xs
xsm
sm
md
lg

108-1009เรื่องเล่าอนุพันธ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สัปดาห์นี้หลายท่านเห็นหัวข้อแล้วอาจจะรู้สึกสงสัยว่า 'นี่กำลังอ่านเนื้อหาการลงทุนหรือว่า อ่านหนังสืออะไรอยู่กันแน่' นะคะ แต่ดิฉันขอยืนยันว่าไม่ต้องแปลกใจ ท่านกำลังอ่าน '108-1009 เรื่องเล่าอนุพันธ์' อยู่จริงๆ ค่ะ สำหรับสัปดาห์นี้ ดิฉันต้องการยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่นักลงทุนหลายๆ ท่านที่ได้ลงทุนในอนุพันธ์ช่วงแรกๆ คงมีอาการคล้ายๆ กัน นั่นคือ Short (ขาย) ก่อนไม่เป็น ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การติด Long Position (สถานะสัญญาซื้อล่วงหน้า) จนสุดท้าย ขาดทุน (เพราะตลาดเป็นขาลงไม่หยุดหย่อน) แล้วไม่กล้า Cut loss (ตัดขาดทุน) นั่นเอง

ช่วงปลายปีที่แล้วมีนักลงทุนโทรศัพท์มาถามดิฉันว่า 'มี Long Position ของ S50Z08 อยู่ ไม่อยากขาดทุน อยากจำกัดไว้ และต้องการถือจนครบอายุสัญญาต้องทำอย่างไร เลือก Long Call Options เพิ่มดีหรือไม่' ท่านผู้อ่านละคะคิดว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่ถูกวิธีหรือไม่คะ ไม่ต้องเขียนจดหมายมาตอบก็ได้ค่ะ ดิฉันขอเฉลยให้ทราบในวันนี้เลยนะคะ ว่าไม่ใช่วิธีที่ถูกแน่นอนค่ะ เพราะการมีสถานะซื้อในสัญญา S50Z08 ก็คือการมองตลาดในทิศทางขาขึ้น ขณะเดียวกัน การเปิดสถานะซื้อ สัญญา Call Options ก็เป็นการมองตลาดขาขึ้นด้วย ดังนั้น การลงทุนในทิศทางเดียวกันย่อมไม่ใช่การป้องกันความเสี่ยง ในทางตรงข้ามเป็นการเพิ่มความเสี่ยง ด้วยนะคะ ครั้งนั้น ดิฉันจึงได้ให้คำแนะนำไปว่า 'ถ้าต้องการเปิดสถานะ Long Options จริงๆ แนะนำให้เลือกเป็น Long Put Options แทนนะคะ' เพราะว่าการลงทุนโดยซื้อสิทธิในการขาย ในอนาคต (Long Put Options) เป็นการมองตลาดขาลง และใช้ในการป้องกันความเสี่ยงของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) ได้อีกด้วยค่ะ

นอกเหนือจากการป้องกันความเสี่ยงในตลาดอนุพันธ์ที่สามารถเลือก ทำได้จริงดังได้กล่าว ไว้ดิฉันขอยกตัวอย่างสถานการณ์ และราคาที่เกิดการจับคู่ (Matched) ในตลาดช่วงนั้น มาอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นนะคะ โดยตัวอย่างนี้ เป็นตัวอย่างที่ทำให้ นักลงทุนที่ถือสถานะสัญญาดังตัวอย่างจะ 'Always Profit' ค่ะ เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่อย่าลืมนะคะ การลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น สิ่งที่ดิฉันอธิบายอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ และอยากให้ทบทวนทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนเลือกไปปฏิบัตินะคะ เพราะทุกอย่างยังคงมีข้อจำกัดอยู่ค่ะ

สมมติให้ท่านเปิดสถานะสัญญาซื้อ S50Z08 (Long S50Z08) ที่ 310 จำนวน 1 สัญญา ในวันที่ 13 ต.ค. 2551 และเปิดสถานะ Long Put Options (Long S50Z08P350) วันที่ 14 ต.ค. 51 ราคา 28 จำนวน 2 สัญญา และราคา 31 จำนวน 1 สัญญา ต่อมาวันที่ 15 ต.ค. 51 เปิดสถานะ Long Put Options (Long S50Z08P350) ราคา 34.9 จำนวน 2 สัญญา รวมแล้วท่าน จะมีสถานะซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (S50Z08) 1 สัญญาที่ 310 และสถานะซื้อสิทธิในการขาย (S50Z08P350) ที่ราคาเฉลี่ย 31.36 จำนวน 5 สัญญา (ที่ต้องเปิดสถานะสัญญา Options จำนวน 5 สัญญาเพื่อให้ครอบคลุม ความเสี่ยงของสัญญา Futures 1 สัญญานะคะ)

ขณะนี้บางท่านอาจจะพอเห็นภาพแล้วนะคะว่า 'ทำไมถึงกำไรเสมอ' แต่ดิฉันขอขยายความ เพิ่มเติมอีกนิดนะคะ การ Long Put Options ที่ราคาใช้สิทธิที่ 350 เปรียบเสมือนท่านได้มีสิทธิที่จะขายในวันหมดอายุสัญญาที่ 350 แต่สิทธินี้ไม่ฟรีนะคะ เพราะมีค่า Premium อยู่ที่ 31.36 (ราคาเฉลี่ยต่อสัญญา) ดังนั้น เท่ากับว่าท่านสามารถขายได้ที่ 350-31.36 หรือเท่ากับ 318.64 นั่นเอง ส่วนการทำสัญญาซื้อใน Futures ของท่าน ก็คือการทำสัญญาว่าจะซื้อในวันหมดอายุที่ 310 ดังนั้น จะได้ Pay off ดังนี้

จากภาพไม่ว่าดัชนี SET50 (สินค้าอ้างอิงของสัญญา Futures และ Options) จะปิดที่ระดับเท่าไรก็ตาม ท่านก็จะได้กำไรขั้นต่ำ ที่ 8.64 เสมอ ถ้าเขียนเป็นสมการจะได้

Pay off = ขาย-ซื้อ

= (350-31.36)-310

= +8.64 จุด หรือกำไร ขั้นต่ำ 8,640 บาท

เงินที่ใช้ลงทุน = 31,360 (Premium 5 สัญญา) + 100,000 (IM เผื่อการถูก Call Margin)

= 131,360 บาท

ดังนั้น คิดเป็นผลตอบแทน (ไม่รวมค่าTransaction Cost) 6.58 % ใน 78 วัน (นับจนถึงครบกำหนดอายุสัญญา) หรือ 30.78 % ต่อปี ทั้งนี้เงินที่เผื่อในการวางหลักประกันนั้น จะทำให้ท่านไม่ถูก Call Margin ถ้า S50Z08 ไม่ลงไปต่ำกว่า 245 ซึ่งปีที่แล้ว S50Z08 ต่ำสุดที่ 254 ซึ่งเงินที่ท่านเตรียมไว้เพื่อวางหลักประกันก็ยังไม่ทำให้ท่านถูก Call Margin ค่ะ

หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการเสริมความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น ท่านสามารถลงทะเบียนอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวกับอนุพันธ์ของบมจ. หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) ได้ที่ www.poems.in.th หรือสอบถามโดยตรงกับดิฉัน (ณภัทร์ ภัทรานิตฐ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจอนุพันธ์) โดยส่งคำถามของท่าน มาที่ Futures@phillip.co.th ค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น