ASTVผู้จัดการรายวัน - ร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุยังชะงัก หลังสภาถอนร่างกลับไป ให้กมธ.วิสามัญพิจารณาสางปัญหา 5 ฉบับเก่า ขณะที่ส.ส.เพื่อไทยรุมจี้ "ประธานชัย" ไขก๊อก อ้างเป็นต้นเหตุของปัญหา
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (25ก.พ.) มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทยได้หยิบยกปัญหาร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ จำนวน 5 ฉบับ มาทวงถามความรับผิดชอบของประธานสภาฯ ที่เคยประกาศกลางสภาฯว่า หากนายกรัฐมนตรีไม่ให้การรับรอง ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ขึ้นรับหลักการไปแล้วในฐานะประธานสภาฯ พร้อมจะลาออกจากตำแหน่ง ว่า นายกฯ ไม่ให้การรับรองร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจริงๆ ในฐานะสภาผู้แทนราษฏรที่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในระบอบประชาธิปไตย ควรต้องหาผู้รับผิดชอบที่ทำให้ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีอันตกไป ทั้งที่ฝ่ายค้านพยายามท้วงติงแล้วว่า เป็น พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน แต่ประธานสภา ก็ไม่ยอมฟัง ประธานฯจึงควรลาออกเพื่อความสง่างาม
ด้านนายชัย ได้กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำผิดขั้นตอน แต่เป็นเพราะร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ผ่านการวินิจฉัยของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ซึ่งเป็นรองประธานสภาฯขณะนั้น ชี้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน จึงบรรจุเข้ามาในระเบียบวาระ ซึ่งตนก็ได้แสดงความรับผิดชอบไปแล้ว คือให้ส.ส.เสนอเข้ามาใหม่ และขณะนี้นายกรัฐมนตรี ก็ให้การรับรองร่าง พ.ร.บ. ที่เสนอเข้ามาใหม่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิพาดพิงว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่ร่าง พ.ร.บ.นี้เกี่ยวข้องกับการเงินหรือไม่ แต่อยู่ที่นายชัย เคยพูดชัดเจนแล้วว่า ถ้านายกฯไม่ยอมเซ็นรับรอง พร้อมจะลาออกเท่านั้น และยืนยันว่าประธานสภาฯ ทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 143 ที่ไม่ส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาวินิจฉัยก่อน แต่กลับมาใช้ดุลยพินิจตัดสินเอาเอง จนทำให้กฎหมายดังกล่าวมีปัญหาในทางกฎหมาย
แต่นายชัย ได้แย้งว่าสภาฯ อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ดังนั้นสภาฯ จะแก้กฎหมายอย่างไรก็ได้
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ประชุมใช้เวลาถกเถียงในเรื่องดังกล่าวนานกว่า 4 ชั่วโมง นายชัย ได้ตัดบท ขอให้ที่ประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ที่ส.ส.เสนอเข้ามาใหม่ 5 ฉบับขึ้นมาพิจารณาโดยขอให้ยกเว้นการใช้ข้อบังคับการประชุมข้อที่ 56 ให้สามารถนำ ร่าง พ.ร.บ. ที่เสนอเข้ามาใหม่และมีหลักการเดียวกับร่างที่ตกไปแล้วขึ้นมาพิจารณาได้ แต่ก็ถูกส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ท้วงติงว่าจะทำให้เกิดปัญหาตามมา เนื่องจากไม่ทราบสถานภาพของร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุเดิม 5ฉบับ ที่สภาฯรับหลักการไปแล้ว ว่าจะไปอยู่ตรงจุดใด จึงควรที่จะรอให้มีการตีความสถานภาพของ ร่าง พ.ร.บ.เก่าให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงค่อยนำร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอใหม่ขึ้นมาพิจารณาภายหลัง
หลังจากที่ถกเถียงกันอย่างหนักหน่วง ในที่สุด นายชัย ได้ขอให้ผู้ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุใหม่ทั้ง 5 ฉบับ ขอถอนร่างทั้งหมดอกไป ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติให้ความเห็นชอบ ให้ผู้เสนอถอนร่าง ด้วยคะแนนเสียง 311 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 7 เพื่อให้คณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งไว้ในการประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมาให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. ผู้สูงอายุฉบับเก่าทั้ง 5 ฉบับ ขณะเดียวกัน จะเรียกประชุมประธานคณะกรรมาธิการสามัญทุกคณะ เพื่อพิจารณาถึงอนาคต ร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว ต่อไป
