xs
xsm
sm
md
lg

ปอกเปลือก คนอึดตายยากสุวิทย์ คุณกิตติ เพชฌฆาตหน้าเปื้อนยิ้ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ถึงวันนี้ คงไม่มีใครกล้าประเมิน สุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แบบด้อยค่าราคาต่ำอีกต่อไป
เพราะการคัมแบ๊กกลับมานั่งเก้าอี้อีกครั้งด้วยวิธีพิเศษ จากโควตาของพรรคกิจสังคม ที่ตัวเขาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค
5 ที่นั่งส.ส.ต่างค่าย ที่เขาดึงมาด้วยอานิสงส์จาก “น้ำตาล” เข้ามารวมกันในพรรคการเมืองที่เพิ่งฟื้นฟูกู้ชื่อกลับมาใหม่ กับ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี “สุวิทย์”ในช่วงกำลัง“ตีนลอย” เป็นการ“ลงทุน”ที่สุดคุ้ม
ไม่เท่านั้น การสร้างความเซอร์ไพรส์วงการหนนี้ “สุวิทย์” ลบคำสบประมาท เช่นเดียวกับหลายต่อหลายครั้งที่ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ เขาก็เอาตัวรอดไปได้
ไม่ว่าจะเป็นช่วงหลังจากการ ถอนตัวจากการร่วม “รัฐบาลสมัคร” และลุกจากเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินอย่างเดียวดาย ยามนั้นใครๆ ก็มองว่าเขาเป็นเพียง “ตัวตลก”มุกแป้ก
“หมดแล้ว”บนเส้นทางการเมือง?
เช่นเดียวกับการถูกประเมินค่าด้อย ไร้เครดิต ภายหลังสอบตกในฐานที่มั่นของตัวเองที่จังหวัดขอนแก่น เป็นหัวหน้าพรรคนอกสภาฯที่ดูไม่มีน้ำยา แต่เขาก็กลับมาได้ทุกครั้ง
ด้วยเคล็ดวิชาที่เรียนรู้จากจอมยุทธ์ทางการเมือง มนตรี พงษ์พานิช ผู้วายชนม์เมื่อครั้งอดีต และประสบการณ์ที่บ่มเพาะ ทำให้เขาไม่เป็นรองใคร
เป็นรุ่นลายคราม แม้ว่าวัยเพิ่งแค่ 50 ปีต้นๆ
“สุวิทย์”เป็น1ใน4ของนักการเมือง ที่เมื่อ10ปีก่อน นิตยสารเอเชียวีค เคยจัดให้เป็นดาวรุ่งแห่งเอเชีย เป็น 4 จตุรเทพ ร่วมกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,จาตุรนต์ ฉายแสง และสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่คาดว่าจะได้นั่งเก้าอี้นายกฯก่อนวัย 50 ปี
โดยหนึ่งในนั้น ไปถึงจุดสูงสุด ตามการคาดการณ์ไปแล้ว แต่สำหรับ “สุวิทย์” แม้ยังไปไม่ถึงจุดฝั่งฝัน แต่ก็ถือว่าเขาเดินมาไกล เมื่อเทียบกับ อีกสองรายที่เหลือ ที่ ต้องเว้นวรรคการเมือง
“สุวิทย์” มีเวลาเหลือเฟือที่จะตะกายดาว
หากบาดแผลที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ไม่ลุกลามเป็นบาดทะยักปลิดชีพทางการเมืองเขาไปเสียก่อน!
