นักวิจัยชี้ฮอร์โมนเป็นกุญแจสำคัญของวลี ‘สวยเลือกได้’ เพราะนอกจากจะทำให้ผู้หญิงรู้สึกตัวว่าดูดีมีเสน่ห์แล้ว ยังมีส่วนทำให้สาวๆ เหล่านี้เปลี่ยนผู้ชายเป็นว่าเล่น
จากรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสารไบโอโลจี เล็ตเตอร์สของรอยัล โซไซตี้ ระบุว่าผู้หญิงที่มีระดับฮอร์โมนเอสตราไดออลสูงที่สุด มักมีเสน่ห์ดึงดูดมากกว่าผู้หญิงอื่นๆ และรู้สึกว่าการยั่วเย้าผู้ชายให้หลงใหลเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังไม่ใคร่พอใจในคนรักที่มีอยู่ จึงมีแนวโน้มสูงที่จะไม่ซื่อสัตย์
ทั้งนี้ เอสตราไดออลเป็นรูปแบบหนึ่งของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน และมีส่วนเชื่อมโยงกับการมีใบหน้าสมส่วนได้รูป หน้าอกอวบอิ่ม เอวคอดบาง สะโพกผาย
เอสโตรเจนที่มีผลต่อความสามารถในการเจริญพันธุ์ ยังมีส่วนทำให้ผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ และแสดงพฤติกรรมไขว่คว้าหาความตื่นเต้นมากขึ้น
ผู้หญิงที่มีฮอร์โมนนี้สูงมีแนวโน้มสวยงามมีเสน่ห์ และนักวิจัยพบว่าสาวสวยมักทำตามใจปรารถนาในการหว่านเสน่ห์ไปทั่ว
“สาวสวยรวยเสน่ห์อาจไม่ได้แค่มีทางเลือกมากกว่าเท่านั้น แต่ยังมีมาตรฐานสูงทำให้ไม่ค่อยพอใจอะไรง่ายๆ จึงไม่เห็นเหตุผลที่จะหยุดอยู่กับผู้ชายเพียงคนเดียว หากยังมีหนุ่มๆ ที่เข้าท่ามาให้เลือก” ดร.คริสตินา ดูแรนเต จากมหาวิทยาลัยเทกซัส สหรัฐฯ อธิบาย
ดร.ดูแรนเตทำการวิจัยเรื่องนี้โดยการวัดระดับฮอร์โมนเอสตราไดออลของอาสาสมัครหญิง 52 คน อายุระหว่าง 17-30 ปีที่ไม่ใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด รวมทั้งขอให้อาสาสมัครเหล่านี้ให้คะแนนความมีเสน่ห์ของตนเอง หลังจากนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยให้คะแนนความมีเสน่ห์ของอาสาสมัครเหล่านี้
ผลลัพธ์คือ สาวที่สวยมีเสน่ห์ที่สุดมีระดับฮอร์โมนเอสตราไดออลสูงสุดเช่นกัน
นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างที่มีแฟนอยู่ยังถูกสอบถามว่า พอใจกับแฟนคนปัจจุบันแค่ไหน และมีแนวโน้มนอกใจแฟนหรือไม่อย่างไร
การนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์พบว่า ผู้หญิงที่สวยที่สุดรู้สึกพึงพอใจในตัวแฟนน้อยที่สุด อย่างไรก็ดี สาวเหล่านี้มีแนวโน้มเลือกความสัมพันธ์ระยะยาวมากกว่าความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน
“ผู้หญิงที่มีระดับฮอร์โมนเอสตราไดออลสูง มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะทำตัวเจ้าชู้ กอดจูบ และมีความสัมพันธ์เลยเถิดกับผู้ชายอื่นนอกเหนือจากคู่รักตัวจริง
“เพราะสาวที่มีเสน่ห์จัดจ้านสามารถตอบสนองความต้องการของตนเองและใช้ประโยชน์จากเสน่ห์ที่มี หรือหมายความว่าหญิงสาวเหล่านี้เปิดกว้างเรื่องความสัมพันธ์ พร้อมโผผินสู่ความสัมพันธ์ใหม่หากพบผู้ชายที่ดูดีและเหมาะสมกับตนเองมากกว่า ซึ่งอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวเลยก็ได้
“มาริลีน มอนโรเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของผู้หญิงที่มีระดับฮอร์โมนเอสตราไดออลเกือบจะเรียกได้ว่าสูงสุด เธอมีหุ่นนาฬิกาทรายสุดคลาสสิก และรูปแบบความสัมพันธ์ของเธอคือ การมีคู่ทีละคนแต่มีหลายครั้ง
