วานนี้(11 มี.ค.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในการดำเนินการคดีเกี่ยวกับพันธมิตรฯว่า ตนยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าวว่ามีเหตุผลอะไรบ้าง ต้องรอดูข้อมูลจากทุกฝ่ายก่อน แต่ทั้งนี้ตนเห็นว่า ความจริงพนักงานสอบสวนต้องให้ความเป็นธรรมและดำเนินคดีกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะกลุ่มไหน
เมื่อถามว่าคิดว่าพนักงานสอบสวนชุดนี้ จะให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มพันธมิตรฯได้หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า พนักงานสอบสวนทุกคนต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว ส่วนจะมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่ได้หารือเรื่องดังกล่าวกับนายกรัฐมนตรี
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องเป็นความเห็นของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ที่จะพิจารณาว่าจะให้ทำหน้านี้พนักงานสอบสวนต่อไปหรือไม่ ส่วนตนเองนั้น เคยเรียนไปแล้วว่า ตลอดระยะเวลาในชีวิตการรับราชการมา31 ปี ก็อยู่ในงานสอบสวนมาโดยตลอด มีลูกศิษย์มากมาย พนักงานสอบสวนแทบจะพูดได้ว่าเกือบทั่วประเทศ ก็เป็นลูกศิษย์ตนทั้งนั้น
" ถ้าถอดถอนผมแล้วไปตั้งคนอื่นมา ก็ต้องถอดถอนอีก เพราะว่าเป็นลูกศิษย์อาจารย์อำนวย มันก็จะไม่จบ และผมก็ไม่เคยถูกใครกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะคดีวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น มีการแยกส่วน เฉพาะในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ศาลปกครองมีคำสั่งแล้วว่า เป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ เป็นการชุมนุมที่อยู่นอกกรอบของกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีอำนาจหน้าที่ ที่จะเข้าทำการสลายการชุมนุมได้ ส่วนจะเกินหรือไม่เกินกว่าเหตุ ก็มีการตรวจสอบอยู่ ทั้งการฟ้องศาลก็มีการดำเนินเรื่องอยู่ในขณะนี้ ผมก็กำลังยื่นคำให้การไปที่ศาล และยังมีการตรวจสอบทั้งป.ป.ช. แต่ในส่วนของพันธมิตรฯ ที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการสอบสวนอยู่ และยังมีขบวนการกลั่นกรอง มีอัยการ มีศาลอีก ตรงนี้เราให้ความเป็นธรรมแน่นอน"
“ยกตัวอย่างนะครับ วันนี้ผมกลับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมา ก็เป็นเรื่องของพันธมิตรถูกกล่าวหา ผมเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ผมมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และได้เข้าชี้แจ้งต่อผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เห็นด้วย ที่จะไม่ฟ้องกับแกนนำทั้งหมด ซึ่งเป็นความผิดข้อหาหนึ่ง แต่คงเอามาพูดตรงนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคดีที่ไม่ควรนำมาพูดในที่นี้ และผมมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องให้ ซึ่งตรงนี้เราทำด้วยความเป็นธรรม ทำด้วยความเป็นกลาง งั้นถ้ารู้สึกเกรงกลัวตรงนั้น ขอให้สบายใจได้ และการทำงานก็ทำในรูปของคณะกรรมการ ไม่ใช่ความเห็นของผมคนเดียว แต่ถ้าผู้บังคับบัญชาพิจารณาเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน ก็ทนต่อไปครับ ทนต่อไป ทนได้อย่างที่ว่าแหละครับ ทนต่อไปอีก 6-7 ปี ยังทนได้ครับ" พล.ต.ต.อำนวยกล่าว
เมื่อถามว่าคิดว่าพนักงานสอบสวนชุดนี้ จะให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มพันธมิตรฯได้หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า พนักงานสอบสวนทุกคนต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว ส่วนจะมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่ได้หารือเรื่องดังกล่าวกับนายกรัฐมนตรี
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องเป็นความเห็นของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ที่จะพิจารณาว่าจะให้ทำหน้านี้พนักงานสอบสวนต่อไปหรือไม่ ส่วนตนเองนั้น เคยเรียนไปแล้วว่า ตลอดระยะเวลาในชีวิตการรับราชการมา31 ปี ก็อยู่ในงานสอบสวนมาโดยตลอด มีลูกศิษย์มากมาย พนักงานสอบสวนแทบจะพูดได้ว่าเกือบทั่วประเทศ ก็เป็นลูกศิษย์ตนทั้งนั้น
" ถ้าถอดถอนผมแล้วไปตั้งคนอื่นมา ก็ต้องถอดถอนอีก เพราะว่าเป็นลูกศิษย์อาจารย์อำนวย มันก็จะไม่จบ และผมก็ไม่เคยถูกใครกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะคดีวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น มีการแยกส่วน เฉพาะในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ศาลปกครองมีคำสั่งแล้วว่า เป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ เป็นการชุมนุมที่อยู่นอกกรอบของกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีอำนาจหน้าที่ ที่จะเข้าทำการสลายการชุมนุมได้ ส่วนจะเกินหรือไม่เกินกว่าเหตุ ก็มีการตรวจสอบอยู่ ทั้งการฟ้องศาลก็มีการดำเนินเรื่องอยู่ในขณะนี้ ผมก็กำลังยื่นคำให้การไปที่ศาล และยังมีการตรวจสอบทั้งป.ป.ช. แต่ในส่วนของพันธมิตรฯ ที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการสอบสวนอยู่ และยังมีขบวนการกลั่นกรอง มีอัยการ มีศาลอีก ตรงนี้เราให้ความเป็นธรรมแน่นอน"
“ยกตัวอย่างนะครับ วันนี้ผมกลับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมา ก็เป็นเรื่องของพันธมิตรถูกกล่าวหา ผมเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ผมมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และได้เข้าชี้แจ้งต่อผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เห็นด้วย ที่จะไม่ฟ้องกับแกนนำทั้งหมด ซึ่งเป็นความผิดข้อหาหนึ่ง แต่คงเอามาพูดตรงนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคดีที่ไม่ควรนำมาพูดในที่นี้ และผมมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องให้ ซึ่งตรงนี้เราทำด้วยความเป็นธรรม ทำด้วยความเป็นกลาง งั้นถ้ารู้สึกเกรงกลัวตรงนั้น ขอให้สบายใจได้ และการทำงานก็ทำในรูปของคณะกรรมการ ไม่ใช่ความเห็นของผมคนเดียว แต่ถ้าผู้บังคับบัญชาพิจารณาเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน ก็ทนต่อไปครับ ทนต่อไป ทนได้อย่างที่ว่าแหละครับ ทนต่อไปอีก 6-7 ปี ยังทนได้ครับ" พล.ต.ต.อำนวยกล่าว
