เมื่อหมดน้ำยาทางการเมืองไปแล้ว ใช่ว่าพวก “เสื้อแดง” จะหมดความพยายามที่จะทำให้บ้านเมืองป่วน แต่บัดนี้พวกเขาเริ่มสร้างราคากันอีก
คือนัดกันว่าเปิดสภาฯ และวันที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายและเข้ามาบริหารนั้น เสื้อแดงได้เรียกพวกพ้องมาทุกสารทิศ โดยให้เข้ามาทำจัญไรกับบ้านเมืองครั้งใหญ่
ในการนี้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้แบไต๋ว่า การระดมพลครั้งนี้จะได้ถึงหนึ่งแสนคนและจะไม่ใช่วันเดียวม้วนเดียวจบ แต่มันจะยืดเยื้อยาวนาน
แน่นอนมันจะใช้กำลังไม่ใช่แค่ปาตัวหนอนใส่กระจกรถยนต์ ส.ส.หรือรัฐมนตรี
ส่วนจะเลือดตกยางออก เลือดนองสภาฯ กันมากแค่ไหน
เสื้อแดงยังไม่บอก
แต่ด้วยกมลสันดานที่ชอบใฝ่หาความรุนแรงเป็นความถ่อยอันเป็นคุณสมบัติของอันธพาลเสื้อแดงแล้ว
งานชุมนุมพลพรรคของคนเหล่านี้ไม่จืดแน่
ตำรวจก็คงปล่อยให้มันได้อาละวาดกันสุดฤทธิ์
ไม่มีแก๊สน้ำตา ยิงระเบิด หรือไล่กระทืบแบบที่ตำรวจได้เคยกระทำต่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรอกครับ
นอกจากนี้นายประชา ประสพดี ยังบอกใบ้ในทำนองว่าทักษิณนักโทษเด็ดขาดหนีคดีก็จะกลับไทยมาฉลองคริสต์มาสให้เป็นที่เอิกเกริกโดยไม่กลัวการจับกุมอีกต่างหาก
ความจริงข่าวนี้บอกตรงๆ เป็นข่าวลือ
แต่ไม่รู้จะลือไปหาสวรรค์วิมานทำไม
ในเมื่อคนอย่างทักษิณนั้นไม่กล้ามาให้โดนจับหรือโดนพันธมิตรฯ เหยียบหรอก
พวกเสื้อแดงระบุว่าวันแถลงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์นั้น
อยากแถลงก็ได้
พวกมันก็อยากให้ ส.ส. เดินเข้าสภาฯ ไป
จริงๆ แล้ว แกนนำเสื้อแดงเองก็ไม่อาจคุมพวกมันได้เลย มีแต่พวกมันจะก่อการจลาจลเท่านั้น
สมมติว่า ส.ส.เข้าสภาฯ ไป
พวกเสื้อแดงก็จะปิดล้อมสภาฯ
สรุปคือ พวกมึงเข้าได้ แต่มึงออกมาไม่ได้
นี่เป็นแผนตีหมาจนตรอกครับ
และการปิดล้อมจะยืดยาวไปจนสิ้นเดือนธันวาคม กะว่าให้พวก ส.ส.ฉลองปีใหม่กันภายในสภาฯ ไม่ต้องพบหน้ากับครอบครัวเลยทีเดียว
พวกเสื้อแดงอ้างว่าการปิดล้อมจะทำเป็นจังหวะก้าว โดยมีแกนนำกำกับ ดูแล ควบคุม
ทักษิณก็จะโฟนอิน เข้าทำนองมาให้กำลังใจ
แน่นอนว่าคงจะโยนเงินมาให้แบ่งกันกินสักก้อน เพราะว่าเงินไม่มา งานไม่เดิน
ว่ากันตรงๆ
รู้ๆ กันอยู่แล้ว ทุกครั้งเงินต้องมาก่อน ไม่งั้นโนแอคชั่น
แต่กระนั้นในกลุ่มคนเสื้อแดง ก็ยังมีข่าวว่า พวกในกลุ่มได้แอบไปหาเนวิน เป็นทำนองเห็นดีเห็นงามและเห็นว่าเนวินเอาตัวรอดได้ดี แต่จตุพรหน้าจ๋อย ตีหน้าเขิน แล้วโบ้ยไปว่าเสื้อแดงคนซื้อมาใส่ที่ไหนก็ได้
คือกลัวว่าเกิดความแตกแยก
ความจริงแล้ว แหล่งข่าวล้วนยืนยันว่า เสื้อแดงของแท้ที่ไปหาเนวิน
เพราะคนอย่างเนวิน ก็คือคนจัดตั้งม็อบเสื้อแดงที่เคยขนคนมาหลายคันรถช่วยทำให้เสื้อแดงมีคนมาร่วมนับพันๆ คนมาแล้ว
ก็ไม่แปลกที่เนวินจะมีคนเสื้อแดงที่จะภักดีต่อเขานับพันๆ คน
และคนพวกนี้ภักดีกับเนวิน
แต่ไม่เอาไอ้หน้าค... (เอ๊ย...) ขวดอย่างจตุพรซึ่งไม่มีความหมายอะไรกับคนบุรีรัมย์
