นายวิทูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงว่า จากกรณีที่ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม บริเวณหน้ารัฐสภา และเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องวันที่ 29 สิงหาคม ที่มีการสลายการชุมนุม บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และทำเนียบรัฐบาล และวันที่ 2 กันยายน ซึ่งมีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ รวมทั้งหมด 612 คน เสียชีวิต 3 คน
การบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหายครม.ชุดที่แล้วได้กำหนดหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือได้แก่ กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลและไม่ได้นอนพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ได้รับเงิน2 หมื่นบาท กรณีบาดเจ็บเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล และนอนพักรักษาตัวไม่เกิน 20 วัน ได้รับเงิน 6 หมื่นบาท กรณีบาดเจ็บสาหัสเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล และนอนพักรักษาตัวเกิน 20วัน ได้รับเงิน 1 แสนบาท กรณีทุพพลภาพไม่สามารถประกอบกิจการงานประจำตามปกติ ได้รับเงิน 2 แสนบาท กรณีเสียชีวิต ได้รับเงิน 4 แสนบาท
ดังนั้น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหาย ได้ติดต่อผู้ได้รับความเสียหายมาลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือระหว่างวันที่ 3 พ.ย.-12 ธ.ค. จำนวน 139 ราย โดย กำหนดให้มารับเงิน ในวันที่ 30 ธ.ค. เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมประชาบดี 1 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งจะมีผู้มารับเงินจำนวน 98 คน เป็นเงิน 4,020,000บาท ส่วนจำนวนที่เหลือจะได้ติดตามแจ้งให้มารับมอบเงินภายในวันที่ 15 ม.ค. 2552 ต่อไป
การบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหายครม.ชุดที่แล้วได้กำหนดหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือได้แก่ กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลและไม่ได้นอนพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ได้รับเงิน2 หมื่นบาท กรณีบาดเจ็บเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล และนอนพักรักษาตัวไม่เกิน 20 วัน ได้รับเงิน 6 หมื่นบาท กรณีบาดเจ็บสาหัสเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล และนอนพักรักษาตัวเกิน 20วัน ได้รับเงิน 1 แสนบาท กรณีทุพพลภาพไม่สามารถประกอบกิจการงานประจำตามปกติ ได้รับเงิน 2 แสนบาท กรณีเสียชีวิต ได้รับเงิน 4 แสนบาท
ดังนั้น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหาย ได้ติดต่อผู้ได้รับความเสียหายมาลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือระหว่างวันที่ 3 พ.ย.-12 ธ.ค. จำนวน 139 ราย โดย กำหนดให้มารับเงิน ในวันที่ 30 ธ.ค. เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมประชาบดี 1 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งจะมีผู้มารับเงินจำนวน 98 คน เป็นเงิน 4,020,000บาท ส่วนจำนวนที่เหลือจะได้ติดตามแจ้งให้มารับมอบเงินภายในวันที่ 15 ม.ค. 2552 ต่อไป