ASTV ผู้จัดการรายวัน - เท้าเป็นอวัยวะที่สำคัญส่วนหนึ่งของร่างกาย เนื่องจากเท้าแต่ละข้างจะมีเส้นประสาทเชื่อมโยงกับอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย และในแต่ละวันเท้าจะต้องรับบทหนัก และรับน้ำหนักและแรงกระแทกกระทั้น อย่างมากมาย การดูแลเท้าจึงเป็นเรื่องจำเป็น และรองเท้าพลังแม่เหล็ก ได้ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับการดูแลเท้า
สำหรับรองเท้าแม่เหล็กนั้น มีวางจำหน่ายในต่างประเทศแล้วในหลายประเทศ แต่ในส่วนของประเทศไทย ยังไม่เคยมีรองเท้าแม่เหล็กออกจำหน่ายแต่อย่างใด ที่ผ่านมามีคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ และซื้อกลับมาใช้บ้าง แต่ราคาสูงมาก ดังนั้น นายสมพงษ์ สาณะเสน ซึ่งได้ศึกษาเรื่องของพลังแม่เหล็กอย่างจริงจัง จากตำราทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ได้รู้จักและรู้ถึงคุณสมบัติของพลังแม่เหล็ก มากขึ้น จึงได้คิดประดิษฐ์รองเท้าแม่เหล็กนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นทางเลือกให้คนรักสุขภาพ
นายสมพงษ์ เล่าว่า ได้ศึกษาเรื่องของพลังแม่เหล็กมานานกว่า 10 ปี สาเหตุที่หันมาศึกษาเรื่องของพลังแม่เหล็กอย่างจริงจังเกิดขึ้นมาจาก ตนเองมีปัญหาเรื่องข้อเข่าเสื่อม และมีการปวดอย่างมาก และได้ทดลองใช้พลังแม่เหล็กมาช่วยรักษาอาการเจ็บปวดดังกล่าว ซึ่งก็ได้ผลดีทุกวันนี้ไม่มีการเจ็บปวดข้อเข่าแต่อย่างใด
หลังจากนั้น ได้ทดลองนำมาทำเป็นรองเท้าแม่เหล็ก สวมใส่ภายในบ้าน ซึ่งคุณสมบัติของรองเท้าแม่เหล็ก คือ เมื่อสวมรองเท้าแม่เหล็ก เท้าก็จะอยู่ในสนามพลังแม่เหล็ก จากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ พบว่า สนามพลังแม่เหล็ก จะทำให้อวัยวะที่อยู่ในสนามพลังนั้นมีเลือดมาหล่อเลี้ยงเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า โดยไม่ต้องนวด
“โดยคุณสมบัติของพลังแม่เหล็กทำให้เลือดไหลเวียนไปยังอวัยวะที่อยู่ในสนามพลังนั้น เพิ่มขึ้นได้ 300% ในเวลาอันรวดเร็ว ปรากฎการณ์นี้ได้ถูกค้นพบมานานแล้ว โดยมนุษย์รู้จักใช้แม่เหล็กมาเสริมสุขภาพให้กับร่างกายมานานมากกว่า 4,000 ปี แต่การนำมาใช้อย่างจริงจังยังไม่เกิดขึ้น ผมจึงคิดได้ประดิษฐ์รองเท้าแม่เหล็กนี้ขึ้น พร้อมกับได้จดอนุสิทธิบัตรไว้แล้ว”
สำหรับรองเท้าแม่เหล็กนี้ ก็เหมือนรองเท้าที่ใช้กันอยู่ทั่วไป สามารถใช้ได้กับรองเท้าทุกประเภท แต่มีลักษณะเฉพาะ คือ ที่พื้นรองเท้ามีแม่เหล็กจำนวนหนึ่งฝังอยู่ เพื่อทำให้เกิดสนามพลังแม่เหล็กในพื้นรองเท้า เมื่อสวม เท้าก็จะอยู่ในสนามพลังแม่เหล็ก สวมแล้วก็เดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ เท้าก็จะเคลื่อนไหวอยู่ในสนามพลังแม่เหล็ก ทำให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณเท้ามากกว่าเดิมหลายเท่า
แต่ในช่วงเริ่มต้นแนะนำว่าควรจะได้มีการสวมใส่นานเกิน 2-3 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ควรจะเป็นลักษณะของการสวมใส่ทั้งวัน เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นผลข้างเคียงอะไร แต่การสวมใส่วันละ 2-3 ชั่วโมงนั้น ได้มีการทดลองด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่เห็นผลข้างเคียงแต่อย่างใด ซึ่งก็มีหนังสือ หรือตำราหลายเล่มทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เขียนถึงประโยชน์ของพลังแม่เหล็กเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งก็เป็นเครื่องยืนยันได้อีกทางหนึ่ง