พวกเสื้อแดงยังแย้มว่าตำรวจทหารที่ไม่ชอบ ปชป.ก็จะถอดเครื่องแบบมาร่วมกับเสื้อแดงด้วย
ซึ่งต้องยอมรับว่าจริง ก็คือพวกนี้แหละที่เคยยิงระเบิดใส่พันธมิตรฯ มันคือพวกชั่วและถ่อยอยู่ในสันดานอยู่แล้ว
ก็ไม่แปลกอะไรที่จะมาช่วยเสื้อแดง
แต่ทหารตำรวจส่วนใหญ่ เขาไม่เอาด้วย
เพราะพวกเสื้อแดงมันหาได้มีความจงรักภักดีกับสถาบันเบื้องสูง มีแต่ใส่ร้าย อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันมายาวนาน จนต้องถูกคดีหมิ่นสถาบันหลายสิบคดีแล้ว
พอสภาฯ เปิดก็ยังมีประเด็นอีกว่า ใครจะมาเป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน
เพราะเวลานี้ ที่เห็นว่าพอมีแวว ก็มีอยู่แต่เฉลิม อยู่บำรุงเท่านั้น แต่เฉลิมชอบเล่นตัว โดยบอกกับคนทั้งหลายว่า ตนเองไม่พร้อม แต่ถ้าจะให้ตัวเป็นจริงๆ ก็จะเป็นเฉพาะกาลหรือเป็นแบบ “ชั่วคราว” ไปก่อน
ดังนั้นขอให้ไปหาตัวคนที่จะเป็นจริงๆ มาก่อน
เหลิมเห็นว่า ยังมีคนอื่นที่น่าจะเป็นได้
เช่น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ก็ดูจะเหมาะสมเพราะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยเป็นรัฐบาลมาแล้ว
อย่างนี้น่าจะเหมาะกว่า
แต่ว่านายยงยุทธนั้นหาได้เป็น ส.ส.ไม่ พรรคเองก็ให้ทำหน้าที่ประสานกับบรรดาฝ่ายค้าน
ตนเองนั้นนายเฉลิมว่ามีฝีปากชอบอภิปราย แม้ว่าจะดูเหมือนพล่าม แต่คนฟังชอบเวลาที่ตนเองอภิปราย การที่ตนจะมีบทบาทได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต้องลุกขึ้นตอบโต้ได้อย่างเผ็ดร้อนเท่านั้น
คือนัดกันว่าเปิดสภาฯ และวันที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายและเข้ามาบริหารนั้น เสื้อแดงได้เรียกพวกพ้องมาทุกสารทิศ โดยให้เข้ามาทำจัญไรกับบ้านเมืองครั้งใหญ่
ในการนี้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้แบไต๋ว่า การระดมพลครั้งนี้จะได้ถึงหนึ่งแสนคนและจะไม่ใช่วันเดียวม้วนเดียวจบ แต่มันจะยืดเยื้อยาวนาน
แน่นอนมันจะใช้กำลังไม่ใช่แค่ปาตัวหนอนใส่กระจกรถยนต์ ส.ส.หรือรัฐมนตรี
ส่วนจะเลือดตกยางออก เลือดนองสภาฯ กันมากแค่ไหน
เสื้อแดงยังไม่บอก
แต่ด้วยกมลสันดานที่ชอบใฝ่หาความรุนแรงเป็นความถ่อยอันเป็นคุณสมบัติของอันธพาลเสื้อแดงแล้ว
งานชุมนุมพลพรรคของคนเหล่านี้ไม่จืดแน่
ตำรวจก็คงปล่อยให้มันได้อาละวาดกันสุดฤทธิ์
ไม่มีแก๊สน้ำตา ยิงระเบิด หรือไล่กระทืบแบบที่ตำรวจได้เคยกระทำต่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรอกครับ
นอกจากนี้นายประชา ประสพดี ยังบอกใบ้ในทำนองว่าทักษิณนักโทษเด็ดขาดหนีคดีก็จะกลับไทยมาฉลองคริสต์มาสให้เป็นที่เอิกเกริกโดยไม่กลัวการจับกุมอีกต่างหาก
ความจริงข่าวนี้บอกตรงๆ เป็นข่าวลือ
แต่ไม่รู้จะลือไปหาสวรรค์วิมานทำไม
ในเมื่อคนอย่างทักษิณนั้นไม่กล้ามาให้โดนจับหรือโดนพันธมิตรฯ เหยียบหรอก
พวกเสื้อแดงระบุว่าวันแถลงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์นั้น
อยากแถลงก็ได้