“ความสัมพันธ์ของเธอจะยืนยาวแค่ 3-4 ปี ขาดเกินกว่านี้ไม่มาก และถ้าคุณดูผู้ชายของเธอ จะเห็นว่าแต่ละคนมีสถานะที่มั่นคงขึ้น”
จากรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสารไบโอโลจี เล็ตเตอร์สของรอยัล โซไซตี้ ระบุว่าผู้หญิงที่มีระดับฮอร์โมนเอสตราไดออลสูงที่สุด มักมีเสน่ห์ดึงดูดมากกว่าผู้หญิงอื่นๆ และรู้สึกว่าการยั่วเย้าผู้ชายให้หลงใหลเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังไม่ใคร่พอใจในคนรักที่มีอยู่ จึงมีแนวโน้มสูงที่จะไม่ซื่อสัตย์
ทั้งนี้ เอสตราไดออลเป็นรูปแบบหนึ่งของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน และมีส่วนเชื่อมโยงกับการมีใบหน้าสมส่วนได้รูป หน้าอกอวบอิ่ม เอวคอดบาง สะโพกผาย
เอสโตรเจนที่มีผลต่อความสามารถในการเจริญพันธุ์ ยังมีส่วนทำให้ผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ และแสดงพฤติกรรมไขว่คว้าหาความตื่นเต้นมากขึ้น
ผู้หญิงที่มีฮอร์โมนนี้สูงมีแนวโน้มสวยงามมีเสน่ห์ และนักวิจัยพบว่าสาวสวยมักทำตามใจปรารถนาในการหว่านเสน่ห์ไปทั่ว
“สาวสวยรวยเสน่ห์อาจไม่ได้แค่มีทางเลือกมากกว่าเท่านั้น แต่ยังมีมาตรฐานสูงทำให้ไม่ค่อยพอใจอะไรง่ายๆ จึงไม่เห็นเหตุผลที่จะหยุดอยู่กับผู้ชายเพียงคนเดียว หากยังมีหนุ่มๆ ที่เข้าท่ามาให้เลือก” ดร.คริสตินา ดูแรนเต จากมหาวิทยาลัยเทกซัส สหรัฐฯ อธิบาย
ดร.ดูแรนเตทำการวิจัยเรื่องนี้โดยการวัดระดับฮอร์โมนเอสตราไดออลของอาสาสมัครหญิง 52 คน อายุระหว่าง 17-30 ปีที่ไม่ใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด รวมทั้งขอให้อาสาสมัครเหล่านี้ให้คะแนนความมีเสน่ห์ของตนเอง หลังจากนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยให้คะแนนความมีเสน่ห์ของอาสาสมัครเหล่านี้
ผลลัพธ์คือ สาวที่สวยมีเสน่ห์ที่สุดมีระดับฮอร์โมนเอสตราไดออลสูงสุดเช่นกัน
นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างที่มีแฟนอยู่ยังถูกสอบถามว่า พอใจกับแฟนคนปัจจุบันแค่ไหน และมีแนวโน้มนอกใจแฟนหรือไม่อย่างไร
การนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์พบว่า ผู้หญิงที่สวยที่สุดรู้สึกพึงพอใจในตัวแฟนน้อยที่สุด อย่างไรก็ดี สาวเหล่านี้มีแนวโน้มเลือกความสัมพันธ์ระยะยาวมากกว่าความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน
“ผู้หญิงที่มีระดับฮอร์โมนเอสตราไดออลสูง มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะทำตัวเจ้าชู้ กอดจูบ และมีความสัมพันธ์เลยเถิดกับผู้ชายอื่นนอกเหนือจากคู่รักตัวจริง
“เพราะสาวที่มีเสน่ห์จัดจ้านสามารถตอบสนองความต้องการของตนเองและใช้ประโยชน์จากเสน่ห์ที่มี หรือหมายความว่าหญิงสาวเหล่านี้เปิดกว้างเรื่องความสัมพันธ์ พร้อมโผผินสู่ความสัมพันธ์ใหม่หากพบผู้ชายที่ดูดีและเหมาะสมกับตนเองมากกว่า ซึ่งอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวเลยก็ได้
“มาริลีน มอนโรเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของผู้หญิงที่มีระดับฮอร์โมนเอสตราไดออลเกือบจะเรียกได้ว่าสูงสุด เธอมีหุ่นนาฬิกาทรายสุดคลาสสิก และรูปแบบความสัมพันธ์ของเธอคือ การมีคู่ทีละคนแต่มีหลายครั้ง
“ความสัมพันธ์ของเธอจะยืนยาวแค่ 3-4 ปี ขาดเกินกว่านี้ไม่มาก และถ้าคุณดูผู้ชายของเธอ จะเห็นว่าแต่ละคนมีสถานะที่มั่นคงขึ้น”
