ASTVผู้จัดการรายวัน – สหภาพฯ การบินไทย นัดชุมนุมที่สำนักงานใหญ่วันนี้ ค้านย้ายการบินไทยจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ หลังจากยื่นหนังสือคัดค้านต่อ“อภิสิทธิ์-กมธ.สิทธิฯ” ย้ำสนามบินยังไม่พร้อม-สายการบินทุนต่ำยังอยู่ได้ ขัดต่อนโยบายแข่งขันเสรี “มาร์ค” นัดหารือ “คลัง-คมนาคม” วันนี้ สางปัญหา พิจารณาจากข้อมูลเชิงเปรียบเทียบก่อนชี้ขาด ส่วนปิดรับสมัครดีดีบินไทยมีผู้สมัครเพิ่มอีก 4 ราย ชื่อ ”ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์” โผล่ ยังมีอดีต ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการบินที่อยู่ระหว่างการถูกสอบสวนความผิดทางวินัยกรณีทุจริตเข้าสมัคร
วานนี้ (9 มี.ค.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย นำโดยนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย และสมาชิก จำนวน 25 คน ได้ยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผ่านนายศิริโชค โสภา ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อคัดค้านการย้ายสายการบินไทยออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 29 มี.ค.นี้
นางแจ่มศรี กล่าวว่า ขอให้นายกรัฐมนตรี ระงับการย้ายการบินไทยจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากนโยบายของรัฐในการบริหารท่าอากาศยานรูปแบบการมีสนามบินเดียว( Single Airport) ขณะที่สนามบินดอนเมืองยังเปิดให้ผู้โดยสารโดยสารเชิงพาณิชย์ เช่น สายการบินนกแอร์ วันทูโก และแอร์เอเชีย ซึ่งกำลังจะย้ายมาให้บริการที่สนามบินดอนเมือง การย้ายการบินไทยออกจากดอนเมืองเท่ากับเป็นการตัดสิทธิสายการบินแห่งชาติในการแข่งขัน ขัดต่อนโยบายการแข่งขันเสรี
ขณะที่ฝ่ายบริหารอ้างว่าเป็นการประหยัดงบประมาณปีละ 460 ล้านบาท ถือเป็นข้ออ้างที่ไร้เหตุผล ฝ่ายบริหารต้องมีวิสัยทัศน์ ต้องบริหารงานให้เกิดผลกำไร หาวิธีการเพิ่มรายได้จากากรบริหารจัดการ มิใช่แต่จะคิดลดค่าใช้จ่ายโดยไม่มีวิธีคิดเพิ่มรายได้ และไม่มองถึงโอกาสในการแข่งขันกับสายการบินอื่น
ส่วนข้ออ้างเรื่องที่บริษัทการบินไทยได้รับการจองตั๋วไว้แล้ว 1 แสนที่นั่งในระยะเวลา 6 เดือนนั้น ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะยังคงให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองไม่ได้ เพราะผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทางภายในประเทศ บริษัทฯสามารถแจ้งเปลี่ยนสถานที่ขึ้น-ลง เครื่องบินได้โดยผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง
“ หากเมื่อใดที่การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่สองแล้วเสร็จ และเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อให้เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน COSTOM FREE ZONE รองรับ CHARTER และ CARGO เหมาลำเพื่อให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็น Single Airport ตามนโยบายรัฐบาล การบินไทยก็พร้อมจะย้ายไปสุวรรณภูมิทันที”
อย่างไรก็ตามในวันนี้(10 มี.ค.) สหภาพฯจะมีการประชุมวิสามัญสมาชิก เพื่อกำหนดท่าทีในการดำเนินการคัดค้านฝ่ายบริหารในการเตรียมตัวที่จะย้ายสายการบินไทยกลับไปเปิดให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 29 มี.ค. นี้อย่างชัดเจน
*****ร้อง กมธ.สิทธิฯเข้าตรวจสอบ
ในวันเดียวกัน นางแจ่มศรี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เข้ายื่นหนังสือต่อนายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมการมนุษยชนสิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ที่รัฐสภา เพื่อคัดค้านการย้ายสายการบินไทยออกจากสนามบินดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายสมชาย กล่าวว่า เรื่องนี้ทางคณะกรรมาธิการฯให้ความสนใจในเรื่องนี้ พร้อมที่จะไปตรวจสอบและศึกษา เพราะตนไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิมีปัญหาเรื่องการแออัดของการจราจร โดยจะหารือกับประธานคณะกรรมาธิการคมนาคมด้วย
