ASTVผู้จัดการรายวัน – ดอกไม้สดอบแห้งสุดหรูอยู่ในโหลแก้ว คือ ผลงานสุดบรรเจิดจากฝีมือของ “วิไลรัตน์ รัตนสถาพร” มีจุดเด่นสามารถคงความสวยงามได้ยาวนาน ไม่เหี่ยวเฉาไปตามกาลเวลา ถือเป็นการเพิ่มค่าให้แก่ดอกไม้สด และยังเป็นของขวัญชิ้นพิเศษ สื่อความหมายถึงการมอบความรักอย่างนิรันดร์
เจ้าของผลงานดังกล่าว บุกเบิกหัตถกรรมนี้เป็นคนแรกในประเทศไทย ตลอดจนพัฒนาเรื่อยมา จนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นำดอกไม้ไทยหรือดอกไม้ริมทาง เช่น ดอกรัก ดอกเข็ม บานไม่รู้โรย ลีลาวดี โป๊ยเซียน ฯลฯ มาเพิ่มมูลค่าอยู่ในโหลแก้ว ไม่ยึดติดจะต้องใช้เฉพาะดอกไม้ยอดฮิตอย่างกุหลาบ หรือกล้วยไม้เท่านั้น นอกจากนั้น ประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์ให้สามารถใช้งานได้ด้วย เช่น ทำเป็นที่เสียบนามบัตร กรอบรูป ที่วางปากกา เป็นต้น
จุดเด่นของหัตถกรรมดอกไม้สดอบแห้ง คือ เก็บไว้ได้นานมากกว่า 3 ปี โดยดอกไม้ยังคงสีธรรมชาติ พร้อมคงรูปทรงเหมือนเดิมทุกประการ สามารถมอบเป็นของขวัญได้ในทุกเทศกาล กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นสุภาพสตรีวัยทำงานขึ้นไป ราคาสินค้าเริ่มต้นที่ 79 บาทถึงหลักหมื่น มีแบบให้เลือกสรรมากกว่าพันแบบ ตั้งแต่อยู่ในขวดแก้วเล็กๆ ขนาดแค่ 1 นิ้ว จนถึงอยู่ในตู้กระจกสูงมากกว่า 2 ฟุต
วิไลรัตน์ ระบุว่า ตลาดยังมีความต้องการสินค้าประเภทนี้อยู่มาก เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ผลิตอย่างจริงจังประมาณ 6 รายเท่านั้น ซึ่งทุกรายล้วนเคยเป็นลูกศิษย์ของเธอ แล้วแยกตัวออกไปสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง จึงไม่เกิดปัญหาแย่งตลาดกัน
“สาเหตุที่มีผู้ผลิตน้อยมาก เนื่องจากขั้นตอนการทำยุ่งยาก ซับซ้อน ต้องอาศัยความอดทน และใจรักจริงๆ เพราะดอกไม้ทุกชนิดเป็นสิ่งบอบบางแตกหักง่าย แม้จะมีผู้สนใจมาขอเรียนจำนวนมาก แต่น้อยรายที่จะสามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพได้จริงๆ”
สำหรับแรงบันดาลใจที่มาจับงานประเภทนี้ วิไลรัตน์ เล่าว่า เริ่มเมื่อปี 2540 หลังยุติชีวิตคู่กับสามี จำเป็นต้องหาอาชีพเพื่อเลี้ยงดูลูก 2 คนโดยลำพัง
เมื่อต้องการมีรายได้ พยายามหาสิ่งของรอบๆ ตัวมาสร้างเป็นอาชีพ จนบังเอิญพบคู่มือการใช้เตาไมโครเวฟ มีฟังก์ชั่นแนะนำการทำดอกไม้อบแห้งบรรจุไว้ เกิดความสนใจอยากสร้างหัตถกรรมเพิ่มค่าให้ดอกไม้สด แทนที่จะปล่อยให้เหี่ยวเฉาไปอย่างรวดเร็ว
