เอเอฟพี/ รอยเตอร์ - ยังคงมีผู้สูญหายเกือบ 250 ชีวิต หลังเรือเฟอร์รีลำหนึ่งของอินโดนีเซีย เกิดอับปางท่ามกลางพายุหนักเมื่อวันอาทิตย์ (11) เจ้าหน้าที่หลายคนเผยวานนี้ (12) ขณะที่สภาพอากาศเลวร้าย ทำให้ต้องยุติการช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบภัย
จัสมาน ซัยฟีอี ดัจมาล รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมขนส่งของอินโดนีเซียแถลงว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า เรือโดยสารลำดังกล่าว ซึ่งใช้งานมาแล้ว 10 ปี พลิกคว่ำและจมลง หลังถูกคลื่นยักษ์ซัดถล่ม
ก่อนหน้านั้น หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาได้ออกคำเตือนสภาพอากาศเลวร้ายในบริเวณดังกล่าว แต่รัฐมนตรีคมนาคมขนส่งอ้างว่า เจ้าหน้าที่ท่าเรืออนุญาตให้นำเรือออกจากฝั่งได้ เนื่องจากขณะนั้นสภาพอากาศยังปลอดโปร่ง
"เราจะสอบสวนอย่างละเอียดว่า ทำไมกัปตันถึงตัดสินใจนำเรือออก" ดัจมาลกล่าว พร้อมเสริมว่า จนถึงขณะนี้พบผู้รอดชีวิตแล้ว 22 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายถึง 245 ราย
ทั้งนี้ ระบบการคมนาคมขนส่งอันแสนจะล้าหลังของอินโดนีเซีย เคยเกิดหายนะภัยมาแล้วหลายต่อหลายครั้งตลอดช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งทางเรือและทางอากาศ
เรือเฟอร์รีลำนี้ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 250 คน พร้อมด้วยลูกเรือ 17 ชีวิต อยู่ระหว่างการเดินทางจากท่าเรือ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองปาเร-ปาเรราว 487 กิโลเมตร บนชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะสุลาเวสี เพื่อมุ่งหน้าไปที่เมืองซามารินดา บนเกาะบอร์เนียว ขณะเผชิญมรสุมเลวร้าย
เจ้าหน้าที่บนเกาะสุลาเวสีอ้างคำพูดของผู้รอดชีวิตที่บอกว่า เรือลำดังกล่าวพลิกคว่ำและจมลงในที่สุด หลังถูกคลื่นยักษ์ความสูงกว่า 5 เมตรซัดถล่มเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ (11)
แดง กาสซิง หนึ่งในผู้รอดชีวิตเล่าว่า เขาตะเกียกตะกายปีนขึ้นไปบนแพชูชีพ หลังจากต้องเกาะกิ่งไม้ลอยคอ โดยช่วยดึงผู้ประสบภัยอีก 5 คน ขึ้นมาอย่างปลอดภัย ขณะที่ลูกชายและพ่อตาของเขายังคงสูญหาย
"ผมคว้าลูกชายขึ้นมาขึ้นมาบนหลัง และว่ายไปเกาะกิ่งไม้ แต่พลัดกับลูกชาย หลังถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัด" เขากล่าว
วานนี้ (12) รุสตัม ปากายา หัวหน้าศูนย์บริหารวิกฤตของกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า ได้รับการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย
"มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่าที่คาดไว้ เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่กำลังนอนหลับพักผ่อน" เตาฟิก บูลู ผู้อำนวยการหน่วยงานความปลอดภัยทางทะเลในเมืองปาเร-ปาเรบอก
เจ้าหน้าที่อาวุโสผู้หนึ่งบอกว่า กัปตันเรือไม่สามารถเปิดสัญญาณเตือนภัย เพื่อเตือนผู้โดยสารได้
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเมโทรทีวีรายงานว่า กัปตัน ซึ่งกระโดดลงทะเลเพื่อเอาชีวิตรอดก่อนที่เรือจะอับปาง ให้การกับตำรวจว่า ลูกเรือทำได้เพียงยิงพลุสัญญาณ 2 ลูก ก่อนที่เรือจะอับปาง
เรือเฟอร์รีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประเทศแห่งนี้ ซึ่งมีประชากรมากที่สุดอันดับ 4 ของโลก โดยมีเกาะเล็กเกาะน้อยมากกว่า 17,000 เกาะ กระจัดกระจายตลอดระยะทาง 5,000 กิโลเมตร
แต่มักจะเกิดอุบัติภัยร้ายแรง เนื่องจากการลงทุนด้านสาธารณูปโภคต่ำ และมักจะบรรทุกผู้โดยสารเกินกำหนด
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคมนาคมอินโดนีเซียยืนยันว่า เรือลำดังกล่าวไม่ได้บรรทุกผู้โดยสารเกินพิกัด
