องยกเลิกกลางคัน
