xs
xsm
sm
md
lg

พท.ทุลักทุเลคลอดซักฟอก นายกฯ+5รมต.-ตัวเงินตัวทองโผล่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา วานนี้ (12 มี.ค.ว่า ถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติถอดถอนรัฐมนตรีและการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 5 คน ประกอบด้วย นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ของพรรคเมื่อไทย ที่เดิมได้นัดว่าจะเข้ายื่นญัตติดังกล่าวต่อประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 12 มี.ค. เวลา 9.30 น. และ 10.00 น. ตามลำดับนั้น ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลากลับไม่มีการมายื่นถอดถอนรัฐมนตรีและญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่อย่างใด
นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่ต้องเลื่อนการยื่นญัติอภิปรายไม่ไว้วางใจและยื่นถอดถอนรัฐมนตรี เพราะพรรคได้รับข้อมูลเพิ่มเติม เข้ามามากขึ้น จึงเรียกประชุมส.ส.เพื่อหาข้อสรุปสุดท้ายอีกครั้งในเวลา 14.00 น. ของวันเดียวกันนี้ โดยมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย จะเป็นประธานในการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 11.15 น.วันเดียวกัน ที่บริเวณชั้นลอย อาคารรัฐสภา ระหว่างที่กลุ่มสื่อมวลชนกว่า 30 คนกำลังรอสัมภาษณ์รัฐมนตรีและส.ส.ที่จะเดินทางมาประชุมสภานั้น ปรากฎว่ามีตัวเงินตัวทองขนาดเล็ก ความยาวประมาณ 2 ฝ่ามือ คลานผ่านกลุ่มสื่อมวลชนไป ทำให้ ช่างภาพ โดยเฉพาะภาพนิ่งต่างรุมกันเข้าไปถ่ายภาพ กดชัตเตอร์ รัวแฟลชจนทำให้ตัวเงินตัวทองตกใจและเกิดอาการกระตุกตามจังหวะของแสงแฟลช
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงหลังการประชุมคณะเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนาน 30 นาที ว่าที่ประชุมได้สรุปเป็นมติว่า พรรคเพื่อไทยจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจและถอดถอนรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 2.นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ 3.นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง 4.นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช. คลัง และ 5.นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย
สำหรับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะถูกยื่นอภิปรายด้วยนั้น เมื่อคณะทำงานยุทธศาสตร์พิจารณาเอกสารหลักฐานอย่างละเอียดแล้วพบว่า รมว.มหาดไทยได้มอบหมายให้นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รับผิดชอบ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น(สถ.) จึงไม่พบว่านายชวรัตน์เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยนิตินัย ดังนั้นเราจะไปดำเนินการในช่องทางอื่น เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้โกรธเกลียดลูกชายท่าน แต่เน้นเรื่องที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงและเน้นอภิปรายข้อมูลที่กระชับ เข้าเป้าหมาย จุดประสงค์ของเราก็คือล้มนายกรัฐมนตรี เมื่อล้มได้รัฐมนตรีก็ต้องไปทั้งคณะ
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม แถลงอีกครั้งว่า หลังจากได้รับเอกสารข้อมูลเพิ่มเติม ล่าสุดพรรคเพื่อไทยมีมติว่าจะอภิปรายและยื่นถอดถอน นายชวรัตน์ ชาญวัรกุล รมว.มหาดไทย อีก 1 คน เนื่องจากหลักฐานที่เพิ่มเติมเข้ามา สามารถโยงใยเอาผิดถึงตัวรมว.มหาดไทยได้ ยืนยันว่าไม่มีใบสั่งจากต่างประเทศ หรือมีนอกมีในอะไร ทุกอย่างพิจารณาไปตามเอกสารหลักฐาน
ต่อมาเวลา 15.35 น. นายพีระพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 15 คน เป็นตัวแทน ส.ส.พรรคที่ร่วมลงชื่อ 172 คน ยื่นหนังสือต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อให้ถอดถอน นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี
โดยนายพีรพันธุ์กล่าวว่า เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271 เพื่อขอให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ถอดถอนรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง เนื่องจาก รัฐมนตรีที่มีรายนามข้างต้นเป็นผู้กำกับควบคุม ดูแล บริหารราชการในกระทรวง ทบวง กรม ตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 เป็นผู้ยึดมั่นในมาตรฐาน ด้านจริยธรรมอย่างยิ่งยวด ต้องปฏิบัติหน้าที่และประพฤติตนให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย แต่บุคคลดังกล่าวข้างต้นกลับฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยมีการกระทำที่มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่น และฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จึงไม่สมควรที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป
จากนั้นเวลา 16-40 น. นายพีรพันธ์ พาลุสุข พร้อมคณะได้เข้ายื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ต่อนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาฯคนที่ 1 ที่มารับหนังสือแทนนายชัย ชิดชอบประธานสภาฯ โดยนายสามารถ กล่าวว่า หลังจากนี้จะยื่นให้ประธานสภาฯรับทราบ และดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องภายใน 7 วัน หากไม่พบข้อแก้ไข ประธานสภาฯก็จะบรรจุญัตติเข้าสู่ระเบียบการประชุมเป็นวาระเร่งด่วน จากนั้นจะแจ้งให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายได้รับทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี มีเหตุผลประกอบ 9 ข้อ เช่นนายอภิสิทธิ์หลีกเลี่ยงการเข้ารับราชการทหารโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ขณะเป็น ส.ส.เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2535 ถึง 5 เดือนก่อนจะสมัครเป็นสมาชิก การ การเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯไม่เป็นไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตย บริหารงานอย่างไรประสิทธิภาพ นายอภิสิทธิ์ไม่เคยมีประสบการณ์หรือประสบความสำเร็จในการบริหารการเงินการคลังของประเทศมาก่อน ไม่มีนโยบายแก้ปัญหาสังคาและยาเสพติด เป็นต้น
สำหรับรัฐมนตรีอีก 5 คนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในญัตติระบุว่า บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด ขาดความรู้ความสามารถ ขาดคุณธรรมจริยธรรม มุ่งแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการประจำและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยเห็นแก่พวกพ้อง บังคับใช้กฎหมายโดยเลือกปฏิบัติ กระทำการขัดกันของผลประโยชน์ ใช้จ่ายงบประมาณโดยไม่คำนึงถึงสถานะการคลังของประเทศ ส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่ ลุแก่อำนาจ เป็นเหตุให้การบริหาราชการแผ่นดิน ล้มเหลว เสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน
นาย เทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้พรรคเพื่อไทยทบทวนข้อกล่าวหาทั้ง 7 ข้อ เพราะอย่างน้อย 2 ข้อไม่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบัน โดยเฉพาะข้อ 1. การที่ไม่ส่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลงแข่งเลือกตั้ง และข้อ 4. การจงใจฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคการเมือง โดยไม่เปิดเผยการรับเงินสนับสนุนพรรคจากบริษัทมหาชน ซึ่งตนเห็นว่า เป็นเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547
ตอนนี้รัฐบาลกำลังรอพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่าจะมีกี่คน แต่ถ้าปล่อยให้รอนานไปอีก 1 เดือน เชื่อว่าจะมีการอภิปรายรัฐมนตรีให้ครบ 36 คน อยากตั้งฉายาการยื่นญัตติ ของเพื่อไทยว่าเป็นญัตติตัดแปะ ตัดปะ เนื่องจากนำเนื้อหาที่ถูกตัดมาจากหน้าหนังสือพิมพ์มาอภิปราย
กำลังโหลดความคิดเห็น