สำหรับการช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบเหตุ ทั้งทางอากาศและทางเรือเมื่อวานนี้ (12) ต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย หัวหน้าหน่วยค้นหาและกู้ภัย อีดา บากุส ซานูบารี กล่าว
ที่เมืองปาเร-ปาเร ช่างภาพของรอยเตอร์รายงานว่า เห็นเรือของกระทรวงคมนาคมขนส่ง แล่นออกไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับถุงบรรจุศพ
ส่วนที่ท่าเรือ ประชาชนราว 100 คน เบียดกันมุงดูรายชื่อของผู้โดยสารเรือลำดังกล่าว บางรายถึงกับเป็นลมหมดสติ และร่ำไห้ไม่หยุด ทางด้านเมืองซามารินดา บรรดาญาติซึ่งอยู่อาการสิ้นหวัง ต่างรอฟังข่าวอย่างวิตกกังวล
"เราได้ยินมาว่า มีผู้ได้รับการช่วยเหลือมากกว่า 2 คน เราหวังว่า หนึ่งในนั้นจะเป็นญาติของพวกเรา" อารีฟีน อับดุล ฮาฟิด ให้สัมภาษณ์เมโทรทีวี
ทั้งนี้ มีคำเตือนหลายครั้งเรื่องสภาพอากาศเลวร้ายในหลายส่วนของอินโดนีเซียเมื่อ 2 - 3 วันก่อน รัฐมนตรีคมนาคมบอกว่า มีพายุไซโคลนบริเวณดังกล่าวขณะเกิดเหตุ
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียเผชิญแรงกดดันอย่างหนักให้ปรับปรุงภาคการขนส่งภายในประเทศ หลังเกิดอุบัติเหตุรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง
เมื่อ 3 ปีก่อน เรือเฟอร์รีลำหนึ่ง ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารอย่างน้อย 600 ชีวิต ล่มลงท่ามกลางพายุ หลังออกจากเกาะบอร์เนียวเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะชวา หลายวันหลังเกิดเหตุ ก็ค่อย ๆ พบผู้รอดชีวิตราว 250 คน
เพียง 2 เดือนถัดมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 คน ขณะเกิดเพลิงไหม้บนเรือเฟอร์รีลำหนึ่ง ซึ่งมุ่งหน้าจากกรุงจาการ์ตา ไปยังเกาะสุมาตรา
นอกจากนี้ ยังเคยเกิดอุบัติเหตุครั้งแล้วครั้งเล่ากับสายการบินของอินโดนีเซียด้วย จนสหภาพยุโรป (อียู) ต้องสั่งห้ามไม่ให้สายการบินอิเหนาลงจอดบนสนามบินของตน
จัสมาน ซัยฟีอี ดัจมาล รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมขนส่งของอินโดนีเซียแถลงว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า เรือโดยสารลำดังกล่าว ซึ่งใช้งานมาแล้ว 10 ปี พลิกคว่ำและจมลง หลังถูกคลื่นยักษ์ซัดถล่ม
ก่อนหน้านั้น หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาได้ออกคำเตือนสภาพอากาศเลวร้ายในบริเวณดังกล่าว แต่รัฐมนตรีคมนาคมขนส่งอ้างว่า เจ้าหน้าที่ท่าเรืออนุญาตให้นำเรือออกจากฝั่งได้ เนื่องจากขณะนั้นสภาพอากาศยังปลอดโปร่ง
"เราจะสอบสวนอย่างละเอียดว่า ทำไมกัปตันถึงตัดสินใจนำเรือออก" ดัจมาลกล่าว พร้อมเสริมว่า จนถึงขณะนี้พบผู้รอดชีวิตแล้ว 22 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายถึง 245 ราย
ทั้งนี้ ระบบการคมนาคมขนส่งอันแสนจะล้าหลังของอินโดนีเซีย เคยเกิดหายนะภัยมาแล้วหลายต่อหลายครั้งตลอดช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งทางเรือและทางอากาศ
เรือเฟอร์รีลำนี้ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 250 คน พร้อมด้วยลูกเรือ 17 ชีวิต อยู่ระหว่างการเดินทางจากท่าเรือ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองปาเร-ปาเรราว 487 กิโลเมตร บนชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะสุลาเวสี เพื่อมุ่งหน้าไปที่เมืองซามารินดา บนเกาะบอร์เนียว ขณะเผชิญมรสุมเลวร้าย
เจ้าหน้าที่บนเกาะสุลาเวสีอ้างคำพูดของผู้รอดชีวิตที่บอกว่า เรือลำดังกล่าวพลิกคว่ำและจมลงในที่สุด หลังถูกคลื่นยักษ์ความสูงกว่า 5 เมตรซัดถล่มเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ (11)
