อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยประมาณ 65% เป็นการผลิตเพื่อส่งออก โดยในปี 2551 ที่ผ่านมา สามารถส่งออกนำรายได้เข้าประเทศได้ถึง 1,244 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดหลัก 3 อันดับแรก คือ ญี่ปุ่น (ส่งออก 252.79 ล้านเหรียญสหรัฐ) สหรัฐอเมริกา (ส่งออก 245.25 ล้านเหรียญสหรัฐ) สหราชอาณาจักร (ส่งออก 139.56 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่ทว่าในขณะนี้ ตลาดหลักทั้ง 3 แห่ง มีอัตราการสั่งซื้อที่ลดลง ดังนั้น นอกจากผู้ประกอบการจะต้องจับกลุ่มลูกค้าหลักของตนอย่างเหนียวแน่นแล้ว ภารกิจหนึ่งที่ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ไทยจะต้องปรับตัวคือ การมองหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ นั่นคือ ออสเตรเลีย อาหรับเอมิเรตส์ อินเดีย และรัสเซีย
ข้อมูลจากแผนแม่บทยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์เพื่อการส่งออก สำหรับปี 2551-2560 ระบุว่า ประเทศอินเดีย เป็นตลาดใหม่ที่มีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะมีจำนวนประชากรมากประเทศหนึ่งถึง 1,100 ล้านคน มีอัตราการขยายตัวเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงปี 2547-2550 เฉลี่ยประมาณ 8% ในปี 2550 อัตราการขยายตัวของการนำเข้าเพิ่มขึ้นประมาณ 20% โดยเป็นการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ถึง 50% มีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างเน้นด้านโรงแรมและรีสอร์ตเพิ่มมากขึ้น
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กลยุทธ์ที่เน้นการบุกตลาดใหม่ควบคู่กับการจับตลาดเดิมอย่างเหนียวแน่นนั้นเป็นไปทิศทางเดียวกับกลยุทธ์การตลาดของงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ 2552 หรือ TIFF 2009 ซึ่งปีนี้เน้นเชิญชวนนักธุรกิจจากต่างประเทศมาร่วมงานทั้งจากประเทศตลาดเดิมและตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป อินเดีย ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย พร้อมด้วยแอฟริกา แคนาดา มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งงานนี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้จักผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ไทยและเห็นว่าผู้ประกอบการไทยนั้นมีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่งได้มีการคาดการณ์ว่างาน TIFF 2009 จะกระตุ้นอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ให้คึกคักขึ้น และเป็นงานที่สำคัญที่จะทำให้อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ของไทยไม่ซบเซาไปตามภาวะเศรษฐกิจ
งาน TIFF 2009 จะจัดขึ้นวันที่ 11-15 มีนาคมนี้ ที่อาคาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดย 3 วันแรกเป็นวันเจรจาการค้าและ 2 วันสุดท้ายเป็นวันจำหน่ายปลีก ซึ่งปีนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Imagine Green Living ที่เป็นเทรนด์ของโลกที่กำลังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม แต่ทั้งนี้คำว่า Imagine Green Living ไม่ได้หมายถึงสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว แต่จะหมายรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดยเน้น Simple เรียบง่ายแต่มีรายละเอียด, Refine สละสลวย ประณีต, Clean สะอาด และ Nature ใช้วัสดุจากธรรมชาติและใส่ใจกับสุขภาพของผู้ใช้ด้วยวัตถุดิบและระบบการผลิตที่ปลอดภัยจากสารพิษและสารตกค้างที่ส่งผลต่อสุขภาพ สอดคล้องกับเทรนด์การออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ทั่วโลก
งานนี้จะแสดงสินค้าจากผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน พม่า ลาว กัมพูชา รวมกว่า 170 บริษัท 700 คูหา ซึ่งแต่ละบริษัทจะแสดงความก้าวหน้าทางด้านการออกแบบและวัสดุใหม่ๆ ที่น่าสนใจให้ผู้ร่วมงานได้ชม และงานนี้ยังเป็นสื่อกลางพบปะระหว่างผู้ผลิต ผู้ประกอบการ นักออกแบบ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องตั้งแต่ชิ้นส่วน อุปกรณ์ เครื่องจักร วัสดุตกแต่งภายในอย่างครบวงจร เพื่อเปิดโอกาสในการเจรจาการค้า หาซัพพลายเออร์รายใหม่ และสร้างความสำเร็จธุรกิจร่วมกัน สำหรับนักออกแบบก็จะได้เปิดโลกทัศน์ใหม่เพื่อพัฒนาตนเองให้ทันกับเทรนด์ของโลก
นายราเชนทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานนี้นับเป็นงานแสดงเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดของไทย ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับคู่ค้าต่างประเทศที่จะมาชมความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์จากผู้ผลิตไทยจากทั่วประเทศ ซึ่งมีการพัฒนาทั้งด้านรูปแบบงานดีไซน์ที่ก้าวหน้า มีเอกลักษณ์ นำวัสดุหลากหลายประเภทมาสร้างสรรค์อย่างกลมกลืน
ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ Design Circle สื่อกลางที่พบปะระหว่างนักออกแบบและผู้ประกอบการในการพัฒนาธุรกิจสู่ความสำเร็จร่วมกัน, DEmark โชว์ผลงานที่ได้รับรางวัล Design Excellence Award ที่แสดงถึงผลงานที่โดดเด่นทางด้านการออกแบบในระดับชาติของไทย, โครงการเปลี่ยนขยะให้เป็นทอง แสดงผลงานเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้, โครงการ American Hardwood Design Camp โชว์ผลงานเฟอร์นิเจอร์จากฝีมือนักศึกษา 10 สถาบัน
ข้อมูลจากแผนแม่บทยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์เพื่อการส่งออก สำหรับปี 2551-2560 ระบุว่า ประเทศอินเดีย เป็นตลาดใหม่ที่มีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะมีจำนวนประชากรมากประเทศหนึ่งถึง 1,100 ล้านคน มีอัตราการขยายตัวเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงปี 2547-2550 เฉลี่ยประมาณ 8% ในปี 2550 อัตราการขยายตัวของการนำเข้าเพิ่มขึ้นประมาณ 20% โดยเป็นการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ถึง 50% มีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างเน้นด้านโรงแรมและรีสอร์ตเพิ่มมากขึ้น
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กลยุทธ์ที่เน้นการบุกตลาดใหม่ควบคู่กับการจับตลาดเดิมอย่างเหนียวแน่นนั้นเป็นไปทิศทางเดียวกับกลยุทธ์การตลาดของงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ 2552 หรือ TIFF 2009 ซึ่งปีนี้เน้นเชิญชวนนักธุรกิจจากต่างประเทศมาร่วมงานทั้งจากประเทศตลาดเดิมและตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป อินเดีย ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย พร้อมด้วยแอฟริกา แคนาดา มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งงานนี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้จักผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ไทยและเห็นว่าผู้ประกอบการไทยนั้นมีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่งได้มีการคาดการณ์ว่างาน TIFF 2009 จะกระตุ้นอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ให้คึกคักขึ้น และเป็นงานที่สำคัญที่จะทำให้อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ของไทยไม่ซบเซาไปตามภาวะเศรษฐกิจ
งาน TIFF 2009 จะจัดขึ้นวันที่ 11-15 มีนาคมนี้ ที่อาคาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดย 3 วันแรกเป็นวันเจรจาการค้าและ 2 วันสุดท้ายเป็นวันจำหน่ายปลีก ซึ่งปีนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Imagine Green Living ที่เป็นเทรนด์ของโลกที่กำลังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม แต่ทั้งนี้คำว่า Imagine Green Living ไม่ได้หมายถึงสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว แต่จะหมายรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดยเน้น Simple เรียบง่ายแต่มีรายละเอียด, Refine สละสลวย ประณีต, Clean สะอาด และ Nature ใช้วัสดุจากธรรมชาติและใส่ใจกับสุขภาพของผู้ใช้ด้วยวัตถุดิบและระบบการผลิตที่ปลอดภัยจากสารพิษและสารตกค้างที่ส่งผลต่อสุขภาพ สอดคล้องกับเทรนด์การออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ทั่วโลก
งานนี้จะแสดงสินค้าจากผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน พม่า ลาว กัมพูชา รวมกว่า 170 บริษัท 700 คูหา ซึ่งแต่ละบริษัทจะแสดงความก้าวหน้าทางด้านการออกแบบและวัสดุใหม่ๆ ที่น่าสนใจให้ผู้ร่วมงานได้ชม และงานนี้ยังเป็นสื่อกลางพบปะระหว่างผู้ผลิต ผู้ประกอบการ นักออกแบบ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องตั้งแต่ชิ้นส่วน อุปกรณ์ เครื่องจักร วัสดุตกแต่งภายในอย่างครบวงจร เพื่อเปิดโอกาสในการเจรจาการค้า หาซัพพลายเออร์รายใหม่ และสร้างความสำเร็จธุรกิจร่วมกัน สำหรับนักออกแบบก็จะได้เปิดโลกทัศน์ใหม่เพื่อพัฒนาตนเองให้ทันกับเทรนด์ของโลก
นายราเชนทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานนี้นับเป็นงานแสดงเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดของไทย ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับคู่ค้าต่างประเทศที่จะมาชมความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์จากผู้ผลิตไทยจากทั่วประเทศ ซึ่งมีการพัฒนาทั้งด้านรูปแบบงานดีไซน์ที่ก้าวหน้า มีเอกลักษณ์ นำวัสดุหลากหลายประเภทมาสร้างสรรค์อย่างกลมกลืน
ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ Design Circle สื่อกลางที่พบปะระหว่างนักออกแบบและผู้ประกอบการในการพัฒนาธุรกิจสู่ความสำเร็จร่วมกัน, DEmark โชว์ผลงานที่ได้รับรางวัล Design Excellence Award ที่แสดงถึงผลงานที่โดดเด่นทางด้านการออกแบบในระดับชาติของไทย, โครงการเปลี่ยนขยะให้เป็นทอง แสดงผลงานเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้, โครงการ American Hardwood Design Camp โชว์ผลงานเฟอร์นิเจอร์จากฝีมือนักศึกษา 10 สถาบัน