“ในเวลานั้น ต่างประเทศมีสินค้าประเภทนี้จำหน่ายแล้ว แต่ยังไม่แพร่หลายนัก ส่วนในประเทศไทยไม่มีเลย ดิฉันจึงเห็นว่า สินค้าตัวนี้ น่าสนใจ เพราะมีความแปลกใหม่ และยังเป็นการเพิ่มคุณค่าให้แก่ดอกไม้ แต่กว่าจะทำสำเร็จ ใช้เวลาลองผิดลองถูกด้วยตัวเองนานเป็นปี ใช้ทุนไปกว่าแสนบาท กว่าจะรู้เทคนิคทุกขั้นตอน ทั้งอุปกรณ์ที่ใช้และธรรมชาติของดอกไม้ ใบไม้แต่ละชนิด”
ผลแห่งความพยายามได้การตอบแทนอย่างน่าชื่นใจ แค่เปิดตัวครั้งแรกในงานแฟร์ย่านปากคลองตลาด ได้ออเดอร์หลั่งไหลเข้ามาสูงมาก ช่วยให้หัตถกรรมดอกไม้สดอบแห้งเป็นที่รู้จักในตลาดอย่างกว้างขวาง ขณะที่ชื่อเสียงของเธอเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ มักถูกเชิญให้เป็นวิทยากรสอนอาชีพจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างสม่ำเสมอ
หัตถกรรมชิ้นนี้ได้รับคัดสรรเป็นสินค้าโอทอป ระดับ 4 ดาว โดยช่องทางตลาด จะมีตัวแทน 3 ราย จากในกรุงเทพฯ พัทยา และชลบุรี รับไปจำหน่ายแก่กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว สปา โรงแรม และส่งออกต่างประเทศ รวมถึง ขายผ่านอีคอมเมิร์สที่เว็บไซต์ www.88db.com กับออกงานแสดงสินค้าโอทอปต่างๆ เป็นต้น นอกจากนั้น เจ้าของผลงานยังเปิดสอนวิธีทำแก่ผู้สนใจ คิดค่าสอนพร้อมอุปกรณ์ 2,000 บาท
สำหรับแหล่งที่มาของวัตถุดิบต่างๆ หากเป็นดอกไม้ยอดฮิตอย่างกุหลาบหรือกล้วยไม้ จะซื้อตัดดอกจากปากคลองตลาด ส่วนดอกไม้แปลกๆ หรือดอกไม้ริมทาง ที่มาจะหลายหลากไม่ว่าจะตระเวนซื้อถึงแหล่งปลูก ขอตามบ้าน รวมถึงเก็บจากข้างทาง
ทั้งนี้ อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ทำหัตถกรรมดอกไม้สดอบแห้ง ได้แก่ ซิลิก้าทราย สำหรับใช้อบดอกไม้ ซิลิก้าเจล สำหรับเก็บดอกไม้ เตาไมโครเวฟใช้อบ และบรรจุภัณฑ์
ขั้นตอนอบแห้งดอกไม้แต่ละชนิดจะใช้เทคนิคและวิธีการต่างกันไป โดยหลักการสำคัญ จะใช้เจลทั้งสองชนิด เป็นตัวดูดความชื้นออกจากดอกไม้ แล้วนำมาจัดวางใหม่ในโหลแก้วสุญญากาศ เพื่อรักษาสภาพคงทนไว้ได้นาน ซึ่งการจัดช่อในบรรจุภัณฑ์ต้องเสร็จภายใน 1 วัน ไม่เช่นนั้นรูปทรงและสีของดอกไม้จะไม่เสมอกัน ดังนั้น คนทำต้องมีความเชี่ยวชาญจริงๆ
วิไลรัตน์ ทิ้งท้ายว่า แม้ปัจจุบัน สภาพเศรษฐกิจจะชะลอตัว ในขณะที่สินค้าประเภทนี้จัดอยู่ในกลุ่มฟุ่มเฟือย แต่หากฝึกฝนฝีมือให้เชี่ยวชาญ พลิกแพลงสินค้าให้ออกมาน่าสนใจ และเหมาะกับความต้องการของลูกค้า เชื่อว่า หัตถกรรมดอกไม้สดอบแห้งยังมีโอกาสทางการตลาดอีกมาก
