ASTVผู้จัดการรายวัน - เลขาฯ ทบ.เตรียมเรียก “หมวดเจี๊ยบ” แจงร่วมจัดรายการสถานีโทรทัศน์ดีทีวีวันอังคารนี้ ด้านโฆษกกองทัพบก เผย “หมวดเจี๊ยบ” ทำผิดระเบียบ กห.ไปแถลงข่าวจัดรายการทีวีโดยไม่ได้รับอนุญาต แถมยังมีเรื่องหนี้ไปสัมภาษณ์ “แม้ว” โดยไม่แจ้งผู้บังคับบัญชาที่ผลสอบยังไม่ออกมา ขณะที่ “อภิสิทธิ์” ระบุต้องดูกฎกองทัพกำลังพลสามารถร่วมจัดรายการดีทีวีได้หรือไม่ เย้ยดีทีวีประกาศตั้งรัฐบาลใหม่แค่การโปรโมต ส่วน “สาทิตย์” เตรียมศึกษาข้อกม. การประกาศเป็นศัตรูรัฐบาลขัด รัฐธรรมนูญหรือไม่
พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบก เปิดเผยว่า เตรียมเรียก ร.ท.(หญิง) สุนิสา เลิศภควัต หรือ “หมวดเจี๊ยบ” นายทหารในสังกัดเลขานุการกองทัพบก มาสอบถามในวันอังคารที่ 20 ม.ค.นี้ กรณีไปร่วมจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์ ดี สเตชั่น หรือ ดีทีวี ขณะเดียวกันจะมีการสอบถามไปทางกรมกำลังพลทหารบก ว่าตามระเบียบแล้ว สามารถทำได้หรือไม่ หลังจากนั้นจะชี้แจงต่อสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้สั่งกำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นเรื่องเล็ก
ส่วนกรณีที่หมวดเจี๊ยบได้ยื่นใบลาออกตั้งแต่กรณีเขียนหนังสือเรื่อง “ทักษิณ Where are you?” แต่ทางกองทัพยังไม่ได้อนุมัตินั้น เลขานุการกองทัพบก ยืนยันว่า กองทัพไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่ผลการสอบสวนทางวินัยหมวดเจี๊ยบยังไม่แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ เมื่อวันเปิดตัวสถานีโทรทัศน์ DTV ร.ท.หญิงสุณิสา ได้ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวที่ถามว่ายังรับราชการทหารอยู่หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ได้ลาออกจากการเป็นทหารแล้ว ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวว่า ยังรับราชการทหารอยู่ และการมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัววันนี้นั้นก็ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาแล้วด้วย
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 3 ประเด็น คือ 1.ผลสอบทาวินัย ร.ท.หญิง สุณิสา กรณีการลาราชการเพื่อเดินทางไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเขียนหนังสือ “ทักษิณ Where are you” ซึ่งกองทัพบกตั้งกรรมการสอบเพราะอาจมีพฤติกรรมผิดระเบียบของกองทัพ ซึ่งผลสอบของคณะกรรมการเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างกรมกำลังทหารบกนำเรื่องเสนอ พล.อ.อนุพงษ์ พิจารณาเกี่ยวกับการลงทัณฑ์ แต่รายละเอียดของผลสอบนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนที่ล่าช้านั้น เพราะมีหลายปัจจัยประกอบการพิจารณา ซึ่งต้องใช้เวลานาน แต่ขณะนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ประเด็นที่ 2 คือ การแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาของ ร.ท.หญิง สุณิสา ที่จะไปจัดรายการโทรทัศน์นั้น ร.ท.หญิง สุณิสา โทรศัพท์แจ้งต่อ พล.ต.วีรัณ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาว่าจะขอจัดรายการทีวี โดยไม่แจ้งว่าจัดที่ไหนและรายการประเภทใด ทำให้ พล.ต.วีรัณ ตอบกลับว่าขอให้เข้ามาคุยกันก่อน แต่ ร.ท.หญิง สุณิสา ก็ไปร่วมแถลงข่าวเป็นพิธีกรรายการทีวีดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ การได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาต้องเป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้น ซึ่งถือเป็นการผิดระเบียบกระทรวงกลาโหมเรื่องการประชาสัมพันธ์ ทำให้ พล.ต.วีรัณ แจ้งต่อ ร.ท.หญิง สุณิสา ให้เข้ามาชี้แจงรายละเอียดในวันที่ 20 มกราคมนี้
ประเด็นที 3 คือ การจัดรายการทีวี ซึ่งการหารายได้เสริมของกำลังพลสามารถทำได้ แต่ต้องมีการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาและต้องดูว่ารายการนั้นสามารถทำได้หรือไม่ และหากเป็นรายการเกี่ยวกับการเมืองก็เข้าข่ายผิดข้อบังคับกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2499 เรื่องการห้ามข้าราชการประจำวิจารณ์รัฐบาล ดังนั้น ต้องพิจารณาว่าการจัดรายการของร.ท.หญิงสุณิสา สามารถทำได้หรือไม่ คงต้องคุยกันในวันที่ 20 มกราคมนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนเป็นการกลั่นแกล้งทหารชั้นผู้น้อยหรือไม่ เมื่อเรียบกับกรณีของ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษา บก.ทหารสูงสุด ที่ขึ้นเวทีพันธมิตร วิจารณ์รัฐบาลสมัยนั้น แต่ไม่ถูกดำเนินโทษทางวินัย พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า กรณีของ พล.