เดลิเมล์ – สาวผู้ดี 1 ใน 3 รับแต่งตัวยั่วยวนไปทำงานเพราะหวังได้เลื่อนขั้นหรือได้โบนัสก้อนโต ขณะที่งานวิจัยอีกชิ้นระบุเงินมีส่วนสำคัญสำหรับความสุขบนเตียงของผู้หญิง
ผู้หญิงกว่า 27% ยอมรับว่ายินดีและมีความสุขในการแต่งตัววับๆ แวมๆ ไปทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งที่สูงขึ้นหรือโบนัสพิเศษ โดย 1 ใน 20 ของสาวกลุ่มนี้แต่งตัวแนวนี้เป็นประจำ
ผลสำรวจผู้หญิงทำงาน 3,000 คนยังพบว่า 78% เชื่อว่าสไตล์การแต่งตัวมีผลต่อสภาวะในที่ทำงาน ผู้หญิงบางคนบอกว่าไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะสวมใส่เสื้อผ้าโชว์เนื้อหนังมังสาในออฟฟิศ หากนั่นหมายความถึงโอกาสที่เพิ่มขึ้นในการได้โบนัสหรือได้ไต่เต้าสู่ตำแหน่งที่ดีขึ้น
54% เชื่อว่าสไตล์การแต่งตัวช่วยให้ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น
“ผลวิจัยนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า สิ่งที่คุณสวมใส่ไปทำงานอาจมีผลต่ออัตราความสำเร็จของคุณอย่างแท้จริง ทั้งในแง่การทำงานประจำวันและกระทั่งการไต่เต้าได้เร็วยิ่งขึ้น
“นอกจากนี้ยังไม่น่าเชื่อว่า แม้แต่การทำงานที่บ้าน เสื้อผ้ายังมีอิทธิพลต่อผลงานของคุณ เพราะถ้าคุณแต่งตัวตามสบายเกินไป ก็จะทำให้เข้าสู่โหมดการทำงานยากขึ้น และมักเอ้อระเหยลอยชายง่ายขึ้นด้วย” โฆษกของ www.theragtrader.com เว็บไซต์ที่ทำการสำรวจนี้ กล่าว
ผลสำรวจยังระบุว่าผู้หญิง 2 ใน 3 รู้สึกมั่นใจขึ้นเมื่อแต่งตัวเนี้ยบ ขณะที่ 61% คิดว่าการแต่งตัวดีทำให้ได้ใจและความนับถือจากเพื่อนร่วมงานมากขึ้น
ผู้หญิงยุคนี้แข่งขันกันเรื่องแฟชั่นในที่ทำงานมากขึ้น โดย 48% ยอมรับว่ามีเรื่องแบบนี้จริง ขณะที่ผู้ชายเพียง 27% เท่านั้นที่บอกว่าแต่งตัวแข่งกับเพื่อนร่วมงาน
การตลาดและโฆษณาคือธุรกิจที่มีสงครามแฟชั่นในที่ทำงานดุเดือดที่สุด ตามมาด้วยวงการสื่อ ค้าปลีก เลขานุการ และฝ่ายขายตามลำดับ
นักวิจัยยังพบว่าผู้หญิงกว่า 1 ใน 4 เคยตกอยู่ในสถานการณ์อิลักอิเหลื่อเมื่อต้องเจอคนแต่งชุดเหมือนกันในที่ทำงาน และ 63% เคยมีประสบการณ์น่าอายเกี่ยวกับเสื้อผ้าในที่ทำงาน โดยผู้หญิง 31% เคยใส่เสื้อรัดเกินไป และผู้ชาย 19% ลืมรูดซิปกางเกง และมีผู้ตอบแบบสอบถาม 14% เคยกางเกงขาดที่ออฟฟิศ
ขณะเดียวกัน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล อังกฤษ ระบุว่า แม้เงินไม่อาจซื้อความรักได้ แต่อาจทำให้คุณภาพของเซ็กซ์ดีขึ้น
งานวิจัยชิ้นนี้พบว่า ผู้หญิงรู้สึกมีความสุขในเรื่องเพศมากขึ้นหากคู่ของตนมีฐานะดีขึ้น ซึ่งตอกย้ำว่าสำหรับผู้หญิงจำนวนมาก เงิน สถานะ และความสำเร็จยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของแรงดึงดูดทางเพศ
ความเชื่อมโยงระหว่างเงินกับเซ็กซ์ และแรงดึงดูดทางเพศของผู้ชายมีสตางค์ เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมานานตั้งแต่ช่วงต้นของยุคที่มนุษย์เราเริ่มศิวิไลซ์
บ่อยครั้งที่มีการสรุปว่า ผู้หญิงพาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนรวย คนดัง หรือศิลปินเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเอง โดยมองข้ามความสุขทางเพศ
