เอเอฟพี - ปี 2008 เกิดหายนภัยหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งที่เป็นภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุจากความสะเพร่าของมนุษย์ อุบัติภัยที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้คนต้องสูญเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังสร้างความเสียหายหรือทำลายบ้านเรือนในทั่วทุกมุมโลกด้วย โดยสรุปมีหายนภัยครั้งสำคัญๆ ในรอบปีดังนี้
- พายุไซโคลนนาร์กิส ถล่มทำลายพม่าเมื่อวันที่ 2 และ 3 พฤษภาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายไป 138,000 คน อีก 2.4 ล้านคนประสบภาวะไร้ที่อยู่อาศัย และพื้นที่ปลูกข้าวสำคัญของโลกต้องพินาศไป หลังจากเกิดเหตุหลายสัปดาห์ รัฐบาลพม่าก็ยังคงดำเนินการในเรื่องความช่วยเหลือต่างๆ อย่างล่าช้า หนำซ้ำยังขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปภายในพื้นที่ประสบเหตุ จนกระทั่งบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติต้องออกโรงเดินทางไปดูสถานการณ์ด้วยตนเอง รัฐบาลทหารพม่าจึงยอมผ่อนปรนท่าทีให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าไปช่วยเหลือแก่ชาวพม่า 2.4 ล้านคนที่รอดชีวิตจากหายนภัยในครั้งนี้ได้
- แผ่นดินไหววัดขนาดความรุนแรงได้ขนาด 8 ริกเตอร์เขย่ามณฑลเสฉวนของจีนจนพังครืนเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม มีผู้เสียชีวิตไปถึง 88,000 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 375,000 คน ชาวเสฉวนจำนวน 5 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย และอีกราว 1.5 ล้านคนต้องพลัดที่อยู่ รัฐบาลจีนระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรงสูงถึง 124,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างและซ่อมแซมอาจสูงกว่า 245,000 ล้านดอลลาร์และจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีทีเดียว
- เฮอร์ริเคนรวมทั้งพายุฤดูร้อนรวม 4 ลูก คือ เฟย์ กุสตาฟ ฮันนา และไอค์ ถล่มเฮติระลอกแล้วระลอกเล่าในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 800 คน รวมทั้งประชากรในเมืองโกแนฟส์กว่าครึ่งหนึ่ง ชาวเฮติราว 1 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัยและบ้านเรือนนับแสนหลังคาเรือนพังพินาศ จึงนับเป็นการซ้ำเติมเฮติซึ่งเป็นประเทศยากจนที่สุดอยู่แล้วในแถบแคริบเบียน ให้ลำบากยากแค้นยิ่งขึ้น
- เรือข้ามฟาก "ปรินเซส ออฟ เดอะ สตาร์ส์" ของฟิลิปปินส์ถูกคลื่นขนาดยักษ์ซัดเข้าใส่ในระหว่างเกิดพายุไต้ฝุ่นเฟิงเสิน จนเรืออับปางลงกลางทะเลห่างจากเกาะซิบูยันเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน เรือดังกล่าวเดินทางออกจากกรุงมะนิลา และมุ่งหน้าไปยังเกาะเซบูทางตอนกลางของประเทศ มีผู้โดยสารบนเรือทั้งหมด 862 คน แต่พบผู้รอดชีวิตเพียง 57 คน หลายวันต่อมา ทางการฟิลิปปินส์ได้สั่งหยุดปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุหลังจากพบว่าเรือดังกล่าวบรรทุกยาฆ่าแมลงที่มีพิษรุนแรงเป็นปริมาณมหาศาลไปด้วย
- โคลนถล่มกลืนเมืองเตาจื่อซึ่งมีประชากรอยู่ราว 1,000 คน ทางตอนเหนือของมณฑลซานซีของจีนเมื่อวันที่ 8 กันยายน มีผู้เสียชีวิต 262 คน หายนภัยครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อบ่อแร่แห่งหนึ่งเกิดระเบิดจนทำให้ดินโคลนไหลท่วมเมืองดังกล่าว
- สเปนเกิดอุบัติเหตุทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 25 ปี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม โดยเครื่องบินของสายการบินสแปนแอร์ตกลงภายหลังจากที่นำเครื่องออกจากสนามบินมาดริดมุ่งหน้าไปยังเกาะคานารีได้ไม่นาน ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 172 คน รอดชีวิตเพียง 18 คน มีรายงานเปิดเผยในภายหลังว่าสาเหตุเป็นเพราะปีกเครื่องบินกางออกไม่ถูกต้องในขณะที่เครื่องทะยานขึ้น และระบบสัญญาณแจ้งเตือนนักบินก็ไม่ทำงาน