“ ที่ผ่านมา ผมเคยตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้ต่อรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมแล้ว แต่รัฐมนตรีไม่มาตอบคำถาม แต่ตนก็จะยื่นกระทู้ถามกับนายกฯอีกครั้ง ใน 3 ประเด็น คือ 1.เรื่องSingle Airport 2.การเตรียมการก่อสร้าง 3.ฝ่ายบริหารอ้างว่าการย้ายการบินไทยไปสุวรรณภูมิจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณปีละ 640 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม ทางกรรมาธิการฯ ยังพบข้อพิรุธที่เกิดจากความไม่พร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิ ในการให้บริการรถเข็นขนกระเป๋า โดยพบเอกสารของบริษัทไทยแอร์พอร์ต กราวด์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือแท็กส์ คู่สัญญาในการให้บริการรถเข็นกับสนามบินสุวรณภูมิ ได้แจ้งว่า มีรถเข็นหายไปจำนวน 6,000 คัน ทำให้มีรถเข็นไม่เพียงพอ ขณะที่สัญญาระบุค่าปรับรถเข็นที่ไม่เพียงพอในอัตรา 2,000 บาทต่อคันต่อวัน รวมเป็นเงินกว่า 2,000 ล้านบาท แต่กลับไม่มีการปรับ ขณะที่บริษัทแท็กส์ กลับเสนอแผนแก้ปัญหาที่อาจเชื่อมโยงกับปัญหาย้ายการบินไทยไปสนามบินสุวรรณภูมิ โดยการเสนอแผนเช่ารถเข็นจากสนามบินดอนเมือง จำนวน 1,600 คัน จึงไม่ทราบว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์กันหรือไม่
“เราพบว่า นอกจากไม่ปรับแล้ว บริษัทยังมีความเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจเดิม ขณะที่รถเข็นหายไปกว่า 6,000 คัน บริษัทนี้ยังเสนอขอขยายอายุสัญญาออกไปอีก 5 ปี เป็นสัญญาให้บริการและติดป้ายโฆษณาบนรถเข็น แถมยังบอกอีกว่า การเสนอแผนดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวขอเสนอแผนเพิ่มรถเข็นอีก 5,000 คัน และยังขอเก็บค่าเช่าเพิ่มในอัตราใหม่ โดยมีอายุสัญญาอีก 7 ปี เรื่องนี้กรรมาธิการจะติดตามความชัดเจน เพราะหากเกิดขึ้นจริงถือเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดปกติ” นายสมชาย กล่าว
*** รวมพลคนบินไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า สหภาพฯได้แจกแถลงการณ์ด่วน! เรื่อง “หยุด! ปล้นการบินไทย” ระบุว่า ขอให้สมาชิกสหภาพแรงงานฯ มารวมตัวกันที่บริษัท การบินไทย สำนักงานใหญ่ถนนวิภาวดีรังสิต ในเวลา 08.00 น.วันนี้ (10 มี.ค. ) โดยจะเรียกร้องให้รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารบริษัทการบินไทย ยุติการย้ายการบริการจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินสุวรรณภูมิโดยทันที โดยวันดังกล่าวตรงกับวันที่สหภาพฯจะมีการประชุมวิสามัญสมาชิก
ทั้งนี้ พนักงานการบินไทย จะรวมพลังคัดค้านการย้ายสนามบินดอนเมือง ซึ่งการบินไทยถือว่าเป็นสายการบินแห่งชาติ เป็นรัฐวิสาหกิจ รัฐบาลต้องมีความจริงใจที่จะให้มีการแข่งขันอย่างเสรี ต้องไม่แทรกแซงเอื้อผลประโยชน์ให้เอกชน และตกไปอยู่กับนายทุน นักการเมืองและต่างชาติ
***มาร์คถกคลัง-คมนาคมแก้ปัญหาฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกใช้สนามบินดอนเมือง ให้กลับไปใช้สนามบินสุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียว ว่า ในวันนี้ (10 มี.