อ.ปฐมพงษ์ ทาง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สมัยนั้น ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว และ พล.อ.ปฐมพงษ์ ก็ไม่ดำเนินการเช่นนั้นอีก จนกระทั่งเกษียณอายุราชการ ดังนั้น จึงต่างจากกรณีของ ร.ท.หญิง สุณิสา อีกทั้งระเบียบของกองทัพบกเป็นเช่นนี้ ดังนั้น เจ้าตัวจึงเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังจัดรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” ถึงกรณีพล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขาธิการกองทัพบก เตรียมเรียก ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต มาชี้แจงกรณีการร่วมจัดรายการกับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ดีทีวี ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้
เมื่อถามว่าเป็นการสกัดกั้นฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าที่เรียกมามีเหตุผลอย่างไรบ้าง แต่ส่วนราชการก็มีระเบียบข้อกำหนดอยู่ ถ้าว่าไปตามกฎ แต่ถ้ากฎไม่ห้ามเขาก็ทำได้ หากขัดกฎระเบียบหรือวินัย ก็ทำไม่ได้ ไม่เกี่ยวว่าไปทำที่ไหนอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประกาศในการตั้งสถานีโทรทัศน์ดีทีวีว่าจะตั้งรัฐไทยใหม่ มันถูกกฎหมายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าเขาเชื่อในสิ่งที่เขาพูดหรือไม่ เป็นการประชาสัมพันธ์มากกว่า แต่ถ้าทำอะไรขัดความมั่นคงก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการแน่นอน
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการ ติดตามดีทีวี ที่จะเผยแพร่ผ่านเคเบิลทีวีว่า การประกาศตัวเป็นศัตรูของรัฐบาล ของสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ซึ่งจะต้องติดตามดูว่าเป็นสิทธิหรือขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และผิดกับข้อกฎหมายการจัดสรรคลื่นความถี่หรือไม่ ซึ่งข้อกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หากพบว่า ทำผิดต้องถูกดำเนินการทางอาญา
สำหรับกรณี ร.ท.(หญิง) สุนิสา เลิศภควัต หรือ “หมวดเจี๊ยบ” ที่จะเป็นผู้ ดำเนินรายการในสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว เชื่อว่ากองทัพจะตรวจสอบ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่
ส่วนการจัดรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ในสัปดาห์หน้าจะจัดที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที โดยเนื้อหาจะเป็นเรื่องของกรอบข้อตกลงอาเซียนซัมมิท
พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบก เปิดเผยว่า เตรียมเรียก ร.ท.(หญิง) สุนิสา เลิศภควัต หรือ “หมวดเจี๊ยบ” นายทหารในสังกัดเลขานุการกองทัพบก มาสอบถามในวันอังคารที่ 20 ม.ค.นี้ กรณีไปร่วมจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์ ดี สเตชั่น หรือ ดีทีวี ขณะเดียวกันจะมีการสอบถามไปทางกรมกำลังพลทหารบก ว่าตามระเบียบแล้ว สามารถทำได้หรือไม่ หลังจากนั้นจะชี้แจงต่อสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้สั่งกำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นเรื่องเล็ก
ส่วนกรณีที่หมวดเจี๊ยบได้ยื่นใบลาออกตั้งแต่กรณีเขียนหนังสือเรื่อง “ทักษิณ Where are you?” แต่ทางกองทัพยังไม่ได้อนุมัตินั้น เลขานุการกองทัพบก ยืนยันว่า กองทัพไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่ผลการสอบสวนทางวินัยหมวดเจี๊ยบยังไม่แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ เมื่อวันเปิดตัวสถานีโทรทัศน์ DTV ร.ท.หญิงสุณิสา ได้ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวที่ถามว่ายังรับราชการทหารอยู่หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ได้ลาออกจากการเป็นทหารแล้ว ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวว่า ยังรับราชการทหารอยู่ และการมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัววันนี้นั้นก็ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาแล้วด้วย
