ASTVผู้จัดการรายวัน – เซเรบอส อัดการตลาดเร็ว ระเบิดโฆษณาถี่ยิบ ปลุกกระแสทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ซุปไก่น้ำ-เม็ด รังนก ลากยาวถึงผลไม้สกัดเข้มข้น ตั้งแต่ต้นปี หลังพิษเศรษฐกิจพ่นตลาด 2,800 ล้านบาท ชะลอตัวลง เท 30 ล้านบาท ส่งแคมเปญโฆษณาวีต้าพรุนปั๊มยอดโตกว่า 10% กวาดกว่า 400 ล้านบาท สิ้นปีโกยรายได้รวมกว่า 4,000 ล้านบาท
นายตุลย์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไปการจัดการธุรกิจและการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์วีต้าพรุนสกัดเข้มข้น เปิดเผยว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมูลค่า 2,800 ล้านบาทชะลอตัวลงบ้าง เพราะผู้บริโภคระวังการใช้จ่าย และลดความถี่ในการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลง หรือเลือกซื้อสินค้าขนาดเล็กลง
ดังนั้นตั้งแต่ต้นปีบริษัทจึงดำเนินการตลาดเชิงรุก เพื่อปลุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้คึกคัก อาทิ การเปิดตัวแคมเปญรังนก และจับมือร่วมกับมิสลิลลี่ในช่วงวาเลนไทนส์ การเปิดตัวแบรนด์ซุปไก่ชนิดเม็ด และนำหนูดี-วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการทางสมอง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ปีที่ 2 เป็นต้น นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ วางแผนเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ อาทิ แบรนด์วีต้าเบอรี่ เป็นต้น
“ปีนี้เราทำตลาดเร็วขึ้นกว่าทุกปี โดยใช้กลยุทธ์ทั้งอีโมชันนัลและฟังก์ชันนัล เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ต้องติดตามใกล้ชิดกับผู้บริโภค ปรับเปลี่ยนการทำตลาดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”
ล่าสุดทุ่มงบ 30 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญโฆษณาแบรนด์วีต้าพรุนสกัดเข้มข้น “สตรีท แฟชั่น” ครั้งแรกรอบ 2 ปี เจาะกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18 ปีขึ้นไป ถึงวัยทำงานที่สนใจดูแลผิวพรรณและรูปร่าง โดยหนังโฆษณาเผยแพร่วันที่ 4 มีนาคม 2552 นี้ อีกทั้งยังได้จัดกิจกรรมไลฟ์สไตล์ แคมเปญ สร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภค
นายตุลย์ กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภควีต้าพรุนหันมาซื้อสินค้าขนาดเล็กลง โดยขนาด 42 มล.ราคา 35 บาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับขนาด 70 มล. ราคา 70 บาท อย่างไรก็ตามจากการเปิดตัวแคมเปญโฆษณาในครั้งนี้ คาดว่าสิ้นปีจะส่งผลให้แบรนด์วีต้าพรุนสกัดเข้มข้น มีอัตราการเติบโตกว่า 10%
ตลาดผลไม้สกัดเข้มข้น 400 ล้านบาท โตกว่า 10% โดยจากการสำรวจ 3 ประเทศในเอเชีย คือ ไต้หวัน ฮ่องกงและไทย พบว่า ประเทศไทยแบรนด์วีต้าพรุนสกัดเข้มข้นมีการรับรู้สูงสุดถึง 95% เมื่อเทียบกับกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อความงามอื่นๆ อีกทั้งพบว่าปัญหาผิวพรรณเป็นอันดับต้นๆ ที่กลุ่มผู้หญิงมีความกังวล แต่ในทางกลับกันยังมีการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลผิวและความงาม 40% ดังนั้นตลาดยังมีศักยภาพเติบโตอีกมาก
สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้ากว่า 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ 3 กลุ่ม คือ ซุปไก่สกัด 60% รังนก 30% วีต้า 10% ทั้ง 3 กลุ่มมีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ทั้งนี้กลุ่มวีต้า แบ่งเป็น รายได้จากพรุนสกัด 50% เบอรี่ 35% และวีต้า บาลานซ์ 15%
นายตุลย์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไปการจัดการธุรกิจและการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์วีต้าพรุนสกัดเข้มข้น เปิดเผยว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมูลค่า 2,800 ล้านบาทชะลอตัวลงบ้าง เพราะผู้บริโภคระวังการใช้จ่าย และลดความถี่ในการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลง หรือเลือกซื้อสินค้าขนาดเล็กลง
ดังนั้นตั้งแต่ต้นปีบริษัทจึงดำเนินการตลาดเชิงรุก เพื่อปลุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้คึกคัก อาทิ การเปิดตัวแคมเปญรังนก และจับมือร่วมกับมิสลิลลี่ในช่วงวาเลนไทนส์ การเปิดตัวแบรนด์ซุปไก่ชนิดเม็ด และนำหนูดี-วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการทางสมอง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ปีที่ 2 เป็นต้น นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ วางแผนเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ อาทิ แบรนด์วีต้าเบอรี่ เป็นต้น
“ปีนี้เราทำตลาดเร็วขึ้นกว่าทุกปี โดยใช้กลยุทธ์ทั้งอีโมชันนัลและฟังก์ชันนัล เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ต้องติดตามใกล้ชิดกับผู้บริโภค ปรับเปลี่ยนการทำตลาดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”
ล่าสุดทุ่มงบ 30 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญโฆษณาแบรนด์วีต้าพรุนสกัดเข้มข้น “สตรีท แฟชั่น” ครั้งแรกรอบ 2 ปี เจาะกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18 ปีขึ้นไป ถึงวัยทำงานที่สนใจดูแลผิวพรรณและรูปร่าง โดยหนังโฆษณาเผยแพร่วันที่ 4 มีนาคม 2552 นี้ อีกทั้งยังได้จัดกิจกรรมไลฟ์สไตล์ แคมเปญ สร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภค
นายตุลย์ กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภควีต้าพรุนหันมาซื้อสินค้าขนาดเล็กลง โดยขนาด 42 มล.ราคา 35 บาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับขนาด 70 มล. ราคา 70 บาท อย่างไรก็ตามจากการเปิดตัวแคมเปญโฆษณาในครั้งนี้ คาดว่าสิ้นปีจะส่งผลให้แบรนด์วีต้าพรุนสกัดเข้มข้น มีอัตราการเติบโตกว่า 10%
ตลาดผลไม้สกัดเข้มข้น 400 ล้านบาท โตกว่า 10% โดยจากการสำรวจ 3 ประเทศในเอเชีย คือ ไต้หวัน ฮ่องกงและไทย พบว่า ประเทศไทยแบรนด์วีต้าพรุนสกัดเข้มข้นมีการรับรู้สูงสุดถึง 95% เมื่อเทียบกับกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อความงามอื่นๆ อีกทั้งพบว่าปัญหาผิวพรรณเป็นอันดับต้นๆ ที่กลุ่มผู้หญิงมีความกังวล แต่ในทางกลับกันยังมีการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลผิวและความงาม 40% ดังนั้นตลาดยังมีศักยภาพเติบโตอีกมาก
สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้ากว่า 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ 3 กลุ่ม คือ ซุปไก่สกัด 60% รังนก 30% วีต้า 10% ทั้ง 3 กลุ่มมีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ทั้งนี้กลุ่มวีต้า แบ่งเป็น รายได้จากพรุนสกัด 50% เบอรี่ 35% และวีต้า บาลานซ์ 15%