โทร.0-2925-2282 , 06-782-9555
เจ้าของผลงานดังกล่าว บุกเบิกหัตถกรรมนี้เป็นคนแรกในประเทศไทย ตลอดจนพัฒนาเรื่อยมา จนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นำดอกไม้ไทยหรือดอกไม้ริมทาง เช่น ดอกรัก ดอกเข็ม บานไม่รู้โรย ลีลาวดี โป๊ยเซียน ฯลฯ มาเพิ่มมูลค่าอยู่ในโหลแก้ว ไม่ยึดติดจะต้องใช้เฉพาะดอกไม้ยอดฮิตอย่างกุหลาบ หรือกล้วยไม้เท่านั้น นอกจากนั้น ประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์ให้สามารถใช้งานได้ด้วย เช่น ทำเป็นที่เสียบนามบัตร กรอบรูป ที่วางปากกา เป็นต้น
จุดเด่นของหัตถกรรมดอกไม้สดอบแห้ง คือ เก็บไว้ได้นานมากกว่า 3 ปี โดยดอกไม้ยังคงสีธรรมชาติ พร้อมคงรูปทรงเหมือนเดิมทุกประการ สามารถมอบเป็นของขวัญได้ในทุกเทศกาล กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นสุภาพสตรีวัยทำงานขึ้นไป ราคาสินค้าเริ่มต้นที่ 79 บาทถึงหลักหมื่น มีแบบให้เลือกสรรมากกว่าพันแบบ ตั้งแต่อยู่ในขวดแก้วเล็กๆ ขนาดแค่ 1 นิ้ว จนถึงอยู่ในตู้กระจกสูงมากกว่า 2 ฟุต
วิไลรัตน์ ระบุว่า ตลาดยังมีความต้องการสินค้าประเภทนี้อยู่มาก เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ผลิตอย่างจริงจังประมาณ 6 รายเท่านั้น ซึ่งทุกรายล้วนเคยเป็นลูกศิษย์ของเธอ แล้วแยกตัวออกไปสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง จึงไม่เกิดปัญหาแย่งตลาดกัน
“สาเหตุที่มีผู้ผลิตน้อยมาก เนื่องจากขั้นตอนการทำยุ่งยาก ซับซ้อน ต้องอาศัยความอดทน และใจรักจริงๆ เพราะดอกไม้ทุกชนิดเป็นสิ่งบอบบางแตกหักง่าย แม้จะมีผู้สนใจมาขอเรียนจำนวนมาก แต่น้อยรายที่จะสามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพได้จริงๆ”
สำหรับแรงบันดาลใจที่มาจับงานประเภทนี้ วิไลรัตน์ เล่าว่า เริ่มเมื่อปี 2540 หลังยุติชีวิตคู่กับสามี จำเป็นต้องหาอาชีพเพื่อเลี้ยงดูลูก 2 คนโดยลำพัง
เมื่อต้องการมีรายได้ พยายามหาสิ่งของรอบๆ ตัวมาสร้างเป็นอาชีพ จนบังเอิญพบคู่มือการใช้เตาไมโครเวฟ มีฟังก์ชั่นแนะนำการทำดอกไม้อบแห้งบรรจุไว้ เกิดความสนใจอยากสร้างหัตถกรรมเพิ่มค่าให้ดอกไม้สด แทนที่จะปล่อยให้เหี่ยวเฉาไปอย่างรวดเร็ว
“ในเวลานั้น ต่างประเทศมีสินค้าประเภทนี้จำหน่ายแล้ว แต่ยังไม่แพร่หลายนัก ส่วนในประเทศไทยไม่มีเลย ดิฉันจึงเห็นว่า สินค้าตัวนี้ น่าสนใจ เพราะมีความแปลกใหม่ และยังเป็นการเพิ่มคุณค่าให้แก่ดอกไม้ แต่กว่าจะทำสำเร็จ ใช้เวลาลองผิดลองถูกด้วยตัวเองนานเป็นปี ใช้ทุนไปกว่าแสนบาท กว่าจะรู้เทคนิคทุกขั้นตอน ทั้งอุปกรณ์ที่ใช้และธรรมชาติของดอกไม้ ใบไม้แต่ละชนิด”
ผลแห่งความพยายามได้การตอบแทนอย่างน่าชื่นใจ แค่เปิดตัวครั้งแรกในงานแฟร์ย่านปากคลองตลาด ได้ออเดอร์หลั่งไหลเข้ามาสูงมาก ช่วยให้หัตถกรรมดอกไม้สดอบแห้งเป็นที่รู้จักในตลาดอย่างกว้างขวาง ขณะที่ชื่อเสียงของเธอเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ มักถูกเชิญให้เป็นวิทยากรสอนอาชีพจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างสม่ำเสมอ
หัตถกรรมชิ้นนี้ได้รับคัดสรรเป็นสินค้าโอทอป ระดับ 4 ดาว โดยช่องทางตลาด จะมีตัวแทน 3 ราย จากในกรุงเทพฯ พัทยา และชลบุรี รับไปจำหน่ายแก่กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว สปา โรงแรม และส่งออกต่างประเทศ รวมถึง ขายผ่านอีคอมเมิร์สที่เว็บไซต์ www.88db.com กับออกงานแสดงสินค้าโอทอปต่างๆ เป็นต้น นอกจากนั้น เจ้าของผลงานยังเปิดสอนวิธีทำแก่ผู้สนใจ คิดค่าสอนพร้อมอุปกรณ์ 2,000 บาท
สำหรับแหล่งที่มาของวัตถุดิบต่างๆ หากเป็นดอกไม้ยอดฮิตอย่างกุหลาบหรือกล้วยไม้ จะซื้อตัดดอกจากปากคลองตลาด ส่วนดอกไม้แปลกๆ หรือดอกไม้ริมทาง ที่มาจะหลายหลากไม่ว่าจะตระเวนซื้อถึงแหล่งปลูก ขอตามบ้าน รวมถึงเก็บจากข้างทาง
ทั้งนี้ อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ทำหัตถกรรมดอกไม้สดอบแห้ง ได้แก่ ซิลิก้าทราย สำหรับใช้อบดอกไม้ ซิลิก้าเจล สำหรับเก็บดอกไม้ เตาไมโครเวฟใช้อบ และบรรจุภัณฑ์
ขั้นตอนอบแห้งดอกไม้แต่ละชนิดจะใช้เทคนิคและวิธีการต่างกันไป โดยหลักการสำคัญ จะใช้เจลทั้งสองชนิด เป็นตัวดูดความชื้นออกจากดอกไม้ แล้วนำมาจัดวางใหม่ในโหลแก้วสุญญากาศ เพื่อรักษาสภาพคงทนไว้ได้นาน ซึ่งการจัดช่อในบรรจุภัณฑ์ต้องเสร็จภายใน 1 วัน ไม่เช่นนั้นรูปทรงและสีของดอกไม้จะไม่เสมอกัน ดังนั้น คนทำต้องมีความเชี่ยวชาญจริงๆ
วิไลรัตน์ ทิ้งท้ายว่า แม้ปัจจุบัน สภาพเศรษฐกิจจะชะลอตัว ในขณะที่สินค้าประเภทนี้จัดอยู่ในกลุ่มฟุ่มเฟือย แต่หากฝึกฝนฝีมือให้เชี่ยวชาญ พลิกแพลงสินค้าให้ออกมาน่าสนใจ และเหมาะกับความต้องการของลูกค้า เชื่อว่า หัตถกรรมดอกไม้สดอบแห้งยังมีโอกาสทางการตลาดอีกมาก
โทร.0-2925-2282 , 06-782-9555