- นักเรียนและครูกว่า 90 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์โรงเรียนถล่มในเขตเพชัน-วิลล์ ซึ่งเป็นเขตยากจนในเฮติ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน และมีผู้บาดเจ็บถึงราว 150 คน และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วันก็เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีกกับโรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง และมีผู้บาดเจ็บ 9 คน
- รถไฟด่วนจากกรุงปักกิ่งพุ่งเข้าชนรถไฟอีกขบวนหนึ่งใกล้กับเมืองซีโปทางตะวันออกของประเทศจีนเมื่อวันที่ 28 เมษายน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คน และกว่า 400 คนได้รับบาดเจ็บ อุบัติเหตุทางรถไฟครั้งนี้นับว่าร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี จากการสืบสวนพบว่าขบวนรถไฟด่วนเป็นต้นเหตุ
- เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ประเทศบูร์กินาฟาโซ ทางภาคตะวันตกของแอฟริกา เกิดอุบัติเหตุรถโค้ชบรรทุกผู้โดยสารเกินพิกัดจากไอวอรีโคสต์พุ่งเข้าชนรถบรรทุกน้ำตาลจนทำให้ไฟลุกไหม้ขึ้นทันที มีผู้เสียชีวิต 69 คน โดยพวกเขาส่วนใหญ่เป็นชาวบูร์กินาฟาโซซึ่งกำลังเดินทางไปทำงานในไร่โกโก้และกาแฟในไอวอรีโคสต์
- ไฟป่าเผาผลาญอย่างรุนแรงทางตอนเหนือของลอสแองเจลิสเมื่อกลางเดือนตุลาคม กระแสลมความเร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพัดโหมไฟป่าให้ลุกลามทำลายพื้นที่จนไหม้เกรียมไปถึงกว่า 19,000 เอเคอร์ภายใน 5 วัน มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน และประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกนอกพื้นที่อันตราย ส่วนอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และหลังจากนั้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน ก็เกิดไฟป่าอีกถึง 3 พื้นที่เผาทำลายบ้านเรือนกว่า 800 หลังและผืนดินราว 42,000 เอเคอร์ในเขตลอสแองเจลิสและซานตาบาร์บารา
- พายุไซโคลนนาร์กิส ถล่มทำลายพม่าเมื่อวันที่ 2 และ 3 พฤษภาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายไป 138,000 คน อีก 2.4 ล้านคนประสบภาวะไร้ที่อยู่อาศัย และพื้นที่ปลูกข้าวสำคัญของโลกต้องพินาศไป หลังจากเกิดเหตุหลายสัปดาห์ รัฐบาลพม่าก็ยังคงดำเนินการในเรื่องความช่วยเหลือต่างๆ อย่างล่าช้า หนำซ้ำยังขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปภายในพื้นที่ประสบเหตุ จนกระทั่งบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติต้องออกโรงเดินทางไปดูสถานการณ์ด้วยตนเอง รัฐบาลทหารพม่าจึงยอมผ่อนปรนท่าทีให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าไปช่วยเหลือแก่ชาวพม่า 2.4 ล้านคนที่รอดชีวิตจากหายนภัยในครั้งนี้ได้
- แผ่นดินไหววัดขนาดความรุนแรงได้ขนาด 8 ริกเตอร์เขย่ามณฑลเสฉวนของจีนจนพังครืนเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม มีผู้เสียชีวิตไปถึง 88,000 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 375,000 คน ชาวเสฉวนจำนวน 5 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย และอีกราว 1.5 ล้านคนต้องพลัดที่อยู่ รัฐบาลจีนระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรงสูงถึง 124,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างและซ่อมแซมอาจสูงกว่า 245,000 ล้านดอลลาร์และจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีทีเดียว
- เฮอร์ริเคนรวมทั้งพายุฤดูร้อนรวม 4 ลูก คือ เฟย์ กุสตาฟ ฮันนา และไอค์ ถล่มเฮติระลอกแล้วระลอกเล่าในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 800 คน รวมทั้งประชากรในเมืองโกแนฟส์กว่าครึ่งหนึ่ง ชาวเฮติราว 1 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัยและบ้านเรือนนับแสนหลังคาเรือนพังพินาศ จึงนับเป็นการซ้ำเติมเฮติซึ่งเป็นประเทศยากจนที่สุดอยู่แล้วในแถบแคริบเบียน ให้ลำบากยากแค้นยิ่งขึ้น
- เรือข้ามฟาก "ปรินเซส ออฟ เดอะ สตาร์ส์" ของฟิลิปปินส์ถูกคลื่นขนาดยักษ์ซัดเข้าใส่ในระหว่างเกิดพายุไต้ฝุ่นเฟิงเสิน จนเรืออับปางลงกลางทะเลห่างจากเกาะซิบูยันเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน เรือดังกล่าวเดินทางออกจากกรุงมะนิลา และมุ่งหน้าไปยังเกาะเซบูทางตอนกลางของประเทศ มีผู้โดยสารบนเรือทั้งหมด 862 คน แต่พบผู้รอดชีวิตเพียง 57 คน หลายวันต่อมา ทางการฟิลิปปินส์ได้สั่งหยุดปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุหลังจากพบว่าเรือดังกล่าวบรรทุกยาฆ่าแมลงที่มีพิษรุนแรงเป็นปริมาณมหาศาลไปด้วย
- โคลนถล่มกลืนเมืองเตาจื่อซึ่งมีประชากรอยู่ราว 1,000 คน ทางตอนเหนือของมณฑลซานซีของจีนเมื่อวันที่ 8 กันยายน มีผู้เสียชีวิต 262 คน หายนภัยครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อบ่อแร่แห่งหนึ่งเกิดระเบิดจนทำให้ดินโคลนไหลท่วมเมืองดังกล่าว
- สเปนเกิดอุบัติเหตุทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 25 ปี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม โดยเครื่องบินของสายการบินสแปนแอร์ตกลงภายหลังจากที่นำเครื่องออกจากสนามบินมาดริดมุ่งหน้าไปยังเกาะคานารีได้ไม่นาน ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 172 คน รอดชีวิตเพียง 18 คน มีรายงานเปิดเผยในภายหลังว่าสาเหตุเป็นเพราะปีกเครื่องบินกางออกไม่ถูกต้องในขณะที่เครื่องทะยานขึ้น และระบบสัญญาณแจ้งเตือนนักบินก็ไม่ทำงาน
- นักเรียนและครูกว่า 90 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์โรงเรียนถล่มในเขตเพชัน-วิลล์ ซึ่งเป็นเขตยากจนในเฮติ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน และมีผู้บาดเจ็บถึงราว 150 คน และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วันก็เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีกกับโรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง และมีผู้บาดเจ็บ 9 คน
- รถไฟด่วนจากกรุงปักกิ่งพุ่งเข้าชนรถไฟอีกขบวนหนึ่งใกล้กับเมืองซีโปทางตะวันออกของประเทศจีนเมื่อวันที่ 28 เมษายน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คน และกว่า 400 คนได้รับบาดเจ็บ อุบัติเหตุทางรถไฟครั้งนี้นับว่าร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี จากการสืบสวนพบว่าขบวนรถไฟด่วนเป็นต้นเหตุ
- เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ประเทศบูร์กินาฟาโซ ทางภาคตะวันตกของแอฟริกา เกิดอุบัติเหตุรถโค้ชบรรทุกผู้โดยสารเกินพิกัดจากไอวอรีโคสต์พุ่งเข้าชนรถบรรทุกน้ำตาลจนทำให้ไฟลุกไหม้ขึ้นทันที มีผู้เสียชีวิต 69 คน โดยพวกเขาส่วนใหญ่เป็นชาวบูร์กินาฟาโซซึ่งกำลังเดินทางไปทำงานในไร่โกโก้และกาแฟในไอวอรีโคสต์
- ไฟป่าเผาผลาญอย่างรุนแรงทางตอนเหนือของลอสแองเจลิสเมื่อกลางเดือนตุลาคม กระแสลมความเร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพัดโหมไฟป่าให้ลุกลามทำลายพื้นที่จนไหม้เกรียมไปถึงกว่า 19,000 เอเคอร์ภายใน 5 วัน มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน และประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกนอกพื้นที่อันตราย ส่วนอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และหลังจากนั้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน ก็เกิดไฟป่าอีกถึง 3 พื้นที่เผาทำลายบ้านเรือนกว่า 800 หลังและผืนดินราว 42,000 เอเคอร์ในเขตลอสแองเจลิสและซานตาบาร์บารา
