ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- เครือข่ายพันธมิตรฯ โคราชเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ “คืนสู่เหย้า เฝ้าระวังชาติ” ส่งท้ายปีเก่า 28 ธ.ค.นี้ที่ “ลานย่าโม” ระดมพลฉลองชัยชนะการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์ภาคประชาชนหลังร่วมชุมนุมกู้ชาติ ขับไล่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดแม้วมาราธอน กว่า 6 เดือน พร้อมรำลึกถึงวีรชนคนกล้าและสรุปบทเรียนการต่อสู้ -กำหนดทิศทางเฝ้าระวังชาติเกาะติดรัฐบาล “มาร์ค สายพันธุ์เนวิน” เผยแกนนำฝีปากกล้าชื่อดังร่วมเวทีอื้อ นำทัพโดย “สมศักดิ์-สมเกียรติ-ไชยวัฒน์”
ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ธันวาคม สมัชชาประชาชนภาคอีสานฯ ร่วมกับภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย และองค์กรเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ใน จ. นครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง เช่น ชัยภูมิ, ขอนแก่น, บุรีรัมย์,สุรินทร์, เลย และอุดรธานี ได้กำหนดจัดเวทีปราศรัยครั้งใหญ่ “คืนสู่เหย้า เฝ้าระวังชาติ” เพื่อต้อนรับพี่น้องประชาชนที่ได้เดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่กู้ชาติ ขับไล่รัฐบาลทรราชอันธพาลหุ่นเชิดทักษิณ ที่กรุงเทพฯ ตลอดเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา
การจัดงานครั้งนี้ มีแนวคิดต้องการให้เป็นเวทีคืนสู่เหย้าชาวพันธมิตรฯ โคราชและภาคอีสาน ทุกจังหวัดได้มีโอกาสขึ้นเวทีมาพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมกันสรุปบทเรียนและกำหนดแนวทางการทำงานเฝ้าระวังประเทศชาติบ้านเมืองภายใต้รัฐบาลใหม่ ที่พวกเราเชื่อว่า เหตุการณ์ยังไม่ปกติ
ทั้งนี้เนื่องจากเรามองเห็นที่มาของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ภายใต้การนำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั้น มันค่อนข้างจะผิดปกติพอสมควร และ องค์ประกอบที่จัดตั้งรัฐบาลกันขึ้นมายังมีพฤติกรรมที่เรียกว่า วงจรอุบาทว์ทางการเมืองเช่นเดิม เช่นเดียวกับที่ พรรคไทยรักไทย (ทรท.) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยทำมาก่อน คือ จับขั้วกันอุตลุด และใช้วิธีการบนวิถีทางการเมืองแบบเก่า โดยไม่คำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนหรือเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงแต่ให้สามารถตั้งรัฐบาลเพื่อเข้าสู่อำนาจและผลประโยชน์ได้เท่านั้น
“พวกเราจึงคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าไว้วางใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับมือกับกลุ่ม นายเนวิน ชิดชอบและพวก เป็นสิ่งที่จะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด และไม่กะพริบตาไม่ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นที่มาของการจัดเวที คืนสู่เหย้า เฝ้าระวังชาติ ในวันที่ 28 ธันวาคม 2551 ” ทพ.ศุภผล กล่าว
ทพ.ศุภผล กล่าวต่อว่า การจัดเวทีครั้งนี้ ยังจะเป็นการผนึกกำลังมวลชนของเครือข่ายพันธมิตรฯ ที่ต่อสู้กับระบอบทักษิณ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงของภาคอีสานที่จะเดินทางมาร่วมด้วย คือ จ.สุรินทร์, บุรีรัมย์, ชัยภูมิ,เลย และ อุดรธานี ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ที่สำคัญในการรวมพลังมวลชนครั้งนี้ จะมีการสรุปบทเรียนการต่อสู้ภาคประชาชนที่ผ่านมาตลอด 6 เดือน หรือ 7 ปีของตลอดการดำรงอยู่ของระบอบทักษิณ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ต่าง ๆ จำนวนมาก ฉะนั้นจึงต้องสรุปบทเรียนการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์กันในวันนั้นด้วย
สำหรับสถานที่จัดงาน “คืนสู่เหย้า เฝ้าระวังชาติ” ครั้งนี้ จะจัดขึ้นที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ชุมพล เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เริ่มตั้งแต่ 17.00 น.-24.00 น. ของวันที่ 28 ธันวาคม 2551 โดยมีวิทยากรสำคัญคือ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 1 นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 1 และ นายยุทธิยงค์ ลิ้มเลิศวาที ผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ส่วนศิลปินกู้ชาติที่จะมาสร้างความบันเทิง นำโดย หรั่ง ร็อกเคสตร้า ประทีป ขจัดพาล และ จุ๋ม ด่านเกวียน เป็นต้น
นอกจากนี้ ในวันนั้นจะมีกิจกรรมการฉลองชัยชนะภาคประชาชน ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2552 ซึ่งขณะนี้คณะทำงานกำลังอยู่ระหว่างการออกแบบ รูปแบบของงาน ซึ่งเป็นงานรื่นเริงผสมการปราศรัยทางวิชาการ โดยมีการออกร้านอาหาร สอยดาว รวมถึงบริจาคเงินให้แก่สถานีวิทยุชุมชนที่ยืนหยัดถ่ายทอดสดการชุมนุมพันธมิตรฯ ผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV อย่างต่อเนื่อง และมีอีกหลายกิจกรรม
“ฉะนั้นจึงขอเชิญชวนประชาชนทั้งพันธมิตรฯ และประชาชนผู้รักชาติในโคราชและจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมงานรื่นเริง และฟังการปราศรัยเติมเติมความรู้ทางการเมืองในวันที่ 28 ธันวาคม ซึ่งคนที่มาร่วมงานอาจนำอาหาร เครื่องดื่ม เล็กๆน้อย ๆ มาร่วมงานด้วยก็ได้ จะได้มาร่วมรับประทานฉลองชัยชนะภาคประชาชนส่งท้ายปีเก่าด้วยกัน แบบเป็นกันเอง พร้อมทั้งมารับฟังข้อมูล และกำหนดอนาคตของประเทศไทยร่วมกัน” ทพ.ศุภผล กล่าว