ค.) จะหารือกับนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้คุยกันบ้างในเบื้องต้น เพราะได้รับฟังความคิดเห็นทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย จึงให้เอาตัวเลขมาดูทั้งหมด เพราะตอนแรกก็ใช้สนามบินที่สุวรรณภูมิแห่งเดียว เรามีประสบการณ์ที่สามารถเปรียบเทียบได้ในแง่ผลกระทบ ในเชิงต้นทุน ค่าใช้จ่าย รวมทั้งความสะดวกต่างๆ ก็จะได้ดูเรื่องทั้งหมด ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะได้ข้อสรุปหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ต้องมีความคืบหน้าบ้าง
ส่วนกรณีที่สนามบินดอนเมืองมีการลงทุนไปจำนวนมาก แทนที่จะปล่อยทิ้งก็น่าจะใช้ประโยชน์ ในส่วนของท้องถิ่น น่าจะเป็นเรื่องดี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความคิดส่วนตัวและหลายๆคนที่ใช้เครื่องบิน ก็ชอบเพราะสะดวกดี แต่เมื่อมีข้อเสนอขึ้นมาจากฝ่ายบริหารของบริษัทการบินไทยเพื่อจะลดต้นทุน จึงต้องมาดูว่าจะช่วยได้จริงและสามารถลดต้นทุนได้จริงหรือไม่ หรือมีวิธีการอื่นที่ดีกว่าก็ต้องมาดูกัน ส่วนข้อเสนอของผู้ว่าฯ กทม.ที่จะให้ใช้สนามบินดอนเมืองไปทำโรงพยาบาลนั้น ยังไม่ทราบข้อเสนอดังกล่าว
**** “ปิยสวัสดิ์”ร่วมชิงดำดีดีบินไทย
สำหรับความคืบหน้าการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย (ดีดี) หลังขยายเวลาเปิดรับสมัครรอบ 2 ไปจนถึงวันที่ 6 มี.ค.นี้ พบว่ามี.ค. มีสมัครเพิ่มขึ้นอีก 4 ราย รวมผู้สมัครเดิมเป็น 11 ราย โดย 2 ใน 4 รายที่สมัครเพิ่มเติมมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรมว.พลังงานในสมัยนายกฯสุรยุทธ์ จุลานนท์ นอกจากนี้มีเรืออากาศโทอภิชัย แสงศศิ อดีตผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการบิน การบินไทย ซึ่งปัจจุบันถูกบอร์ดการบินไทยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากถูกสอบสวนทางวินัยกรณีทุจริตการจัดหาการเช่าโรงแรมที่พักลูกเรือในต่างประเทศ
ส่วนรายชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งดีดีก่อนหน้านี้ 7 คน ประกอบด้วย นายสุรชัย ฉันทาพร ประธานกรรมการ บริษัท เคทองฮวด เทเลคอม โนเกีย จำกัด ผศ.ร.อ.นายแพทย์สุมาศ วงศุนพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารธนชาต นายเชษฐ์ มังคโลดม เคยเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท เวอร์จิ้น บีอีซีเทโร เรดิโอ จำกัด พลอากาศเอกพิธพร กลิ่นเฟื่อง ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพอากาศ นายธีรวิทย์ จารุวัสต์ ผู้พิพากษาสมทบศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง นายประกอบเกียรติ นินนาท ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษการบินไทย และนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนประเทศ.
วานนี้ (9 มี.ค.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย นำโดยนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย และสมาชิก จำนวน 25 คน ได้ยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผ่านนายศิริโชค โสภา ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อคัดค้านการย้ายสายการบินไทยออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 29 มี.ค.นี้
นางแจ่มศรี กล่าวว่า ขอให้นายกรัฐมนตรี ระงับการย้ายการบินไทยจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากนโยบายของรัฐในการบริหารท่าอากาศยานรูปแบบการมีสนามบินเดียว( Single Airport) ขณะที่สนามบินดอนเมืองยังเปิดให้ผู้โดยสารโดยสารเชิงพาณิชย์ เช่น สายการบินนกแอร์ วันทูโก และแอร์เอเชีย ซึ่งกำลังจะย้ายมาให้บริการที่สนามบินดอนเมือง การย้ายการบินไทยออกจากดอนเมืองเท่ากับเป็นการตัดสิทธิสายการบินแห่งชาติในการแข่งขัน ขัดต่อนโยบายการแข่งขันเสรี
ขณะที่ฝ่ายบริหารอ้างว่าเป็นการประหยัดงบประมาณปีละ 460 ล้านบาท ถือเป็นข้ออ้างที่ไร้เหตุผล ฝ่ายบริหารต้องมีวิสัยทัศน์ ต้องบริหารงานให้เกิดผลกำไร หาวิธีการเพิ่มรายได้จากากรบริหารจัดการ มิใช่แต่จะคิดลดค่าใช้จ่ายโดยไม่มีวิธีคิดเพิ่มรายได้ และไม่มองถึงโอกาสในการแข่งขันกับสายการบินอื่น