นายสมพงษ์ เล่าว่า ที่ผ่านมาได้มีการผลิตให้กับคนรู้จักซื้อไปสวมใส่ แต่การผลิตจำหน่ายอย่างจริงจัง ยังไม่ได้ทำ เนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องของเงินทุน และกำลัง เพราะตนเองก็อายุมากแล้ว คงไม่มีแรงที่จะลงไปทำตรงนั้น ต้องการจะเป็นนักประดิษฐ์มากกว่า คือ คิดประดิษฐ์ และให้ผู้สนใจนำไปทำต่อเป็นการค้า ซึ่งก็อาจจะมีการแบ่งผลประโยชน์บ้าง ตามสัดส่วน
ส่วนช่องทางการขาย ควรจะใช้ช่องการขายผ่านร้านเพื่อสุขภาพ ซึ่งการขายสินค้าในลักษณะนี้ ก็คงจะต้องใช้วิธีการขายแบบให้ความรู้แก่ผู้บริโภค เพราะปัจจุบันคนไทยเองอ่านหนังสือน้อยมาก และมีผู้ที่มีความรู้เรื่องของพลังแม่เหล็กไม่มาก ถ้าจะทำการตลาดรองเท้าแม่เหล็ก แบบไม่มีการอธิบาย หรือให้ความรู้คงจะขายออกได้ยาก ดังนั้น อันดับแรก ต้องเติมความรู้เรื่องของพลังแม่เหล็กให้คนไทยได้รู้จักและเข้าใจก่อน
“ทั้งนี้ จะเห็นว่า รองเท้าแม่เหล็กมีขั้นตอนการผลิตที่ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด และที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างที่คิด อย่างรองเท้าที่ทำให้กับคนรู้จักไปนั้น ก็เพียงแค่นำพื้นรองเท้าและใส่แม่เหล็กลงไปตามร่องรองเท้า โดยรองเท้าหนึ่งข้างจะใส่แม่เหล็กประมาณ 7 ชิ้น และนำรองเท้าด้านบนปิดทับลงไป แค่นี้ ก็เป็นรองเท้าแม่เหล็ก และนำไปใช้งานได้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งใครจะลอกเลียนแบบหรือทำตาม ก็คงจะไปห้ามหรือเอาเรื่อง แต่อย่างใดไม่ได้ ก็คงต้องปล่อยให้ทำไป แต่ก็ขอให้เกียรติว่าผมเป็นคนคิดคนแรกก็พอ” นายสมพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
สนใจโทร. 08-9672-1634
สำหรับรองเท้าแม่เหล็กนั้น มีวางจำหน่ายในต่างประเทศแล้วในหลายประเทศ แต่ในส่วนของประเทศไทย ยังไม่เคยมีรองเท้าแม่เหล็กออกจำหน่ายแต่อย่างใด ที่ผ่านมามีคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ และซื้อกลับมาใช้บ้าง แต่ราคาสูงมาก ดังนั้น นายสมพงษ์ สาณะเสน ซึ่งได้ศึกษาเรื่องของพลังแม่เหล็กอย่างจริงจัง จากตำราทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ได้รู้จักและรู้ถึงคุณสมบัติของพลังแม่เหล็ก มากขึ้น จึงได้คิดประดิษฐ์รองเท้าแม่เหล็กนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นทางเลือกให้คนรักสุขภาพ
นายสมพงษ์ เล่าว่า ได้ศึกษาเรื่องของพลังแม่เหล็กมานานกว่า 10 ปี สาเหตุที่หันมาศึกษาเรื่องของพลังแม่เหล็กอย่างจริงจังเกิดขึ้นมาจาก ตนเองมีปัญหาเรื่องข้อเข่าเสื่อม และมีการปวดอย่างมาก และได้ทดลองใช้พลังแม่เหล็กมาช่วยรักษาอาการเจ็บปวดดังกล่าว ซึ่งก็ได้ผลดีทุกวันนี้ไม่มีการเจ็บปวดข้อเข่าแต่อย่างใด
หลังจากนั้น ได้ทดลองนำมาทำเป็นรองเท้าแม่เหล็ก สวมใส่ภายในบ้าน ซึ่งคุณสมบัติของรองเท้าแม่เหล็ก คือ เมื่อสวมรองเท้าแม่เหล็ก เท้าก็จะอยู่ในสนามพลังแม่เหล็ก จากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ พบว่า สนามพลังแม่เหล็ก จะทำให้อวัยวะที่อยู่ในสนามพลังนั้นมีเลือดมาหล่อเลี้ยงเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า โดยไม่ต้องนวด
