ศูนย์ข่าวขอนแก่น-เปิดใจ “ธีระพันธ์ พลายอยู่วงษ์” ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ อ.ชุมแพ ระบุภารกิจกู้ชาติ ประกอบอาชีพอยู่บ้านก็พร้อมเผยตลอดระยะ 193 วันชุมนุม กลุ่มพ่อค้าพันธมิตรฯชุมแพ ร่วมเป็นกลไกอธิบายข่าวข้อเท็จจริงการเมือง เล็งเป้าหมายกลุ่มลูกค้าได้รู้และเข้าใจข้อมูลอีกด้านที่สื่อโทรทัศน์ทั่วไปไม่กล้านำเสนอ ยกเหตุการณ์รัฐบาลสมัครยกเขาพระวิหารให้เขมร/ข่าวทำร้ายพันธมิตรอุดรฯ สร้างแนวร่วมพันธมิตรฯเพิ่ม ชี้กู้ชาติไม่กระทบการค้า แต่เป็นหน้าที่ต้องปกป้องสถาบันหลักให้ดำรงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน
บทบาทการต่อสู้ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสร้างปัญญา สร้างการเมืองภาคประชาชนให้เข้มแข็ง เพื่อก้าวสู่การเมืองใหม่ ตามเจตนารมณ์ ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ การเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เวทีหน้าทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น เพราะยังมีพันธมิตรฯทั้งประเทศอีกหลายๆคน ที่ไม่สามารถเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯส่วนใหญ่ได้ ด้วยข้อจำกัดของการประกอบอาชีพ และเหตุผลอื่น
ธีระพันธ์ พลายอยู่วงษ์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ว่า บทบาทการต่อสู้ปกป้องสถาบันหลักและสร้างการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ ชุมแพ จุดหลักนั้นจะร่วมขับเคลื่อน เข้าไปชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่ 25 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นมา และเข้าไปร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง จนถึงภารกิจสุดท้ายคือ การชุมนุมที่หน้าสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ จนได้รับชัยชนะในที่สุด
บางส่วนที่ไม่ได้ร่วมชุมนุม จะใช้เวทีคู่ขนาน ถ่ายทอดสด ASTV การชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในภารกิจสำคัญๆ เป็นเวทีให้สมาชิกพันธมิตรฯชุมแพ รับชมและมีโอกาสเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หารือในการขับเคลื่อนช่วยเหลือพันธมิตรฯในการฝ่าวิกฤตการเมืองของประเทศให้ลุล่วงไปได้
จุดที่น่าห่วง อำเภอชุมแพ เป็นพื้นที่การเมืองพรรคพลังประชาชน ทั้งการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชนค่อนข้างจำกัด ประชาชนในพื้นที่รู้ข่าวสารการเมืองจากสื่อโทรทัศน์ทั่วไป และรู้กันดีว่านำเสนอข้อมูลเฉพาะแง่ดีที่เกิดประโยชน์ต่อผู้มีอำนาจทางการเมือง ขาดการนำเสนอข้อมูลรอบด้าน จึงตกเป็นเหยื่อนักเลือกตั้ง ยึดติดกับการเมืองเก่า จนกลายเป็นปัญหา ทำให้สังคมและการเมืองไทยไม่พัฒนาไปในทิศทางที่ดี
แจงข้อเท็จจริงการเมืองกับลูกค้ารายบุคคล
ภารกิจกู้ชาติ และสร้างการเมืองใหม่ ต้องทำให้ได้ตลอดเวลา โดยช่วงเวลาส่วนใหญ่ที่หมดไปกับการประกอบอาชีพนั้น เป็นช่วงสำคัญมาก ที่จะได้ถ่ายทอดความรู้ แง่มุมการเมืองอีกด้าน ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ที่สื่อโทรทัศน์ทั่วไป ไม่กล้านำเสนอ แต่สื่อโทรทัศน์ ASTV กล้านำมาตีแผ่ ควรจะมีถ่ายทอดไปถึงประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะพันธมิตรฯที่ทำการค้า แต่ละวันนั้นมีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มาอุดหนุนซื้อสินค้าถึงร้านค้า
