xs
xsm
sm
md
lg

กกต.เซ็งที่อยู่ใหม่ปัญหาอื้อแฉรักษาความปลอดภัยยาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - กกต.พาเยี่ยมชมสำนักงานใหม่ ส่อแววเสร็จไม่ทัน พนักงานเริ่มป่วยโรคทางเดินหายใจ “เจ๊สด” ฉุนจะให้คนแก่ไปทำงานในที่สภาพแวดล้อมไม่ดีหรือ ประชดอยากให้พนักงานลาพักร้อนยาว "สุทธิพล" แฉรักษาความปลอยภัยยาก เหตุทางเข้าออกได้หลายทาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (25 ธ.ค.)นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. ได้นำสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งใหม่ บริเวณ “ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550” ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งสภาพโดยรวมนั้นอาคารยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี โดยเฉพาะห้องประชุม กกต. และห้องทำงาน กกต. ซึ่งอยู่ในบริเวณชั้น 8 ยังไม่เรียบร้อยโดย ยังไม่ได้ตบแต่งภายใน รวมถึงมีฝุ่นละอองกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้พนักงานส่วนหนึ่งที่มาอยู่ก่อนหน้านี้ ต่างใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง รวมถึงบางคนก็ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตามขณะนี้ฝ่ายจัดการ ก็พยายามเร่งตบแต่งโดยระดมคนงานเข้าไปทำงานในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ก่อนหน้านี้นายสุทธิพลได้ยืนยันว่า กกต. จะสามารถย้ายเข้ามาทำงาน ณ สำนักงานแห่งใหม่นี้ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. รวมถึง กกต. ก็จะเริ่มประชุมในวันเดียวกัน แต่จากสภาพที่เห็นเชื่อได้ว่าการตบแต่งไม่น่าจะเสร็จสิ้นทันตามกำหนดที่นายสุทธิพลระบุอย่างแน่นอน
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. บริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์จำกัด (ธพส.) ซึ่งเป็นบริษัทจัดสร้างศูนย์ราชการนำโดย นาย สุระชัย เอี่ยมวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ ได้เข้าพบ กกต. พื่อรายงานความคืบหน้าและยืนยันว่าในวันที่ 29 ธ.ค.จะส่งมอบพื้นที่ได้เรียบร้อย โดยนาง สดศรี สัตยธรรม และนายสุเมธ อุปนิสากร กกต. ได้สอบถามว่าจะสามารถเข้าไปอยู่ได้ในวันดังกล่าวจริงหรือไม่ เนื่องจากว่าจาการที่ให้เจ้าหน้าที่เริ่มเข้าไปอยู่และให้คนใกล้ชิดเข้าไปดูทำให้ทราบว่าสภาพยังไม่น่าที่จะเข้าไปอยู่ได้ และในวันที่ 30 ธ.ค. ที่เป็นการประชุมนัดแรกจะประชุมได้อย่างไร เพราะชั้น 9 ซึ่งอยู่สูงกว่าสำนักงาน กกต. ขึ้นไปนั้นก็ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ซึ่งทางบริษัทเสนอให้ย้ายห้องประชุมจากชั้นแปดไปเป็นชั้นอื่นก่อนและจะปิดช่องทางฝุ่นไม่ให้กระจายมายังห้องประชุม ถึงอย่างไร กกต. ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเสร็จทันและตรวจรับงานได้จริงในวันที่ 29 ธ.ค. รวมทั้งได้เตือน เลขาธิการ กกต. ได้ตรวจงานให้เรียบร้อยและแน่ใจเสียก่อนที่จะเซ็นรับงาน