พวกมันก็อยากให้ ส.ส. เดินเข้าสภาฯ ไป
จริงๆ แล้ว แกนนำเสื้อแดงเองก็ไม่อาจคุมพวกมันได้เลย มีแต่พวกมันจะก่อการจลาจลเท่านั้น
สมมติว่า ส.ส.เข้าสภาฯ ไป
พวกเสื้อแดงก็จะปิดล้อมสภาฯ
สรุปคือ พวกมึงเข้าได้ แต่มึงออกมาไม่ได้
นี่เป็นแผนตีหมาจนตรอกครับ
และการปิดล้อมจะยืดยาวไปจนสิ้นเดือนธันวาคม กะว่าให้พวก ส.ส.ฉลองปีใหม่กันภายในสภาฯ ไม่ต้องพบหน้ากับครอบครัวเลยทีเดียว
พวกเสื้อแดงอ้างว่าการปิดล้อมจะทำเป็นจังหวะก้าว โดยมีแกนนำกำกับ ดูแล ควบคุม
ทักษิณก็จะโฟนอิน เข้าทำนองมาให้กำลังใจ
แน่นอนว่าคงจะโยนเงินมาให้แบ่งกันกินสักก้อน เพราะว่าเงินไม่มา งานไม่เดิน
ว่ากันตรงๆ
รู้ๆ กันอยู่แล้ว ทุกครั้งเงินต้องมาก่อน ไม่งั้นโนแอคชั่น
แต่กระนั้นในกลุ่มคนเสื้อแดง ก็ยังมีข่าวว่า พวกในกลุ่มได้แอบไปหาเนวิน เป็นทำนองเห็นดีเห็นงามและเห็นว่าเนวินเอาตัวรอดได้ดี แต่จตุพรหน้าจ๋อย ตีหน้าเขิน แล้วโบ้ยไปว่าเสื้อแดงคนซื้อมาใส่ที่ไหนก็ได้
คือกลัวว่าเกิดความแตกแยก
ความจริงแล้ว แหล่งข่าวล้วนยืนยันว่า เสื้อแดงของแท้ที่ไปหาเนวิน
เพราะคนอย่างเนวิน ก็คือคนจัดตั้งม็อบเสื้อแดงที่เคยขนคนมาหลายคันรถช่วยทำให้เสื้อแดงมีคนมาร่วมนับพันๆ คนมาแล้ว
ก็ไม่แปลกที่เนวินจะมีคนเสื้อแดงที่จะภักดีต่อเขานับพันๆ คน
และคนพวกนี้ภักดีกับเนวิน
แต่ไม่เอาไอ้หน้าค... (เอ๊ย...) ขวดอย่างจตุพรซึ่งไม่มีความหมายอะไรกับคนบุรีรัมย์
พวกเสื้อแดงยังแย้มว่าตำรวจทหารที่ไม่ชอบ ปชป.ก็จะถอดเครื่องแบบมาร่วมกับเสื้อแดงด้วย
ซึ่งต้องยอมรับว่าจริง ก็คือพวกนี้แหละที่เคยยิงระเบิดใส่พันธมิตรฯ มันคือพวกชั่วและถ่อยอยู่ในสันดานอยู่แล้ว
ก็ไม่แปลกอะไรที่จะมาช่วยเสื้อแดง
แต่ทหารตำรวจส่วนใหญ่ เขาไม่เอาด้วย
เพราะพวกเสื้อแดงมันหาได้มีความจงรักภักดีกับสถาบันเบื้องสูง มีแต่ใส่ร้าย อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันมายาวนาน จนต้องถูกคดีหมิ่นสถาบันหลายสิบคดีแล้ว
พอสภาฯ เปิดก็ยังมีประเด็นอีกว่า ใครจะมาเป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน
เพราะเวลานี้ ที่เห็นว่าพอมีแวว ก็มีอยู่แต่เฉลิม อยู่บำรุงเท่านั้น แต่เฉลิมชอบเล่นตัว โดยบอกกับคนทั้งหลายว่า ตนเองไม่พร้อม แต่ถ้าจะให้ตัวเป็นจริงๆ ก็จะเป็นเฉพาะกาลหรือเป็นแบบ “ชั่วคราว” ไปก่อน
ดังนั้นขอให้ไปหาตัวคนที่จะเป็นจริงๆ มาก่อน
เหลิมเห็นว่า ยังมีคนอื่นที่น่าจะเป็นได้
เช่น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ก็ดูจะเหมาะสมเพราะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยเป็นรัฐบาลมาแล้ว
อย่างนี้น่าจะเหมาะกว่า
แต่ว่านายยงยุทธนั้นหาได้เป็น ส.ส.ไม่ พรรคเองก็ให้ทำหน้าที่ประสานกับบรรดาฝ่ายค้าน
ตนเองนั้นนายเฉลิมว่ามีฝีปากชอบอภิปราย แม้ว่าจะดูเหมือนพล่าม แต่คนฟังชอบเวลาที่ตนเองอภิปราย การที่ตนจะมีบทบาทได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต้องลุกขึ้นตอบโต้ได้อย่างเผ็ดร้อนเท่านั้น