“บทบาทสร้างความรู้ความเข้าใจการเมืองที่ถูกต้อง ต้องทำพร้อมไปกับการประกอบอาชีพ โดยส่วนตัวประกอบอาชีพเปิดร้านขายยา ทุกวันจะเปิดช่อง ASTV ไว้ทั้งวัน ลูกค้าที่มาซื้อยาในร้าน จะเห็นข่าวและภาพการถ่ายทอดข้อมูลการชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นโอกาสดีที่จะได้อธิบายและถ่ายทอดข้อมูลข่าวสาร ที่แท้จริงและแตกต่างจากที่ลูกค้าได้รู้และเข้าใจ รวมถึงประเด็นต่างๆที่สงสัย เช่น ชุมนุมทำไม , เรียกร้องเกินไปหรือไม่ , ทำไมจึงคัดค้านไม่ให้รัฐแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฯลฯ”ธีระพันธ์ กล่าว
ธีระพันธ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาซื้อยา มีหลากหลายทั้งใน อ.ชุมแพ และอำเภอใกล้เคียง ที่จะเข้ามาซื้อสินค้าต่างๆในอ.ชุมแพ ที่เป็นศูนย์กลางคมนาคม ลูกค้าที่เข้ามานั้น มีหลายกลุ่ม หากเป็นกลุ่มชาวบ้านทั่วไป เมื่อเห็นการถ่ายทอดชุมนุมแล้ว มักจะกล่าวโจมตีพันธมิตรฯ โดยจะปล่อยให้ลูกค้าพูดเสร็จ จึงจับประเด็นพร้อมกับใช้เวลาอธิบายถึงเหตุผลการชุมนุมพันธมิตรฯ และตอบข้อซักถามต่างๆ จนรู้และเข้าใจพันธมิตรฯในระดับหนึ่ง
แต่ละวัน คงไม่สามารถอธิบายข้อมูลการเมือง ให้ลูกค้าได้ทั้งหมด แต่จะเลือกลูกค้าที่เห็นว่า มีความสนใจกับการชุมนุมของพันธมิตรฯ หรือลูกค้าที่ไม่เห็นด้วยอย่างมากกับการชุมนุมพันธมิตรฯ โดยกลุ่มลูกค้าทั้งสองกลุ่มนี้ มักจะมีคำถามเกิดขึ้นทันทีที่เห็นการถ่ายทอด และพร้อมจะสละเวลาให้ข้อมูลตอบข้อซักถาม โดยเฉลี่ยแต่ละวัน จะสามารถให้ข้อมูลข่าวสารแก่ลูกค้าได้ไม่ต่ำกว่า 3-4 ราย
ธีระพันธ์ เล่าต่อว่า การอธิบายให้ลูกค้าได้เข้าใจข้อมูลการเมืองที่ถูกต้องและข้อเท็จจริง บางครั้งก็เป็นเหมือนดาบสองคม หากลูกค้ายอมรับและเข้าใจในประเด็นที่ถ่ายทอด ลูกค้ารายนั้นจะเข้ามาอุดหนุนใหม่ จนกลายเป็นลูกค้าประจำ และที่สำคัญได้จุดเทียนแห่งปัญญาขึ้นแล้ว แต่ในรายที่ไม่ยอมรับ แม้จะยกเหตุผลและใช้เวลามากแล้วก็ตาม ก็สุดความสามารถที่จะฉุดดึง ต้องยอมเสียลูกค้าไป
ชี้เหตุการณ์เขาพระวิหาร/ตีพันธมิตรอุดรฯ
ดึงรากหญ้าเข้าใจสร้างแนวร่วมพันธมิตรฯเพิ่ม
ตลอดระยะเวลา 193 วัน ที่พันธมิตรฯ ได้ร่วมชุมนุมอย่างสงบอย่างต่อเนื่อง มีเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญในหลายๆเรื่อง เป็นที่สนใจของประชาชนทั้งประเทศ โดยเหตุการณ์สำคัญที่สามารถสร้างความเข้าใจและสร้างแนวร่วมพันธมิตรฯในพื้นที่อ.ชุมแพ เพิ่มขึ้นได้นั้น มี 2 เหตุการณ์สำคัญคือ เหตุการณ์ที่คณะรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รับรองประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และเหตุการณ์ที่กลุ่มม็อบนายขวัญชัย ยกพวกทำร้ายพันธมิตรฯ อุดรธานี
ธีระพันธ์ ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่คณะรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่นำโดย นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปรับรองการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของรัฐบาล นายฮุนเซน ประชาชนทั่วไป ที่เข้ามาซื้อยา ที่รับชมข่าวทางฟรีทีวี รู้เพียงแค่ว่า เป็นการดำเนินการระหว่างรัฐต่อรัฐตามปกติ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ไม่รู้ข้อมูลเชิงลึกเลยว่า มีผลประโยชน์แอบแฝง ตามที่สื่อ ASTV และสื่อในเครือ พยายามนำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง
ข่าวเขาพระวิหาร ได้รับความสนใจจากลูกค้ามาก เมื่อเห็นว่าพันธมิตรฯจุดประเด็นและตีแผ่อย่างต่อเนื่อง ก็ได้เป็นแรงขับเคลื่อน ช่วยอธิบายถึงเหตุผลเบื้องลึก ในแง่ความชั่วร้ายของนักการเมืองไทย ที่ยอมขายชาตินำมรดกชิ้นสำคัญนี้และดินแดนไทยบางส่วนไปให้กัมพูชาเพื่อแลกกับผลประโยชน์ของคนไม่กี่กลุ่ม ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เมื่อรู้ข้อมูลแล้ว เข้าใจการชุมนุมเรียกร้องของพันธมิตรฯ ที่ต้องปกป้องผลประโยชน์ชาติและเข้ามาเป็นแนวร่วมเพิ่ม
ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ข่าวที่นายขวัญชัย สาราคำ นำม็อบกว่า 700 คน ไปปิดล้อมพันธมิตรฯอุดรธานี บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ โดยภาพเหตุการณ์ข่าวที่เกิดขึ้น ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พันธมิตรฯอุดรธานี มีจำนวนน้อยกว่ามาก และกลุ่มนายขวัญชัยมีอาวุธครบมือ รุกเข้าไปรุมทำร้ายอย่างเห็นได้ชัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย ซึ่งลูกค้ารับไม่ได้กับการใช้ความรุนแรง และรู้สึกสงสารพันธมิตรฯอุดรธานี
เหตุการณ์ทำร้ายพันธมิตรฯ อุดรธานี เป็นโอกาสดีที่ได้อธิบายถึงเหตุผลการชุมนุมเรียกร้องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลไปถึงเรื่องอื่น ที่ลูกค้ามีประเด็นสงสัยและต้องการคำตอบ ช่วยทำให้ลูกค้าในระดับล่างเข้าใจพันธมิตรฯ และบางส่วนเข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนต่อสู้กับรัฐบาลนอมินี ลาออกจากการบริหารประเทศ
นอกจากการอธิบายเป็นรายบุคคลแล้ว ส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจได้ คือ การผลิตสื่อทั้ง วีซีดี หรือหนังสือ แจกจ่ายให้แก่ลูกค้าด้วย โดยที่ผ่านมา จะนำวีซีดีเหตุการณ์หรือประเด็นสำคัญที่แกนนำปราศรัยบนเวที มาไรต์แจก รวมถึงวีซีดีและหนังสือตำรวจฆ่าประชาชน เป็นสื่อที่ได้รับความสนใจจากคนในพื้นที่มาก ช่วยลดภาระการทำงานอธิบายข้อมูลลงได้มาก
ธีระพันธ์ เล่าต่อว่า กิจกรรมหลังเสร็จภารกิจชุมนุมกู้ชาติแล้ว พันธมิตรฯชุมแพ ยังคงทำงานสร้างการเมืองภาคประชาชนให้เกิดความเข้มแข็งไปอย่างต่อเนื่อง โดยขยายโอกาสการรับรู้ข้อมูลจากสื่อ ASTV ให้เข้าถึงประชาชนในพื้นที่ห่างไกลของอ.ชุมแพ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น รวมถึงอ.ใกล้เคียง ด้วยการนำจานดาวเทียม ASTV ไปติดตั้งฟรีในครัวเรือนของผู้นำชุมชน
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาบริหารประเทศ ทางพันธมิตรฯชุมแพ จะให้โอกาสทำงานแก้ปัญหาประเทศไปสักระยะ หากพบว่ามีพฤติกรรมไม่โปร่งใส ทุจริตคอร์รัปชัน และพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปูทางการเข้าสู่อำนาจการเมืองของกลุ่มอำนาจเก่าแล้ว พันธมิตรฯชุมแพ ก็พร้อมทุกเมื่อที่จะกลับมาต่อสู้เรียกร้องความถูกต้องให้แก่สังคมทุกเมื่อ
“พันธมิตรฯชุมแพ ในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพการค้า ไม่คิดว่าการชุมนุมกับพันธมิตรฯ จะทำให้สูญเสียโอกาสการค้าอย่างใด แต่เป็นการเสียสละเพื่อทำหน้าที่ ร่วมกันปกป้องสถาบันและสร้างการเมืองภาคประชาชนให้เข้มแข็ง ตลอดระยะเวลา 193 วัน ได้เข้าไปร่วมชุมนุมไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง การเดินทางไปชุมนุมแต่ละครั้งต้องปิดร้าน 4-5 วัน ค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 บาท หากไม่สามารถไปได้ จะเหมารถให้การ์ดจากอ.ชุมแพไปช่วยเหลือ” ธีระพันธ์ กล่าวอย่างภาคภูมิใจ