แต่ผลศึกษาล่าสุดออกมาในทางตรงกันข้าม ดร.โทมัส พอลเล็ต และศาสตราจารย์แดเนียล เน็ตเทิลส์ จากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ใช้การศึกษาไลฟ์สไตล์ที่มีขอบเขตครอบคลุมกว้างขวางที่สุดในโลก เพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างความมั่งคั่งกับความสุขทางเพศ
การสำรวจสุขภาพและครอบครัวชาวจีนครอบคลุมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเซ็กซ์ รายได้ การศึกษา และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ของประชากร 5,000 คนในจีน โดยอิงกับการสัมภาษณ์และแบบสอบถาม
ในจำนวนนี้ประกอบด้วยผู้หญิง 1,534 คนที่มีสามีหรือคนรัก
ดร.พอลเล็ตพบว่าผู้หญิงเหล่านี้ 121 คนบอกว่าถึงจุดสุดยอดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง, 408 คนเป็น ‘บ่อยๆ’, 762 คนเป็น ‘บางครั้ง’ และ 243 คนน้อยมากหรือไม่เคยเลย
นักวิจัยพบปัจจัยหลายอย่างที่มีอิทธิพลต่อความสุขทางเพศของผู้หญิง อย่างไรก็ดี หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดคือรายได้ของคู่ครอง แม้เมื่อพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ ระดับการศึกษา ความสุข ระยะเวลาของการครองรักและสุขภาพร่วมด้วยก็ตาม
นักวิจัยกล่าวว่า การค้นพบนี้อาจอธิบายด้วยทัศนคติที่โน้มเอียงได้ว่า ผู้หญิงที่ถึงจุดสุดยอดบ่อยมีแนวโน้มประเมินรายได้ของคู่ครองสูงเกินไป หรือผู้หญิงที่มีคู่ครองที่ ‘มีอำนาจ’ พูดถึงความสุขทางเพศของตัวเองเกินจริง
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า การสัมภาษณ์นี้เกิดขึ้นในสถานที่ห่างไกลจากบ้านของกลุ่มตัวอย่าง โดยไม่มีคู่ครอง/คนรักอยู่ร่วมในการสัมภาษณ์ด้วย และกลุ่มตัวอย่างสามารถตอบคำถามโดยตรงในคอมพิวเตอร์ได้หากต้องการ
นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าผู้หญิงที่ถึงจุดสุดยอดง่ายมักเลือกคู่รวย และสมมติฐานที่สามคือ คู่ที่เป็นที่พึงใจทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดบ่อย
ความเชื่อมโยงระหว่างความสุขทางเพศกับความร่ำรวยยังพบในงานศึกษาจากเยอรมนีและอเมริกา
นักชีววิทยาวิวัฒนาการระบุว่า ทุกแง่มุมของเซ็กซ์ ตั้งแต่การเกี้ยวพาทำความรู้จักไปจนถึงคุณภาพของความสุขสุดยอด ล้วนได้รับอิทธิพลจากวิวัฒนาการนับล้านปีที่ผ่านมา
แม้หลายคนคิดว่า ผู้หญิงมีความสุขทางเพศมากขึ้นกับคู่ครองที่ร่ำรวย แต่นักชีววิทยาบางคนมองว่า สัญชาติญาณเป็นกุญแจสำคัญของวิวัฒนาการ
ผู้หญิงต้องลงทุนด้วยเวลาและความเสี่ยงส่วนตัวในการมีลูกแต่ละคน จึงจำเป็นมากที่จะต้องคัดเลือกคู่ครองที่ประสบความสำเร็จและมีฐานะดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการถ่ายทอดพันธุกรรมที่ดีให้แก่ลูก
ในทางกลับกัน ผู้ชายสามารถเป็นพ่อของลูกได้เป็นร้อยเป็นพันคน และต้องลงทุนกับลูกแต่ละคนน้อยกว่า จึงไม่จำเป็นต้องเลือกมากนักว่าคู่ของตนจะประสบความสำเร็จในสังคมมากน้อยแค่ไหน
ผลของสงครามระหว่างเพศคือ ผู้หญิงตกอยู่ใต้อิทธิพลของสถานะทางสังคม สติปัญญา ไหวพริบ และความสำเร็จของคู่ครองมากกว่าผู้ชาย และความร่ำรวยเป็นหลักฐานชัดเจนที่สุดของความสำเร็จ
