พิษเศรษฐกิจยุโรป ฉุดนักท่องเที่ยวเมืองผู้ดีไตรมาสแรกวูบเฉียด 70% ต่อเนื่องไปถึงไตรมาสสอง ททท.ลอนดอน เผย แนวทาง เร่งสร้างความเชื่อมั่น ดึงตลาดจัดงานประชุม สัมมนา และ การแข่งขันกีฬาระดับโลก ช่วยฟื้น มั่นใจ ครึ่งปีหลัง สถานการณ์จะปรับตัวดีขึ้น
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการททท.สำนักงานลอนดอน เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัจจัยหลักที่จะกระทบต่อสถานการณ์ท่องเที่ยว คือ ภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจในยุโรป โดยสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทย เป็นปัจจัยลบที่รองลงมา ดังนั้น แนวทางของสำนักงานลอนดอนจากนี้ไป คือ การเร่งสร้างความเชื่อมั่นใจให้เร็วที่สุด จากนั้นจะเร่งทำตลาดในกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ การจัดประชุมในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการจัดแข่งขันกีฬา การจัดงานในระดับที่เป็นสากล เพราะในช่วงปีที่ผ่านมาจะพบว่างานต่างๆที่เคยจัดขึ้นในประเทศไทยต่างยกเลิก เพราะปัญหาการเมืองในประเทศ ซึ่งหากรัฐบาลรวมถึงภาคเอกชนเร่งสร้างความมั่นใจ และดึงให้การจัดงานกลับมาได้ จะช่วยให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยกลับมาดูดีขึ้นได้เป็นอย่างมากในสายตาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ผลของการทำงาน จะเริ่มเห็นผลในไตรมาส 2 หรือ 3 ดังนั้น เป็นไปได้ว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากอังกฤษช่วงไตรมาส แรก ปีนี้จะลดลงจากปีก่อน 60-70% ส่วนไตรมาส สอง จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 40-50% และจะเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติในไตรมาส สาม
อย่างไรก็ตาม การประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวเฉพาะนักท่องจากอังกฤษที่จะเดินทางมาประเทศไทยในปี 52 คาดว่าจะได้เพียงรักษาให้อยู่ในระดับ 745,000 คน เท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งหากทำได้ก็ต้องถือว่าดีที่สุดแล้ว แต่ยอมรับว่าโอกาสที่เป็นไปได้อาจจะไม่สูงมาก เพราะ ไม่มีใครกล้ารับประกันว่า ในอนาคต จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น และเข้ามากระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีก
นายธเนศวร์ กล่าวว่า จากการสอบถามนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ พบว่า ยังสนใจที่จะใช้ช่วงวันหยุดไปพักผ่อนในประเทศไทย เพราะเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำ บริการได้ถูกใจ และ มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดี หาก เราได้มีการกระตุ้นตลาดเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้เร็ว ตลาดนี้ก็จะกลับมาเร็ว โดยในปี 2551 จาก ม.ค.ถึง ก.ค. มีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษมาเที่ยวประเทศไทย เกือบ 5 แสนคน เป็นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 3,800 บาท วันพักเฉลี่ยต่อคนต่อทริปประมาณ 16.7 วัน รวมแล้ว โดยในปี 2550 ตลาดนี้ สร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้ถึง 47,500 ล้านบาท
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการททท.สำนักงานลอนดอน เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัจจัยหลักที่จะกระทบต่อสถานการณ์ท่องเที่ยว คือ ภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจในยุโรป โดยสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทย เป็นปัจจัยลบที่รองลงมา ดังนั้น แนวทางของสำนักงานลอนดอนจากนี้ไป คือ การเร่งสร้างความเชื่อมั่นใจให้เร็วที่สุด จากนั้นจะเร่งทำตลาดในกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ การจัดประชุมในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการจัดแข่งขันกีฬา การจัดงานในระดับที่เป็นสากล เพราะในช่วงปีที่ผ่านมาจะพบว่างานต่างๆที่เคยจัดขึ้นในประเทศไทยต่างยกเลิก เพราะปัญหาการเมืองในประเทศ ซึ่งหากรัฐบาลรวมถึงภาคเอกชนเร่งสร้างความมั่นใจ และดึงให้การจัดงานกลับมาได้ จะช่วยให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยกลับมาดูดีขึ้นได้เป็นอย่างมากในสายตาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ผลของการทำงาน จะเริ่มเห็นผลในไตรมาส 2 หรือ 3 ดังนั้น เป็นไปได้ว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากอังกฤษช่วงไตรมาส แรก ปีนี้จะลดลงจากปีก่อน 60-70% ส่วนไตรมาส สอง จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 40-50% และจะเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติในไตรมาส สาม
อย่างไรก็ตาม การประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวเฉพาะนักท่องจากอังกฤษที่จะเดินทางมาประเทศไทยในปี 52 คาดว่าจะได้เพียงรักษาให้อยู่ในระดับ 745,000 คน เท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งหากทำได้ก็ต้องถือว่าดีที่สุดแล้ว แต่ยอมรับว่าโอกาสที่เป็นไปได้อาจจะไม่สูงมาก เพราะ ไม่มีใครกล้ารับประกันว่า ในอนาคต จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น และเข้ามากระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีก
นายธเนศวร์ กล่าวว่า จากการสอบถามนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ พบว่า ยังสนใจที่จะใช้ช่วงวันหยุดไปพักผ่อนในประเทศไทย เพราะเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำ บริการได้ถูกใจ และ มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดี หาก เราได้มีการกระตุ้นตลาดเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้เร็ว ตลาดนี้ก็จะกลับมาเร็ว โดยในปี 2551 จาก ม.ค.ถึง ก.ค. มีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษมาเที่ยวประเทศไทย เกือบ 5 แสนคน เป็นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 3,800 บาท วันพักเฉลี่ยต่อคนต่อทริปประมาณ 16.7 วัน รวมแล้ว โดยในปี 2550 ตลาดนี้ สร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้ถึง 47,500 ล้านบาท