ทั้งนี้ มีพนักงานที่เริ่มย้ายเข้ามาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ได้ทำหนังสือมายังเลขาธิการ กกต.ว่าสภาพไม่พร้อมที่จะเข้าอยู่โดยระบุถึงปัญหาที่พบเช่น ฝุ่นละอองหรือการทำความสะอาดที่ยังไม่เรียบร้อย รวมทั้งคนที่แพ้ฝุ่นก็ไม่สามารถทำงานได้และต้องใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองตลอดเวลา แต่เลขาธิการไม่ฟังคำทักท้วงและทำหนังสือกลับไปว่าให้ทำตามคำสั่งเพราะจะไม่ต่อสัญญากับอาคารศรีจุลทรัพย์ที่ตั้งสำนักงาน กกต. เดิม เพื่อประหยัดงบประมาณเพราะที่ใหม่พอจะอยู่ได้ก็ให้มาอยู่กันก่อนทำให้พนักงานต้องอดทนและบางคนมีปัญหาสุขภาพต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
นางสดศรีกล่าวว่า อาคารใหม่ที่จะไปอยู่นั้นตนทราบว่ายังไม่เสร็จสมบูรณ์พร้อมที่จะเข้าไปทำงาน โดยมีพนักงานและคณะอนุกรรมการสืบสวนสวนสอบสวนฯที่ได้เข้ามาทำงานก่อนหน้านี้รายงานให้ตนทราบว่าถึงขนาดที่ประชุมไม่ได้ เพราะประชุมเพียงหนึ่งชั่วโมงก้องเลิกเนื่องจากมีอาการแสบคอแสบจมูก และอย่างนี้จะให้ กกต. ที่แต่ละคนก็อายุมากแล้วไปทำงานกับสภาพที่ไม่สมบูรณ์ได้อย่างไร ซึ่งจริงๆหากอาคารใหม่ยังไม่เสร็จก็สามารถจะต่อสัญญากับอาคารเดิมอีก 2-3 เดือนก็ได้ หากจะมาอ้างว่าทางอาคารเดิมไม่ยอมให้อยู่ต่อก็ฟังไม่ขึ้น นอกจากนี้ตามสัญญา ศูนย์ราชการต้องเสร็จและส่งมอบตั้งแต่เดืนกรกฎาคม แต่กลับล่วงเลยมาจนถึงขนาดนี้ และเมื่อยังเข้าอยู่ไม่ได้ทำไมไม่บอกกันตรงๆ ซึ่งตนเห็นว่าทางบริษัทที่สร้างศูนย์ราชการก็ควรหาที่ให้ กกต.อยู่ก่อนที่อาคารจะเสร็จสมบูรณ์ และเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
“ดิฉันเป็นโรคภูมิแพ้ หากให้มาอยู่ก็คงลำบากดังนั้นคิดว่าช่วงแรกจะยังไม่เข้าไปยังที่ทำงานใหม่ เราก็เห็นใจพนักงานและส่วนตัวอยากให้พนักงานใช้โอกาสลาพักร้อนเสียด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากติดภารกิจเลือกตั้งในวันที่ 11 ม.ค. ไม่อย่างนั้นคงให้พนักงานลาพักร้อนยาวเลย”นางสดศรีกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน ก็ระบุว่าหากใครจะไปก็ไปก่อนเลยส่วนตนเองจะไปเป็นคนสุดท้ายเพราะตนก็แพ้ฝุ่นเช่นกัน
นายสุทธิพลกล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยว่า ที่อาคารแห่งนี้มีทางเข้าออกหลายทางทำให้ยากต่อการรักษาความปลอดภัย โดย กกต.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อจัดระบบรักษาความปลอดภัย โดยมี พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยเป็นประธาน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลรักษาตามจุดสำคัญเพียง 2-3 นายเท่านั้นจากที่ปัจจุบันมีถึง 10 นาย และจะทดแทนด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากบริษัทเอกชน โดยการจ้างบริษัทเอกชนนั้นมีข้อดีคือหากเจ้าหน้าที่คนไหนประพฤติตัวไม่ดีก็สามารถขอให้ทางบริษัทเปลี่ยนตัวได้ สำหรับการรองรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่อาจจะมีขึ้นในอนาคตนั้น ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะที่นี่มีทางออกลับหลายทาง.
กำลังโหลดความคิดเห็น