ผู้หญิงกว่า 27% ยอมรับว่ายินดีและมีความสุขในการแต่งตัววับๆ แวมๆ ไปทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งที่สูงขึ้นหรือโบนัสพิเศษ โดย 1 ใน 20 ของสาวกลุ่มนี้แต่งตัวแนวนี้เป็นประจำ
ผลสำรวจผู้หญิงทำงาน 3,000 คนยังพบว่า 78% เชื่อว่าสไตล์การแต่งตัวมีผลต่อสภาวะในที่ทำงาน ผู้หญิงบางคนบอกว่าไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะสวมใส่เสื้อผ้าโชว์เนื้อหนังมังสาในออฟฟิศ หากนั่นหมายความถึงโอกาสที่เพิ่มขึ้นในการได้โบนัสหรือได้ไต่เต้าสู่ตำแหน่งที่ดีขึ้น
54% เชื่อว่าสไตล์การแต่งตัวช่วยให้ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น
“ผลวิจัยนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า สิ่งที่คุณสวมใส่ไปทำงานอาจมีผลต่ออัตราความสำเร็จของคุณอย่างแท้จริง ทั้งในแง่การทำงานประจำวันและกระทั่งการไต่เต้าได้เร็วยิ่งขึ้น
“นอกจากนี้ยังไม่น่าเชื่อว่า แม้แต่การทำงานที่บ้าน เสื้อผ้ายังมีอิทธิพลต่อผลงานของคุณ เพราะถ้าคุณแต่งตัวตามสบายเกินไป ก็จะทำให้เข้าสู่โหมดการทำงานยากขึ้น และมักเอ้อระเหยลอยชายง่ายขึ้นด้วย” โฆษกของ www.theragtrader.com เว็บไซต์ที่ทำการสำรวจนี้ กล่าว
ผลสำรวจยังระบุว่าผู้หญิง 2 ใน 3 รู้สึกมั่นใจขึ้นเมื่อแต่งตัวเนี้ยบ ขณะที่ 61% คิดว่าการแต่งตัวดีทำให้ได้ใจและความนับถือจากเพื่อนร่วมงานมากขึ้น
ผู้หญิงยุคนี้แข่งขันกันเรื่องแฟชั่นในที่ทำงานมากขึ้น โดย 48% ยอมรับว่ามีเรื่องแบบนี้จริง ขณะที่ผู้ชายเพียง 27% เท่านั้นที่บอกว่าแต่งตัวแข่งกับเพื่อนร่วมงาน
การตลาดและโฆษณาคือธุรกิจที่มีสงครามแฟชั่นในที่ทำงานดุเดือดที่สุด ตามมาด้วยวงการสื่อ ค้าปลีก เลขานุการ และฝ่ายขายตามลำดับ
นักวิจัยยังพบว่าผู้หญิงกว่า 1 ใน 4 เคยตกอยู่ในสถานการณ์อิลักอิเหลื่อเมื่อต้องเจอคนแต่งชุดเหมือนกันในที่ทำงาน และ 63% เคยมีประสบการณ์น่าอายเกี่ยวกับเสื้อผ้าในที่ทำงาน โดยผู้หญิง 31% เคยใส่เสื้อรัดเกินไป และผู้ชาย 19% ลืมรูดซิปกางเกง และมีผู้ตอบแบบสอบถาม 14% เคยกางเกงขาดที่ออฟฟิศ
ขณะเดียวกัน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล อังกฤษ ระบุว่า แม้เงินไม่อาจซื้อความรักได้ แต่อาจทำให้คุณภาพของเซ็กซ์ดีขึ้น
งานวิจัยชิ้นนี้พบว่า ผู้หญิงรู้สึกมีความสุขในเรื่องเพศมากขึ้นหากคู่ของตนมีฐานะดีขึ้น ซึ่งตอกย้ำว่าสำหรับผู้หญิงจำนวนมาก เงิน สถานะ และความสำเร็จยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของแรงดึงดูดทางเพศ
ความเชื่อมโยงระหว่างเงินกับเซ็กซ์ และแรงดึงดูดทางเพศของผู้ชายมีสตางค์ เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมานานตั้งแต่ช่วงต้นของยุคที่มนุษย์เราเริ่มศิวิไลซ์
บ่อยครั้งที่มีการสรุปว่า ผู้หญิงพาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนรวย คนดัง หรือศิลปินเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเอง โดยมองข้ามความสุขทางเพศ