แดง กาสซิง หนึ่งในผู้รอดชีวิตเล่าว่า เขาตะเกียกตะกายปีนขึ้นไปบนแพชูชีพ หลังจากต้องเกาะกิ่งไม้ลอยคอ โดยช่วยดึงผู้ประสบภัยอีก 5 คน ขึ้นมาอย่างปลอดภัย ขณะที่ลูกชายและพ่อตาของเขายังคงสูญหาย
"ผมคว้าลูกชายขึ้นมาขึ้นมาบนหลัง และว่ายไปเกาะกิ่งไม้ แต่พลัดกับลูกชาย หลังถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัด" เขากล่าว
วานนี้ (12) รุสตัม ปากายา หัวหน้าศูนย์บริหารวิกฤตของกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า ได้รับการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย
"มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่าที่คาดไว้ เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่กำลังนอนหลับพักผ่อน" เตาฟิก บูลู ผู้อำนวยการหน่วยงานความปลอดภัยทางทะเลในเมืองปาเร-ปาเรบอก
เจ้าหน้าที่อาวุโสผู้หนึ่งบอกว่า กัปตันเรือไม่สามารถเปิดสัญญาณเตือนภัย เพื่อเตือนผู้โดยสารได้
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเมโทรทีวีรายงานว่า กัปตัน ซึ่งกระโดดลงทะเลเพื่อเอาชีวิตรอดก่อนที่เรือจะอับปาง ให้การกับตำรวจว่า ลูกเรือทำได้เพียงยิงพลุสัญญาณ 2 ลูก ก่อนที่เรือจะอับปาง
เรือเฟอร์รีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประเทศแห่งนี้ ซึ่งมีประชากรมากที่สุดอันดับ 4 ของโลก โดยมีเกาะเล็กเกาะน้อยมากกว่า 17,000 เกาะ กระจัดกระจายตลอดระยะทาง 5,000 กิโลเมตร
แต่มักจะเกิดอุบัติภัยร้ายแรง เนื่องจากการลงทุนด้านสาธารณูปโภคต่ำ และมักจะบรรทุกผู้โดยสารเกินกำหนด
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคมนาคมอินโดนีเซียยืนยันว่า เรือลำดังกล่าวไม่ได้บรรทุกผู้โดยสารเกินพิกัด
สำหรับการช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบเหตุ ทั้งทางอากาศและทางเรือเมื่อวานนี้ (12) ต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย หัวหน้าหน่วยค้นหาและกู้ภัย อีดา บากุส ซานูบารี กล่าว
ที่เมืองปาเร-ปาเร ช่างภาพของรอยเตอร์รายงานว่า เห็นเรือของกระทรวงคมนาคมขนส่ง แล่นออกไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับถุงบรรจุศพ
ส่วนที่ท่าเรือ ประชาชนราว 100 คน เบียดกันมุงดูรายชื่อของผู้โดยสารเรือลำดังกล่าว บางรายถึงกับเป็นลมหมดสติ และร่ำไห้ไม่หยุด ทางด้านเมืองซามารินดา บรรดาญาติซึ่งอยู่อาการสิ้นหวัง ต่างรอฟังข่าวอย่างวิตกกังวล
"เราได้ยินมาว่า มีผู้ได้รับการช่วยเหลือมากกว่า 2 คน เราหวังว่า หนึ่งในนั้นจะเป็นญาติของพวกเรา" อารีฟีน อับดุล ฮาฟิด ให้สัมภาษณ์เมโทรทีวี
ทั้งนี้ มีคำเตือนหลายครั้งเรื่องสภาพอากาศเลวร้ายในหลายส่วนของอินโดนีเซียเมื่อ 2 - 3 วันก่อน รัฐมนตรีคมนาคมบอกว่า มีพายุไซโคลนบริเวณดังกล่าวขณะเกิดเหตุ
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียเผชิญแรงกดดันอย่างหนักให้ปรับปรุงภาคการขนส่งภายในประเทศ หลังเกิดอุบัติเหตุรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง
เมื่อ 3 ปีก่อน เรือเฟอร์รีลำหนึ่ง ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารอย่างน้อย 600 ชีวิต ล่มลงท่ามกลางพายุ หลังออกจากเกาะบอร์เนียวเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะชวา หลายวันหลังเกิดเหตุ ก็ค่อย ๆ พบผู้รอดชีวิตราว 250 คน
เพียง 2 เดือนถัดมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 คน ขณะเกิดเพลิงไหม้บนเรือเฟอร์รีลำหนึ่ง ซึ่งมุ่งหน้าจากกรุงจาการ์ตา ไปยังเกาะสุมาตรา
นอกจากนี้ ยังเคยเกิดอุบัติเหตุครั้งแล้วครั้งเล่ากับสายการบินของอินโดนีเซียด้วย จนสหภาพยุโรป (อียู) ต้องสั่งห้ามไม่ให้สายการบินอิเหนาลงจอดบนสนามบินของตน
