xs
xsm
sm
md
lg

ยอดตายปีใหม่พุ่ง300ศพ เชียงรายแชมป์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ยอดคนตาย-เจ็บปีใหม่พุ่ง เผยแค่ 5 วันคนตายสะสมรวม 300 คน บาดเจ็บ 3,396 คน เกิดอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3,161 ครั้ง พบเชียงรายแชมป์คนตายสูงสุด 15 คน รองลงมาคือโคราช 13 คน ชี้ “เมาเหล้า-รถจักรยานยนต์” ต้นเหตุอุบัติเหตุสูงสุด ขณะที่ผู้โดยสารโวยปัญหาจำหน่ายตั๋วโดยสารเกินราคา มีการขายตั๋วเกินจำนวนที่นั่ง

นายอนุชา โมกขะเวส
อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงข่าวสถิติผู้เสียชีวิตช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 ว่า วันที่ 3 มกราคม 2552 ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันระวังอันตราย พบว่า เกิดอุบัติเหตุจำนวน 368 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 22 คน ผู้บาดเจ็บ 400 คน

สำหรับสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วันตั้งแต่ 30 ธันวาคม 2551 -3 มกราคม 2552 รวม 3,161 ครั้ง ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 300 คน โดยจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 15 คน รองลงมา นครราชสีมา 13 คน ผู้บาดเจ็บสะสม รวม 3,396 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุรินทร์ 101 ครั้ง จังหวัดที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตมี 9 จังหวัด จังหวัดที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ ยโสธร จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 119 คน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุราร้อยละ 33.42 รองลงมา เป็นการขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 28.53 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.22 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 25 ปี

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท.) กล่าวว่า ภาพรวมการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในแต่ละวันมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟ ประมาณ 120,000-150,000 คน เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่ามีผู้ใช้บริการ 110,000 คนต่อวัน โดยวานนี้ประชาชนเดินทางกลับมากเกินกว่า 135,000 คน และตลอดเทศกาลปีใหม่มียอดผู้ใช้บริการรถไฟรวมประมาณ 1.5 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.1 ล้านคน

ด้านนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวในการตรวจเยี่ยมการให้บริการประชาชนของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ในการรองรับประชาชนเดินทางกลับจากการฉลองเทศกาลปีใหม่ ณ อาคารขาเข้า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ หรือหมอชิต 2 ว่า กระทรวงคมนาคมมีความพอใจการให้บริการของ บขส. เนื่องจากจากการสอบถามประชาชนได้รับเสียงชื่นชม และไม่พบว่ามีผู้โดยสารตกค้างนาน 5-8 ชั่วโมงตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ขณะที่ผู้โดยสารต่างระบุว่าปีนี้การเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯสะดวกมากขึ้น อาจเพราะมีวันหยุดยาวหลายวัน ทำให้ประชาชนทยอยเดินทางกลับตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังคงมีปัญหาที่ประชาชนพบเจอระหว่างการเดินทาง

น.ส.เอื้อมพร ศรีสุธรรม เดินทางมาจาก จ.สกลนคร กล่าวว่า พบปัญหาการจำหน่ายตั๋วโดยสารเกินราคา มีการขายตั๋วเกินจำนวนที่นั่ง อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ช่วยเข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย เพราะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างมาก

ด้านนางทัตนิชา อารีสนั่น เดินทางกลับมาจาก จ.กาฬสินธุ์ พบปัญหาการจำหน่ายตั๋วเกินจำนวนที่นั่งเช่นเดียวกัน กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวพบเจอทุกปีช่วงเทศกาล อยากให้เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาจริงจัง

ส่วนพนักงานขับสามล้อรับส่งในหมอชิต ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้รายได้ลดลงจากปีที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากปีนี้ราคาน้ำมันถูกลงจำนวนมาก ทำให้ประชาชนใช้รถส่วนตัวในการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงวันหยุดยาว ประชาชนที่มาใช้รถโดยสารในหมอชิตไม่มากเหมือนปีที่ผ่านมา

**แพทย์หนักใจรักษาคนเมาประสบอุบัติเหตุ
นพ.วีรศักดิ์ เกียรติผดุงกุล
รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2551 ถึง 3 มกราคม 2552 โรงพยาบาลมหาราชฯได้รับผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรที่มีอาการสาหัสเข้ารักษา 200 ราย เกือบครึ่งเมาสุราด้วย เป็นชายมากกว่าหญิงในอัตรา 4 ต่อ 1 โดยร้อยละ 40 บาดเจ็บที่ศีรษะ สมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจนานกว่าผู้ป่วยทั่วไปถึง2-3 เท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์และไม่สวมหมวกกันน็อค หรือใส่ แต่เป็นหมวกที่มีคุณภาพต่ำ ไม่พอดีกับศีรษะ หรือไม่ได้ล็อคสายรัดคาง ทำให้หมวกหลุด ศีรษะได้รับอันตรายทั้งแตกหรือมีเลือดคั่งในสมอง ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 60 บาดเจ็บที่ทรวงอก ช่องท้อง แขนขาหัก ซึ่งในจำนวนนี้ร้อยละ 25 เคยได้รับอุบัติเหตุกระดูกหักมาแล้ว

ด้านนพ.บวร เกียรติมงคล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยศาสตร์ หัวหน้ากลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉินและนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ปัญหาของผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจรในภาพรวมทั่วประเทศขณะนี้ครึ่งต่อครึ่งเมาสุราด้วย การดูแลรักษาผู้บาดเจ็บกลุ่มนี้มีความยุ่งยาก สร้างความหนักใจให้แพทย์มาก เนื่องจากกฎหมายการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดที่ใช้ในปัจจุบันนี้ ไม่ได้ให้อำนาจกระทรวงสาธารณสุขสั่งตรวจเพื่อการรักษาได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ทางปกครองเป็นผู้สั่งให้ตรวจ ทำให้แพทย์ไม่สามารถรู้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดว่ามีเท่าใด และมีผลกับอาการของผู้ป่วยที่ปรากฏหรือไม่ ดังนั้น จึงอยากให้ฝ่ายกฎหมายช่วยผลักดันเรื่องนี้ เปิดช่องให้แพทย์สามารถตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในผู้ป่วยเมาสุราเพื่อการรักษาได้
กำลังโหลดความคิดเห็น