ส่วนข้ออ้างเรื่องที่บริษัทการบินไทยได้รับการจองตั๋วไว้แล้ว 1 แสนที่นั่งในระยะเวลา 6 เดือนนั้น ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะยังคงให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองไม่ได้ เพราะผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทางภายในประเทศ บริษัทฯสามารถแจ้งเปลี่ยนสถานที่ขึ้น-ลง เครื่องบินได้โดยผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง
“ หากเมื่อใดที่การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่สองแล้วเสร็จ และเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อให้เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน COSTOM FREE ZONE รองรับ CHARTER และ CARGO เหมาลำเพื่อให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็น Single Airport ตามนโยบายรัฐบาล การบินไทยก็พร้อมจะย้ายไปสุวรรณภูมิทันที”
อย่างไรก็ตามในวันนี้(10 มี.ค.) สหภาพฯจะมีการประชุมวิสามัญสมาชิก เพื่อกำหนดท่าทีในการดำเนินการคัดค้านฝ่ายบริหารในการเตรียมตัวที่จะย้ายสายการบินไทยกลับไปเปิดให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 29 มี.ค. นี้อย่างชัดเจน
*****ร้อง กมธ.สิทธิฯเข้าตรวจสอบ
ในวันเดียวกัน นางแจ่มศรี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เข้ายื่นหนังสือต่อนายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมการมนุษยชนสิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ที่รัฐสภา เพื่อคัดค้านการย้ายสายการบินไทยออกจากสนามบินดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายสมชาย กล่าวว่า เรื่องนี้ทางคณะกรรมาธิการฯให้ความสนใจในเรื่องนี้ พร้อมที่จะไปตรวจสอบและศึกษา เพราะตนไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิมีปัญหาเรื่องการแออัดของการจราจร โดยจะหารือกับประธานคณะกรรมาธิการคมนาคมด้วย
“ ที่ผ่านมา ผมเคยตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้ต่อรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมแล้ว แต่รัฐมนตรีไม่มาตอบคำถาม แต่ตนก็จะยื่นกระทู้ถามกับนายกฯอีกครั้ง ใน 3 ประเด็น คือ 1.เรื่องSingle Airport 2.การเตรียมการก่อสร้าง 3.ฝ่ายบริหารอ้างว่าการย้ายการบินไทยไปสุวรรณภูมิจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณปีละ 640 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม ทางกรรมาธิการฯ ยังพบข้อพิรุธที่เกิดจากความไม่พร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิ ในการให้บริการรถเข็นขนกระเป๋า โดยพบเอกสารของบริษัทไทยแอร์พอร์ต กราวด์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือแท็กส์ คู่สัญญาในการให้บริการรถเข็นกับสนามบินสุวรณภูมิ ได้แจ้งว่า มีรถเข็นหายไปจำนวน 6,000 คัน ทำให้มีรถเข็นไม่เพียงพอ ขณะที่สัญญาระบุค่าปรับรถเข็นที่ไม่เพียงพอในอัตรา 2,000 บาทต่อคันต่อวัน รวมเป็นเงินกว่า 2,000 ล้านบาท แต่กลับไม่มีการปรับ ขณะที่บริษัทแท็กส์ กลับเสนอแผนแก้ปัญหาที่อาจเชื่อมโยงกับปัญหาย้ายการบินไทยไปสนามบินสุวรรณภูมิ โดยการเสนอแผนเช่ารถเข็นจากสนามบินดอนเมือง จำนวน 1,600 คัน จึงไม่ทราบว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์กันหรือไม่
“เราพบว่า นอกจากไม่ปรับแล้ว บริษัทยังมีความเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจเดิม ขณะที่รถเข็นหายไปกว่า 6,000 คัน บริษัทนี้ยังเสนอขอขยายอายุสัญญาออกไปอีก 5 ปี เป็นสัญญาให้บริการและติดป้ายโฆษณาบนรถเข็น แถมยังบอกอีกว่า การเสนอแผนดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวขอเสนอแผนเพิ่มรถเข็นอีก 5,000 คัน และยังขอเก็บค่าเช่าเพิ่มในอัตราใหม่ โดยมีอายุสัญญาอีก 7 ปี เรื่องนี้กรรมาธิการจะติดตามความชัดเจน เพราะหากเกิดขึ้นจริงถือเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดปกติ” นายสมชาย กล่าว
*** รวมพลคนบินไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า สหภาพฯได้แจกแถลงการณ์ด่วน! เรื่อง “หยุด! ปล้นการบินไทย” ระบุว่า ขอให้สมาชิกสหภาพแรงงานฯ มารวมตัวกันที่บริษัท การบินไทย สำนักงานใหญ่ถนนวิภาวดีรังสิต ในเวลา 08.00 น.วันนี้ (10 มี.ค. ) โดยจะเรียกร้องให้รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารบริษัทการบินไทย ยุติการย้ายการบริการจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินสุวรรณภูมิโดยทันที โดยวันดังกล่าวตรงกับวันที่สหภาพฯจะมีการประชุมวิสามัญสมาชิก
ทั้งนี้ พนักงานการบินไทย จะรวมพลังคัดค้านการย้ายสนามบินดอนเมือง ซึ่งการบินไทยถือว่าเป็นสายการบินแห่งชาติ เป็นรัฐวิสาหกิจ รัฐบาลต้องมีความจริงใจที่จะให้มีการแข่งขันอย่างเสรี ต้องไม่แทรกแซงเอื้อผลประโยชน์ให้เอกชน และตกไปอยู่กับนายทุน นักการเมืองและต่างชาติ
***มาร์คถกคลัง-คมนาคมแก้ปัญหาฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกใช้สนามบินดอนเมือง ให้กลับไปใช้สนามบินสุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียว ว่า ในวันนี้ (10 มี.ค.) จะหารือกับนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้คุยกันบ้างในเบื้องต้น เพราะได้รับฟังความคิดเห็นทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย จึงให้เอาตัวเลขมาดูทั้งหมด เพราะตอนแรกก็ใช้สนามบินที่สุวรรณภูมิแห่งเดียว เรามีประสบการณ์ที่สามารถเปรียบเทียบได้ในแง่ผลกระทบ ในเชิงต้นทุน ค่าใช้จ่าย รวมทั้งความสะดวกต่างๆ ก็จะได้ดูเรื่องทั้งหมด ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะได้ข้อสรุปหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ต้องมีความคืบหน้าบ้าง
ส่วนกรณีที่สนามบินดอนเมืองมีการลงทุนไปจำนวนมาก แทนที่จะปล่อยทิ้งก็น่าจะใช้ประโยชน์ ในส่วนของท้องถิ่น น่าจะเป็นเรื่องดี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความคิดส่วนตัวและหลายๆคนที่ใช้เครื่องบิน ก็ชอบเพราะสะดวกดี แต่เมื่อมีข้อเสนอขึ้นมาจากฝ่ายบริหารของบริษัทการบินไทยเพื่อจะลดต้นทุน จึงต้องมาดูว่าจะช่วยได้จริงและสามารถลดต้นทุนได้จริงหรือไม่ หรือมีวิธีการอื่นที่ดีกว่าก็ต้องมาดูกัน ส่วนข้อเสนอของผู้ว่าฯ กทม.ที่จะให้ใช้สนามบินดอนเมืองไปทำโรงพยาบาลนั้น ยังไม่ทราบข้อเสนอดังกล่าว
**** “ปิยสวัสดิ์”ร่วมชิงดำดีดีบินไทย
สำหรับความคืบหน้าการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย (ดีดี) หลังขยายเวลาเปิดรับสมัครรอบ 2 ไปจนถึงวันที่ 6 มี.ค.นี้ พบว่ามี.ค. มีสมัครเพิ่มขึ้นอีก 4 ราย รวมผู้สมัครเดิมเป็น 11 ราย โดย 2 ใน 4 รายที่สมัครเพิ่มเติมมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรมว.พลังงานในสมัยนายกฯสุรยุทธ์ จุลานนท์ นอกจากนี้มีเรืออากาศโทอภิชัย แสงศศิ อดีตผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการบิน การบินไทย ซึ่งปัจจุบันถูกบอร์ดการบินไทยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากถูกสอบสวนทางวินัยกรณีทุจริตการจัดหาการเช่าโรงแรมที่พักลูกเรือในต่างประเทศ
ส่วนรายชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งดีดีก่อนหน้านี้ 7 คน ประกอบด้วย นายสุรชัย ฉันทาพร ประธานกรรมการ บริษัท เคทองฮวด เทเลคอม โนเกีย จำกัด ผศ.ร.อ.นายแพทย์สุมาศ วงศุนพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารธนชาต นายเชษฐ์ มังคโลดม เคยเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท เวอร์จิ้น บีอีซีเทโร เรดิโอ จำกัด พลอากาศเอกพิธพร กลิ่นเฟื่อง ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพอากาศ นายธีรวิทย์ จารุวัสต์ ผู้พิพากษาสมทบศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง นายประกอบเกียรติ นินนาท ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษการบินไทย และนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนประเทศ.