ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์” โหนกระแส ชาวผู้ดีฮิตสมุนไพรไทย ต้านโรค ลดความอ้วน เร่งปั้มส่งออกอาหารไปอังกฤษเพิ่ม
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไปอังกฤษปีนี้จะเน้นส่งเสริมสินค้าและบริการประเภทอาหารเข้าไปอังกฤษมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร เนื่องจากขณะนี้ชาวอังกฤษกำลังนิยมบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะสมุนไพรไทยเพราะสามารถป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และช่วยลดความอ้วนได้ รวมทั้งก็จะเร่งส่งเสริมการขยายสาขาร้านอาหารไทยในอังกฤษเพิ่มจากปัจจุบันที่มี 1,700 ร้าน ในจำนวนนี้อยู่ในลอนดอน 600 ร้าน
“ตอนนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยหาพันธมิตรโดยจะสร้างบริการใหม่ๆ ขึ้น เช่น การสอนทำอาหาร หรือ สอนในสถาบันทางด้านวิชาชีพ เพราะชาวอังกฤษสนใจทำอาหารไทยค่อนข้างมาก และเป็นการส่งเสริมให้ครัวไทยก้าวไปสู่ครัวโลกได้จริง โดยไทยยังคงเป็นไม่กี่ประเทศในโลกที่เป็นผู้ส่งออกอาหารอย่างแท้จริง แต่ปัญหาใหญ่ในตอนนี้คือเรื่องภาษาในการสื่อสาร ที่ไทยต้องเร่งพัฒนาคนควบคู่ไปด้วย”
น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าวว่า นอกจากสินค้ากลุ่มอาหาร ธุรกิจบริการ สปา เอ็นเตอร์เทรนเมนท์ ยังเป็นอีกกลุ่มที่ได้รับความสนใจ รวมถึงธุรกิจภาพยนตร์หลายเรื่องที่ชาวต่างชาติค่อนข้างสนใจที่จะซื้อเนื้อเรื่องเพื่อถ่ายทำใหม่ รวมถึงซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายต่อ ขณะที่ฝีมือในการสร้างหนังเอนิเมชั่นของคนไทยถือว่าเป็นที่ยอมรับของสากล โดยมีบุคลากรที่มีฝีมือค่อนข้างมากขาดเพียงโอกาสในการแสดงผลงาน
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือไทยต้องเร่งสร้างตราสินค้า (แบรนด์) เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เพราะที่ผ่านมาสินค้าไทยจำนวนมากอยู่ในฐานะเพียงผู้ผลิตสินค้าแทน หากในอนาคตสินค้าไทยสามารถสร้างแบรนด์ตัวเองให้เป็นที่รู้จักได้มากขึ้น จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศรวมทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าในตัวสินค้าด้วย
ส่วนในด้านการส่งออก แม้เศรษฐกิจอังกฤษอาจเติบโตติดลบ 3% ถึงลบ 2.8% แต่เชื่อว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าไทยสู่อังกฤษในปีนี้จะเติบโตได้ในระดับ 3.5% ขณะที่การส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู) จะเติบโตได้ 2% เนื่องจากสินค้าที่ไทยส่งออกมายังอังกฤษและยุโรป ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ส่วนสินค้าที่อาจจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ส่วนประกอบรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แผนวงจรไฟฟ้า เป็นต้น
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไปอังกฤษปีนี้จะเน้นส่งเสริมสินค้าและบริการประเภทอาหารเข้าไปอังกฤษมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร เนื่องจากขณะนี้ชาวอังกฤษกำลังนิยมบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะสมุนไพรไทยเพราะสามารถป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และช่วยลดความอ้วนได้ รวมทั้งก็จะเร่งส่งเสริมการขยายสาขาร้านอาหารไทยในอังกฤษเพิ่มจากปัจจุบันที่มี 1,700 ร้าน ในจำนวนนี้อยู่ในลอนดอน 600 ร้าน
“ตอนนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยหาพันธมิตรโดยจะสร้างบริการใหม่ๆ ขึ้น เช่น การสอนทำอาหาร หรือ สอนในสถาบันทางด้านวิชาชีพ เพราะชาวอังกฤษสนใจทำอาหารไทยค่อนข้างมาก และเป็นการส่งเสริมให้ครัวไทยก้าวไปสู่ครัวโลกได้จริง โดยไทยยังคงเป็นไม่กี่ประเทศในโลกที่เป็นผู้ส่งออกอาหารอย่างแท้จริง แต่ปัญหาใหญ่ในตอนนี้คือเรื่องภาษาในการสื่อสาร ที่ไทยต้องเร่งพัฒนาคนควบคู่ไปด้วย”
น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าวว่า นอกจากสินค้ากลุ่มอาหาร ธุรกิจบริการ สปา เอ็นเตอร์เทรนเมนท์ ยังเป็นอีกกลุ่มที่ได้รับความสนใจ รวมถึงธุรกิจภาพยนตร์หลายเรื่องที่ชาวต่างชาติค่อนข้างสนใจที่จะซื้อเนื้อเรื่องเพื่อถ่ายทำใหม่ รวมถึงซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายต่อ ขณะที่ฝีมือในการสร้างหนังเอนิเมชั่นของคนไทยถือว่าเป็นที่ยอมรับของสากล โดยมีบุคลากรที่มีฝีมือค่อนข้างมากขาดเพียงโอกาสในการแสดงผลงาน
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือไทยต้องเร่งสร้างตราสินค้า (แบรนด์) เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เพราะที่ผ่านมาสินค้าไทยจำนวนมากอยู่ในฐานะเพียงผู้ผลิตสินค้าแทน หากในอนาคตสินค้าไทยสามารถสร้างแบรนด์ตัวเองให้เป็นที่รู้จักได้มากขึ้น จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศรวมทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าในตัวสินค้าด้วย
ส่วนในด้านการส่งออก แม้เศรษฐกิจอังกฤษอาจเติบโตติดลบ 3% ถึงลบ 2.8% แต่เชื่อว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าไทยสู่อังกฤษในปีนี้จะเติบโตได้ในระดับ 3.5% ขณะที่การส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู) จะเติบโตได้ 2% เนื่องจากสินค้าที่ไทยส่งออกมายังอังกฤษและยุโรป ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ส่วนสินค้าที่อาจจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ส่วนประกอบรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แผนวงจรไฟฟ้า เป็นต้น
