นักวิจัยแคนาดาระบุเด็กอนุบาลที่ครูระบุว่ามีพฤติกรรม ‘หุนหันพลันแล่น’ มีแนวโน้มชอบการเสี่ยงโชค เช่น เล่นไพ่หรือพนันขันต่อก่อนก้าวเข้าสู่วัยรุ่น
ลินดา ปากานี ผู้นำการวิจัยจากศูนย์วิจัยของเซนต์-จัสติน ยูนิเวอร์ซิตี้ ฮอสปิตอล และมหาวิทยาลัยมอนทรีอัล ชี้ว่าการศึกษาที่ตีพิมพ์ในอาร์ไคฟ์ส ออฟ เพเดรียทริกส์ แอนด์ อะโดเลสเซนต์ เมดิซิน เป็นการศึกษาชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นพฤติกรรมการเสี่ยงโชคในหมู่เด็กเล็ก
ปากานีเสริมว่า ผลการศึกษานี้เป็นการเพิ่มการพนันขันต่อลงในรายการปัญหาพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความใจร้อนของเด็กเล็ก ซึ่งรวมถึงการทำผิดกฎ เรียนไม่จบชั้นมัธยม ปัญหาสุขภาพจิต และการติดยาเสพติดเมื่อโตขึ้น
นักวิจัยได้ขอให้ครูโรงเรียนอนุบาล 163 คน ทำแบบสอบถามเมื่อเปิดภาคเรียน เพื่อให้คะแนนความไม่สนใจเรียน และอาการสมาธิสั้นของนักเรียน
หกปีต่อมา เมื่อเด็กมีอายุเฉลี่ย 11.5 ปี นักวิจัยจะทำการสัมภาษณ์เด็กทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการเสี่ยงโชค เช่น การเล่นไพ่หรือบิงโก การซื้อล็อตเตอรี่ เล่นวิดีโอเกมหรือวิดีโอเกมโป๊กเกอร์กินเงิน หรือพนันผลการแข่งขันกีฬาระหว่างนั่งดูข้างสนาม หรือพนันกับเพื่อน
หลังจากควบคุมปัจจัยต่างๆ เช่น องค์ประกอบของครอบครัว การศึกษาของพ่อแม่ และรายได้ของครอบครัว นักวิจัยพบว่าความหุนหันพลันแล่นที่เพิ่มขึ้นทุกหนึ่งคะแนนสมัยเรียนอนุบาล เพิ่มแนวโน้มในการเกี่ยวข้องกับการพนันเมื่อเด็กอยู่เกรดหกถึง 25%
ปากานีสำทับว่า เด็กที่เริ่มเล่นการพนันในช่วงวัยรุ่นมีแนวโน้มมีปัญหาเกี่ยวกับการเสี่ยงโชครุนแรงเมื่อเป็นผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตาม ดร.ทิโมธี ฟอง จากแกมบลิง สตัดดี้ส์ โปรแกรม แอนด์ อิมพัลส์ คอนโทรล ดิสออร์เดอร์ คลินิก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย-ลอสแองเจลีส กล่าวว่าผู้ปกครองควรตระหนักว่า ความใจร้อนและการเล่นพนันตั้งแต่เด็กไม่ได้หมายความว่าเด็กจะมีปัญหาพฤติกรรมร้ายแรงเมื่อเป็นผู้ใหญ่เสมอไป
แต่สิ่งที่งานศึกษาชิ้นนี้นำเสนอคือ หลักฐานที่ชัดเจนขึ้นที่บ่งชี้วิธีการที่พฤติกรรมการพนันก่อตัวขึ้นมาคือตั้งแต่ช่วงก่อนวัยรุ่นด้วยซ้ำ
ลินดา ปากานี ผู้นำการวิจัยจากศูนย์วิจัยของเซนต์-จัสติน ยูนิเวอร์ซิตี้ ฮอสปิตอล และมหาวิทยาลัยมอนทรีอัล ชี้ว่าการศึกษาที่ตีพิมพ์ในอาร์ไคฟ์ส ออฟ เพเดรียทริกส์ แอนด์ อะโดเลสเซนต์ เมดิซิน เป็นการศึกษาชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นพฤติกรรมการเสี่ยงโชคในหมู่เด็กเล็ก
ปากานีเสริมว่า ผลการศึกษานี้เป็นการเพิ่มการพนันขันต่อลงในรายการปัญหาพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความใจร้อนของเด็กเล็ก ซึ่งรวมถึงการทำผิดกฎ เรียนไม่จบชั้นมัธยม ปัญหาสุขภาพจิต และการติดยาเสพติดเมื่อโตขึ้น
นักวิจัยได้ขอให้ครูโรงเรียนอนุบาล 163 คน ทำแบบสอบถามเมื่อเปิดภาคเรียน เพื่อให้คะแนนความไม่สนใจเรียน และอาการสมาธิสั้นของนักเรียน
หกปีต่อมา เมื่อเด็กมีอายุเฉลี่ย 11.5 ปี นักวิจัยจะทำการสัมภาษณ์เด็กทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการเสี่ยงโชค เช่น การเล่นไพ่หรือบิงโก การซื้อล็อตเตอรี่ เล่นวิดีโอเกมหรือวิดีโอเกมโป๊กเกอร์กินเงิน หรือพนันผลการแข่งขันกีฬาระหว่างนั่งดูข้างสนาม หรือพนันกับเพื่อน
หลังจากควบคุมปัจจัยต่างๆ เช่น องค์ประกอบของครอบครัว การศึกษาของพ่อแม่ และรายได้ของครอบครัว นักวิจัยพบว่าความหุนหันพลันแล่นที่เพิ่มขึ้นทุกหนึ่งคะแนนสมัยเรียนอนุบาล เพิ่มแนวโน้มในการเกี่ยวข้องกับการพนันเมื่อเด็กอยู่เกรดหกถึง 25%
ปากานีสำทับว่า เด็กที่เริ่มเล่นการพนันในช่วงวัยรุ่นมีแนวโน้มมีปัญหาเกี่ยวกับการเสี่ยงโชครุนแรงเมื่อเป็นผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตาม ดร.ทิโมธี ฟอง จากแกมบลิง สตัดดี้ส์ โปรแกรม แอนด์ อิมพัลส์ คอนโทรล ดิสออร์เดอร์ คลินิก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย-ลอสแองเจลีส กล่าวว่าผู้ปกครองควรตระหนักว่า ความใจร้อนและการเล่นพนันตั้งแต่เด็กไม่ได้หมายความว่าเด็กจะมีปัญหาพฤติกรรมร้ายแรงเมื่อเป็นผู้ใหญ่เสมอไป
แต่สิ่งที่งานศึกษาชิ้นนี้นำเสนอคือ หลักฐานที่ชัดเจนขึ้นที่บ่งชี้วิธีการที่พฤติกรรมการพนันก่อตัวขึ้นมาคือตั้งแต่ช่วงก่อนวัยรุ่นด้วยซ้ำ