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 3 ประเด็น คือ 1.ผลสอบทาวินัย ร.ท.หญิง สุณิสา กรณีการลาราชการเพื่อเดินทางไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเขียนหนังสือ “ทักษิณ Where are you” ซึ่งกองทัพบกตั้งกรรมการสอบเพราะอาจมีพฤติกรรมผิดระเบียบของกองทัพ ซึ่งผลสอบของคณะกรรมการเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างกรมกำลังทหารบกนำเรื่องเสนอ พล.อ.อนุพงษ์ พิจารณาเกี่ยวกับการลงทัณฑ์ แต่รายละเอียดของผลสอบนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนที่ล่าช้านั้น เพราะมีหลายปัจจัยประกอบการพิจารณา ซึ่งต้องใช้เวลานาน แต่ขณะนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ประเด็นที่ 2 คือ การแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาของ ร.ท.หญิง สุณิสา ที่จะไปจัดรายการโทรทัศน์นั้น ร.ท.หญิง สุณิสา โทรศัพท์แจ้งต่อ พล.ต.วีรัณ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาว่าจะขอจัดรายการทีวี โดยไม่แจ้งว่าจัดที่ไหนและรายการประเภทใด ทำให้ พล.ต.วีรัณ ตอบกลับว่าขอให้เข้ามาคุยกันก่อน แต่ ร.ท.หญิง สุณิสา ก็ไปร่วมแถลงข่าวเป็นพิธีกรรายการทีวีดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ การได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาต้องเป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้น ซึ่งถือเป็นการผิดระเบียบกระทรวงกลาโหมเรื่องการประชาสัมพันธ์ ทำให้ พล.ต.วีรัณ แจ้งต่อ ร.ท.หญิง สุณิสา ให้เข้ามาชี้แจงรายละเอียดในวันที่ 20 มกราคมนี้
ประเด็นที 3 คือ การจัดรายการทีวี ซึ่งการหารายได้เสริมของกำลังพลสามารถทำได้ แต่ต้องมีการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาและต้องดูว่ารายการนั้นสามารถทำได้หรือไม่ และหากเป็นรายการเกี่ยวกับการเมืองก็เข้าข่ายผิดข้อบังคับกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2499 เรื่องการห้ามข้าราชการประจำวิจารณ์รัฐบาล ดังนั้น ต้องพิจารณาว่าการจัดรายการของร.ท.หญิงสุณิสา สามารถทำได้หรือไม่ คงต้องคุยกันในวันที่ 20 มกราคมนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนเป็นการกลั่นแกล้งทหารชั้นผู้น้อยหรือไม่ เมื่อเรียบกับกรณีของ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษา บก.ทหารสูงสุด ที่ขึ้นเวทีพันธมิตร วิจารณ์รัฐบาลสมัยนั้น แต่ไม่ถูกดำเนินโทษทางวินัย พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า กรณีของ พล.อ.ปฐมพงษ์ ทาง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สมัยนั้น ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว และ พล.อ.ปฐมพงษ์ ก็ไม่ดำเนินการเช่นนั้นอีก จนกระทั่งเกษียณอายุราชการ ดังนั้น จึงต่างจากกรณีของ ร.ท.หญิง สุณิสา อีกทั้งระเบียบของกองทัพบกเป็นเช่นนี้ ดังนั้น เจ้าตัวจึงเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังจัดรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” ถึงกรณีพล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขาธิการกองทัพบก เตรียมเรียก ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต มาชี้แจงกรณีการร่วมจัดรายการกับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ดีทีวี ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้
เมื่อถามว่าเป็นการสกัดกั้นฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าที่เรียกมามีเหตุผลอย่างไรบ้าง แต่ส่วนราชการก็มีระเบียบข้อกำหนดอยู่ ถ้าว่าไปตามกฎ แต่ถ้ากฎไม่ห้ามเขาก็ทำได้ หากขัดกฎระเบียบหรือวินัย ก็ทำไม่ได้ ไม่เกี่ยวว่าไปทำที่ไหนอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประกาศในการตั้งสถานีโทรทัศน์ดีทีวีว่าจะตั้งรัฐไทยใหม่ มันถูกกฎหมายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าเขาเชื่อในสิ่งที่เขาพูดหรือไม่ เป็นการประชาสัมพันธ์มากกว่า แต่ถ้าทำอะไรขัดความมั่นคงก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการแน่นอน
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการ ติดตามดีทีวี ที่จะเผยแพร่ผ่านเคเบิลทีวีว่า การประกาศตัวเป็นศัตรูของรัฐบาล ของสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ซึ่งจะต้องติดตามดูว่าเป็นสิทธิหรือขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และผิดกับข้อกฎหมายการจัดสรรคลื่นความถี่หรือไม่ ซึ่งข้อกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หากพบว่า ทำผิดต้องถูกดำเนินการทางอาญา
สำหรับกรณี ร.ท.(หญิง) สุนิสา เลิศภควัต หรือ “หมวดเจี๊ยบ” ที่จะเป็นผู้ ดำเนินรายการในสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว เชื่อว่ากองทัพจะตรวจสอบ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่
ส่วนการจัดรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ในสัปดาห์หน้าจะจัดที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที โดยเนื้อหาจะเป็นเรื่องของกรอบข้อตกลงอาเซียนซัมมิท