แต่ผลศึกษาล่าสุดออกมาในทางตรงกันข้าม ดร.โทมัส พอลเล็ต และศาสตราจารย์แดเนียล เน็ตเทิลส์ จากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ใช้การศึกษาไลฟ์สไตล์ที่มีขอบเขตครอบคลุมกว้างขวางที่สุดในโลก เพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างความมั่งคั่งกับความสุขทางเพศ
การสำรวจสุขภาพและครอบครัวชาวจีนครอบคลุมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเซ็กซ์ รายได้ การศึกษา และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ของประชากร 5,000 คนในจีน โดยอิงกับการสัมภาษณ์และแบบสอบถาม
ในจำนวนนี้ประกอบด้วยผู้หญิง 1,534 คนที่มีสามีหรือคนรัก
ดร.พอลเล็ตพบว่าผู้หญิงเหล่านี้ 121 คนบอกว่าถึงจุดสุดยอดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง, 408 คนเป็น ‘บ่อยๆ’, 762 คนเป็น ‘บางครั้ง’ และ 243 คนน้อยมากหรือไม่เคยเลย
นักวิจัยพบปัจจัยหลายอย่างที่มีอิทธิพลต่อความสุขทางเพศของผู้หญิง อย่างไรก็ดี หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดคือรายได้ของคู่ครอง แม้เมื่อพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ ระดับการศึกษา ความสุข ระยะเวลาของการครองรักและสุขภาพร่วมด้วยก็ตาม
นักวิจัยกล่าวว่า การค้นพบนี้อาจอธิบายด้วยทัศนคติที่โน้มเอียงได้ว่า ผู้หญิงที่ถึงจุดสุดยอดบ่อยมีแนวโน้มประเมินรายได้ของคู่ครองสูงเกินไป หรือผู้หญิงที่มีคู่ครองที่ ‘มีอำนาจ’ พูดถึงความสุขทางเพศของตัวเองเกินจริง
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า การสัมภาษณ์นี้เกิดขึ้นในสถานที่ห่างไกลจากบ้านของกลุ่มตัวอย่าง โดยไม่มีคู่ครอง/คนรักอยู่ร่วมในการสัมภาษณ์ด้วย และกลุ่มตัวอย่างสามารถตอบคำถามโดยตรงในคอมพิวเตอร์ได้หากต้องการ
นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าผู้หญิงที่ถึงจุดสุดยอดง่ายมักเลือกคู่รวย และสมมติฐานที่สามคือ คู่ที่เป็นที่พึงใจทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดบ่อย
ความเชื่อมโยงระหว่างความสุขทางเพศกับความร่ำรวยยังพบในงานศึกษาจากเยอรมนีและอเมริกา
นักชีววิทยาวิวัฒนาการระบุว่า ทุกแง่มุมของเซ็กซ์ ตั้งแต่การเกี้ยวพาทำความรู้จักไปจนถึงคุณภาพของความสุขสุดยอด ล้วนได้รับอิทธิพลจากวิวัฒนาการนับล้านปีที่ผ่านมา
แม้หลายคนคิดว่า ผู้หญิงมีความสุขทางเพศมากขึ้นกับคู่ครองที่ร่ำรวย แต่นักชีววิทยาบางคนมองว่า สัญชาติญาณเป็นกุญแจสำคัญของวิวัฒนาการ
ผู้หญิงต้องลงทุนด้วยเวลาและความเสี่ยงส่วนตัวในการมีลูกแต่ละคน จึงจำเป็นมากที่จะต้องคัดเลือกคู่ครองที่ประสบความสำเร็จและมีฐานะดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการถ่ายทอดพันธุกรรมที่ดีให้แก่ลูก
ในทางกลับกัน ผู้ชายสามารถเป็นพ่อของลูกได้เป็นร้อยเป็นพันคน และต้องลงทุนกับลูกแต่ละคนน้อยกว่า จึงไม่จำเป็นต้องเลือกมากนักว่าคู่ของตนจะประสบความสำเร็จในสังคมมากน้อยแค่ไหน
ผลของสงครามระหว่างเพศคือ ผู้หญิงตกอยู่ใต้อิทธิพลของสถานะทางสังคม สติปัญญา ไหวพริบ และความสำเร็จของคู่ครองมากกว่าผู้ชาย และความร่ำรวยเป็นหลักฐานชัดเจนที่สุดของความสำเร็จ