“โดยคุณสมบัติของพลังแม่เหล็กทำให้เลือดไหลเวียนไปยังอวัยวะที่อยู่ในสนามพลังนั้น เพิ่มขึ้นได้ 300% ในเวลาอันรวดเร็ว ปรากฎการณ์นี้ได้ถูกค้นพบมานานแล้ว โดยมนุษย์รู้จักใช้แม่เหล็กมาเสริมสุขภาพให้กับร่างกายมานานมากกว่า 4,000 ปี แต่การนำมาใช้อย่างจริงจังยังไม่เกิดขึ้น ผมจึงคิดได้ประดิษฐ์รองเท้าแม่เหล็กนี้ขึ้น พร้อมกับได้จดอนุสิทธิบัตรไว้แล้ว”
สำหรับรองเท้าแม่เหล็กนี้ ก็เหมือนรองเท้าที่ใช้กันอยู่ทั่วไป สามารถใช้ได้กับรองเท้าทุกประเภท แต่มีลักษณะเฉพาะ คือ ที่พื้นรองเท้ามีแม่เหล็กจำนวนหนึ่งฝังอยู่ เพื่อทำให้เกิดสนามพลังแม่เหล็กในพื้นรองเท้า เมื่อสวม เท้าก็จะอยู่ในสนามพลังแม่เหล็ก สวมแล้วก็เดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ เท้าก็จะเคลื่อนไหวอยู่ในสนามพลังแม่เหล็ก ทำให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณเท้ามากกว่าเดิมหลายเท่า
แต่ในช่วงเริ่มต้นแนะนำว่าควรจะได้มีการสวมใส่นานเกิน 2-3 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ควรจะเป็นลักษณะของการสวมใส่ทั้งวัน เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นผลข้างเคียงอะไร แต่การสวมใส่วันละ 2-3 ชั่วโมงนั้น ได้มีการทดลองด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่เห็นผลข้างเคียงแต่อย่างใด ซึ่งก็มีหนังสือ หรือตำราหลายเล่มทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เขียนถึงประโยชน์ของพลังแม่เหล็กเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งก็เป็นเครื่องยืนยันได้อีกทางหนึ่ง
นายสมพงษ์ เล่าว่า ที่ผ่านมาได้มีการผลิตให้กับคนรู้จักซื้อไปสวมใส่ แต่การผลิตจำหน่ายอย่างจริงจัง ยังไม่ได้ทำ เนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องของเงินทุน และกำลัง เพราะตนเองก็อายุมากแล้ว คงไม่มีแรงที่จะลงไปทำตรงนั้น ต้องการจะเป็นนักประดิษฐ์มากกว่า คือ คิดประดิษฐ์ และให้ผู้สนใจนำไปทำต่อเป็นการค้า ซึ่งก็อาจจะมีการแบ่งผลประโยชน์บ้าง ตามสัดส่วน
ส่วนช่องทางการขาย ควรจะใช้ช่องการขายผ่านร้านเพื่อสุขภาพ ซึ่งการขายสินค้าในลักษณะนี้ ก็คงจะต้องใช้วิธีการขายแบบให้ความรู้แก่ผู้บริโภค เพราะปัจจุบันคนไทยเองอ่านหนังสือน้อยมาก และมีผู้ที่มีความรู้เรื่องของพลังแม่เหล็กไม่มาก ถ้าจะทำการตลาดรองเท้าแม่เหล็ก แบบไม่มีการอธิบาย หรือให้ความรู้คงจะขายออกได้ยาก ดังนั้น อันดับแรก ต้องเติมความรู้เรื่องของพลังแม่เหล็กให้คนไทยได้รู้จักและเข้าใจก่อน
“ทั้งนี้ จะเห็นว่า รองเท้าแม่เหล็กมีขั้นตอนการผลิตที่ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด และที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างที่คิด อย่างรองเท้าที่ทำให้กับคนรู้จักไปนั้น ก็เพียงแค่นำพื้นรองเท้าและใส่แม่เหล็กลงไปตามร่องรองเท้า โดยรองเท้าหนึ่งข้างจะใส่แม่เหล็กประมาณ 7 ชิ้น และนำรองเท้าด้านบนปิดทับลงไป แค่นี้ ก็เป็นรองเท้าแม่เหล็ก และนำไปใช้งานได้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งใครจะลอกเลียนแบบหรือทำตาม ก็คงจะไปห้ามหรือเอาเรื่อง แต่อย่างใดไม่ได้ ก็คงต้องปล่อยให้ทำไป แต่ก็ขอให้เกียรติว่าผมเป็นคนคิดคนแรกก็พอ” นายสมพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
สนใจโทร. 08-9672-1634