เมื่อวิเคราะห์ตัวตนของ “สุวิทย์” ยุทธวิธี “อ่อน”เมื่อเจอ “แข็ง” และ“แรง”เมื่อได้เวลา“ออกโรง” ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัว มีความ“ยืดหยุ่นสูง” ทำให้ยืนอยู่ได้ในทุกวันนี้
ในยุครัฐบาลไทยรักไทย ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร “สุวิทย์”หยั่งรู้ พลิ้วไหวลู่ไปตามสายลมแห่งความห้าวและฮึกเหิม เล่นบท“พยัคฆ์เชื่อง” ยอมให้ทักษิณขี่โดยไม่พยศ
แต่ระหว่างซ่อนพรางลาย “สุวิทย์” แอบสะบัดคมเขี้ยวใส่สายพันธุ์เดียวกันเป็นครั้งคราว
จะด้วยเป็นจังหวะที่เข้าทางพอดิบพอดี ในยุคปลายของระบอบทักษิณ ด้วยปัญหาสุขภาพส่วนตัว หรืออาจเป็นการฉลาดเลือกที่จะถอย “สุวิทย์”ขอเว้นวรรคไม่รับตำแหน่งในยุคนี้
จำศีลในยามคลื่นลมการเมืองแปรปรวน ไม่รู้ทิศทางทำลายล้างของมหาพายุ
เพราะถอยไปก่อน ฉะนั้น เมื่อกลับมาอีกครั้ง กับพรรคเพื่อแผ่นดิน “สุวิทย์”จึงไม่ถูกขึ้นบัญชีดำ “กบฏทักษิณ” ชัดแจ้ง หนำซ้ำยังมีข่าวว่า เขาคือตัวประสานเชื่อมต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยซ้ำ
วันนี้ถึงยังดำรงคงอยู่ แต่สถานะของ “สุวิทย์” สั่นคลอน จนต้องออกแรงกับวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นก็เพราะด้วยตัวตนของ “สุวิทย์” ที่มักซ่อนเขี้ยวที่พร้อมงับเกี่ยวสร้างรอยแผลให้ฝ่ายตรงข้าม
ผลักดันตัวเองโดดเด่นได้ โดยไม่สนใคร รวมทั้งพร้อมชิ่งหนีได้ทุกเมื่อ เมื่อไร้ประโยชน์
โดยเฉพาะในยุครัฐบาลนอมินีสมัคร “สุวิทย์”เป็นนักการเมืองผู้ฝูงอีกราย ที่เจ้าของรหัส สร.1 “จมูกชมพู่”ไม่ปลื้ม แม้ว่าจะเคยร่วมงานใหญ่ ขึ้นราคาน้ำตาลทราย “เย้ยเบาหวาน”
โดยเฉพาะข้อหาในวงวอร์รูมแก๊งออฟโฟร์ ข่าวเป่าหูนายใหญ่ สงสัยว่าเขาจะเป็นรับงานนอก เป็น“ไส้ศึก”จากฝ่ายตรงข้าม
และเพิ่มน้ำหนักความเชื่อเข้าไปใหญ่ เมื่อเขารอดพ้นปมถอดถอน กรณีมติครม.เขาพระวิหาร พร้อมกับข่าวลือที่ว่าเขาถูกวางตัวเป็นนายกฯในแผนพลิกขั้ว
จึงไม่แปลกในโผการปรับครม.สมัคร ชื่อ “สุวิทย์” จะตกสำรวจ ถูกเขี่ยออกจากบัญชีรัฐมนตรี โดยเขาก็รู้ตัว และชิงประกาศถอนตัวไปก่อนไม่กี่ชั่วโมง นาที
ไม่เท่านั้นการ“ซ่อนดาบในรอยยิ้ม” กลบเกลื่อนความเหี้ยมด้วยเสียงหัวเราะ เริ่มถูกจับทางได้ หมู่คนการเมืองเริ่มอ่านออก ทำให้ยิ่งนานวัน “มิตร”ของสุวิทย์น้อยลงเรื่อยๆ
ขณะที่“ศัตรู” ที่จ้องเชือดคอหอยรอบทิศ
เป็นเรื่องแปลกเมื่อชื่อของ “สุวิทย์” ถูกเอ่ยขึ้นมา เจ้าพ่อปากน้ำ วัฒนา อัศวเหม เป็นต้องส่งเสียงคำรามด้วยความไม่พอใจ รอยจารึกที่ฝากไว้ โครงการ“คลองด่าน” ที่ต้องหนีคดีไปต่างแดน