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (25ก.พ.) มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทยได้หยิบยกปัญหาร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ จำนวน 5 ฉบับ มาทวงถามความรับผิดชอบของประธานสภาฯ ที่เคยประกาศกลางสภาฯว่า หากนายกรัฐมนตรีไม่ให้การรับรอง ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ขึ้นรับหลักการไปแล้วในฐานะประธานสภาฯ พร้อมจะลาออกจากตำแหน่ง ว่า นายกฯ ไม่ให้การรับรองร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจริงๆ ในฐานะสภาผู้แทนราษฏรที่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในระบอบประชาธิปไตย ควรต้องหาผู้รับผิดชอบที่ทำให้ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีอันตกไป ทั้งที่ฝ่ายค้านพยายามท้วงติงแล้วว่า เป็น พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน แต่ประธานสภา ก็ไม่ยอมฟัง ประธานฯจึงควรลาออกเพื่อความสง่างาม
ด้านนายชัย ได้กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำผิดขั้นตอน แต่เป็นเพราะร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ผ่านการวินิจฉัยของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ซึ่งเป็นรองประธานสภาฯขณะนั้น ชี้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน จึงบรรจุเข้ามาในระเบียบวาระ ซึ่งตนก็ได้แสดงความรับผิดชอบไปแล้ว คือให้ส.ส.เสนอเข้ามาใหม่ และขณะนี้นายกรัฐมนตรี ก็ให้การรับรองร่าง พ.ร.บ. ที่เสนอเข้ามาใหม่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิพาดพิงว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่ร่าง พ.ร.บ.นี้เกี่ยวข้องกับการเงินหรือไม่ แต่อยู่ที่นายชัย เคยพูดชัดเจนแล้วว่า ถ้านายกฯไม่ยอมเซ็นรับรอง พร้อมจะลาออกเท่านั้น และยืนยันว่าประธานสภาฯ ทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 143 ที่ไม่ส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาวินิจฉัยก่อน แต่กลับมาใช้ดุลยพินิจตัดสินเอาเอง จนทำให้กฎหมายดังกล่าวมีปัญหาในทางกฎหมาย
แต่นายชัย ได้แย้งว่าสภาฯ อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ดังนั้นสภาฯ จะแก้กฎหมายอย่างไรก็ได้
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ประชุมใช้เวลาถกเถียงในเรื่องดังกล่าวนานกว่า 4 ชั่วโมง นายชัย ได้ตัดบท ขอให้ที่ประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ที่ส.ส.เสนอเข้ามาใหม่ 5 ฉบับขึ้นมาพิจารณาโดยขอให้ยกเว้นการใช้ข้อบังคับการประชุมข้อที่ 56 ให้สามารถนำ ร่าง พ.ร.บ. ที่เสนอเข้ามาใหม่และมีหลักการเดียวกับร่างที่ตกไปแล้วขึ้นมาพิจารณาได้ แต่ก็ถูกส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ท้วงติงว่าจะทำให้เกิดปัญหาตามมา เนื่องจากไม่ทราบสถานภาพของร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุเดิม 5ฉบับ ที่สภาฯรับหลักการไปแล้ว ว่าจะไปอยู่ตรงจุดใด จึงควรที่จะรอให้มีการตีความสถานภาพของ ร่าง พ.ร.บ.เก่าให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงค่อยนำร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอใหม่ขึ้นมาพิจารณาภายหลัง
หลังจากที่ถกเถียงกันอย่างหนักหน่วง ในที่สุด นายชัย ได้ขอให้ผู้ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุใหม่ทั้ง 5 ฉบับ ขอถอนร่างทั้งหมดอกไป ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติให้ความเห็นชอบ ให้ผู้เสนอถอนร่าง ด้วยคะแนนเสียง 311 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 7 เพื่อให้คณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งไว้ในการประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมาให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. ผู้สูงอายุฉบับเก่าทั้ง 5 ฉบับ ขณะเดียวกัน จะเรียกประชุมประธานคณะกรรมาธิการสามัญทุกคณะ เพื่อพิจารณาถึงอนาคต ร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว ต่อไป