กับ“เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้จัดการรัฐบาล ก็ไม่เป็นแฮปปี้นักกับสุวิทย์ ที่ไม่รู้ไปเชื่อมโยงตรงจุดไหน กับกรณีที่ดินร้อน ศรีสุบรรณฟาร์ม ที่โดนไล่บี้หนักหน่วง สมัยพลังประชาชน
กระทั่งอดีตเพื่อนในแนวร่วมในพรรคเพื่อแผ่นดิน อย่าง พินิจ จารุสมบัติ ที่ชูเชิดเขามาสวมหัวโขนผู้นำพรรค ต่างฝ่ายต่างขบเหลี่ยม เขี้ยวเจอเขี้ยวโดยเฉพาะช่วงจัดสรรโควตารัฐมนตรี
รวมทั้งการลอยแพ “สุวิทย์” ที่ประกาศถอนตัวจากรัฐบาลสมัคร “พินิจ” ที่เลือกที่จะกอดโควตาสำหรับงานขาย ตามแบบฉบับซูเปอร์เซลล์แมน คือการ “แตกหัก”สะบั้นสัมพันธ์ขั้นเด็ดขาด
แค่ที่กล่าวมา “สุวิทย์” ก็ย่อมรู้ดีว่า เขาต้องระวังตัวจากคนพันธุ์เสือฝูงใหญ่ในวงการ จ้องขย้ำ
แต่ที่เป็นศัตรูถาวร คู่ฟัดข้ามทศวรรษ ของ “สุวิทย์”ของแท้ ย่อมไม่พ้น สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่เปิดศึกช่วงชิงอำนาจกันในพรรคกิจสังคม ในปลายสมัยของมนตรี พงษ์พานิช
ในยุคนั้น “สุวิทย์”อาจกำชัยเหนืออริ เมื่อขึ้นนั่งประมุขพรรคต่อจากมนตรี และครองอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียว จนโรมรันศึกยืดเยื้อ เป็นตำนาน “เกาเหลากิจสังคม” ในรัฐบาลชวน 2
แต่สำหรับดาวรุ่งแห่งเอเชียยามนั้น เหมือนเสือติดปีก เป็นจังหวะที่จะพาตัวเองทะลุยอดหมู่ไม้ขึ้นมาเป็นใหญ่ “สุวิทย์” แกร่งและกร้าว กล้าแตกหักแม้แต่ลูกพี่เก่ามนตรี จนหมดมนต์ขลัง
ศึกกิจสังคมสงบลง ด้วยการแยกไปทางใครทางมัน โดยบังเอิญที่ แผนของก๊วนของสมศักดิ์ ในการเดินเข้าค่ายประชาธิปัตย์ ต้องพับไป เพราะมือประสาน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ต้องมีอันเป็นไปทางการเมืองเสียก่อนจากคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สิน
“สมศักดิ์”จำต้องเข้าอยู่ในบ้านเดียวกันกับคู่กรณี “สุวิทย์”อีกครั้ง ในพรรคไทยรักไทย
เป็นขุนพลเลือกตั้งของระบอบทักษิณ เป็นมือไม้ของนายตำรวจคนแรกที่ขึ้นเป็นผู้นำประเทศ แบบต่างคนต่างอยู่ในที่ทางของตัวเอง
จนมายุครัฐบาลร่างทรง ถึงสบช่องทิ่ม ตั้งแต่เฉี่ยวเกี่ยวกันเล็กๆ น้อยๆ ประเภท แย่งซีนออกจอ หรือกรณีโครงการโรงเหล็กบางสะพาน ภายใต้การดูแลของ “สุวิทย์” ในกระทรวงอุตสาหกรรม กำลังไปได้ด้วยดี ก็มีข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ของ อนงค์วรรณ เทพสุทิน เมียรัก สมศักดิ์ เจ้ากระทรวงคอยขวางอ้อยเข้าปากช้าง
ที่เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ คือการรุกในยามศัตรูเพลี่ยงพล้ำของ “สุวิทย์” ณ วันนี้ กรณีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ทันทีเมื่อมานั่งสวมทับโควตาแทนคู่แค้น
ระดับอธิบดี 3 กรม เด้งรวดเดียว โดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติฯ คงไม่ใช่แค่การจัดทัพจัดแถวธรรมดา หรือเดินตามตำรา “ตีเมืองขึ้น” เพื่อเคาะกะลาให้เสียงดังเพียงเท่านั้น
แต่คือการ“ล้างบาง”คนของสมศักดิ์ และมีร่องรอยที่ชี้ให้เห็นของความขัดแย้งที่กำลังคุกรุ่นและรอลุกลามบายปลาย ระเบิดศึกกันอีกครั้งในไม่ช้า
โดยเฉพาะ อุภัย วายุพัฒน์ จากอธิบดีต้องกระดอนไปเป็นรองปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ทั้งที่เพิ่งนั่งเก้าอี้อธิบดีมาเพียง4 เดือน รายนี้รู้กันดีว่าคือ “เด็กสมศักดิ์-อนงค์วรรณ”
และเป็นกรม หน่วยงานหลักที่ทำให้ต้องยอมสละเก้าอี้ เปลี่ยนโควตาหนีเรื่องร้อนๆ โครงการฝายแม้ว ที่มีการตั้งกรรมการสอบสวน และป.ป.ช. และสตง. กำลังตรวจสอบอยู่ในขณะนี้
ในช่วงเวลาเดียวกัน มีกระแสข่าวลอยลมว่า พรรคกิจสังคม ที่ “สุวิทย์” กลับเข้าไปอาศัยชายคาเพื่อหวนคืนสู่อำนาจกำลังมีปัญหา ทั้งเรื่องสถานะพรรค และยังไม่เคลียร์เรื่องคุณสมบัติของ5ส.ส.
ข่าวลอยมาติดเบรก ขู่เอาคืนกันทันควัน!
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลความไม่ชอบมาพากลหลายโครงการในกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติฯสมัยที่ “เจ๊เป้า”นั่งบัลลังก์อยู่ ก็ไหลทะลักล้น ชนิดที่ให้เขื่อนไหน ฝายแม้วใด ก็เอาไม่อยู่
ทั้งฝายเจ้าปัญหา ทั้งความไม่ชอบมาพากลกรณีเก็บค่าตั๋ว และการบริหารงานอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ รวมทั้งเกมรุกของรัฐมนตรีใหม่ที่ทำเอาเจ้ากระทรวงเก่าแค้น
คำสั่งชะลอโครงการทรัพยากรน้ำ จัดหาแหล่งน้ำสำหรับทำการเกษตรทั่วประเทศ สั่งดองงบ 4,000 ล้านบาท ที่อนุมัติในสมัย “อนงค์วรรณ”
การเดินทางไปแจงข้อมูลกับคณะกรรมาธิการป.ป.ช.ของสภาฯ ที่เกาะติดตรวจสอบต่อเนื่องมาจากยุครัฐบาลพลังประชาชน งานนี้ “สุวิทย์” แบไต๋แบบให้เห็นกันไปเลยว่า พร้อมที่ร่วมมือขุด สาว แฉปมฉาว ในกระทรวงฯ ยุคก่อนหน้าที่ตัวเองจะมารับตำแหน่ง
จึงน่าจับตา ศึกของคู่แค้นคู่นี้ทำท่าจะหนักหน่วงรุนแรง และไร้ปราณี ชนิดที่หากขุดรากถอนโคนฝ่ายตรงข้าม “สุวิทย์”ก็คงไม่รามือการสางแค้น
ให้เสียชื่อ“ เพชฌฆาตหน้าเปื้อนยิ้ม”!!
กำลังโหลดความคิดเห็น