เมื่อเวลา16.30 น. วานนี้ (22 ธ.ค.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดหลักสูตร "การพัฒนาสัมพันธ์สื่อสารมวลชนเพื่อความมั่นคงของชาติ" รุ่นที่ 5 โดยมีนักจัดรายการวิทยุกระจายเสียงทั่วประเทศเข้าร่วมอบรม เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ให้กับประชาชนรับทราบ โดยอบรมตั้งแต่วันที่ 22–25 ธ.ค.นี้
พล.อ.อภิชาต กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ชาติเราไม่มั่นคงมาก มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่สามารถพูดคุยเรื่องการเมืองภายในครอบครัวได้ ไม่มียุคไหนที่บ้านเมืองตกต่ำเท่านี้มาก่อน ดังนั้น เราต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน ท่านที่มาอบรมมีความสำคัญต้องรับรู้ รับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อสื่อสารกับประชาชนต่อไป ทั้งนี้ เรื่องการหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งเกิดขึ้นค่อนข้างมาก เราไม่เคยได้รับผลกระทบเรื่องนี้มาก่อนเช่นยุคปัจจุบัน
พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร อินเตอร์เน็ตเข้าสู่ชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบล มีการดำเนินการหมิ่นเหม่ต่อความเสียหายกับสถาบันฯ เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เรายินยอมให้เกิดขึ้น ซึ่งสถาบันฯ เป็นสิ่งที่เราต้องยกย่องเทิดทูนไว้เหนือหัว ไม่มีสิ่งใดมาลบเลือนความดีที่พระองค์ท่านเพียรสร้างมาตลอดชั่วชีวิตของพระองค์ท่าน แต่ขณะนี้แม้แต่สถาบันฯ ที่เราเทิดทูนยังหยิบยกมาเป็นประเด็น ทำให้พระองค์ท่านระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เป็นสิ่งที่ไม่อยากเห็นใยยุคที่ตนมีความรับผิดชอบ อยากฝากผู้ที่มาอบรมในฐานะสื่อ ต้องไปดูแลเรื่องนี้ อย่าให้เกิดในชุมชน หากเกิดขึ้นท่านมีหน้าที่ชี้แจงให้ทุกคนเข้าใจว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
"ท่านเห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมางานพิธีสวนสนามถวายสัตย์ของทหารรักษาพระองค์ พระองค์ท่านทรงพระมาลา (หมวก) ตลอด ตั้งแต่เริ่มตรวจพล จนประทับพระที่นั่ง และอ่านสารอวยพรให้กับทหาร พระองค์ท่านไม่ทรงถอดพระมาลา นี่คือแบบอย่างการเป็นทหารของคนในกองทัพ ทุกคนต้องเลียนแบบพระองค์ท่านให้ได้ในเรื่องความเพียร ถามว่าพระองค์ท่านลำบากหรือไม่ ยืนยันว่าลำบาก เพราะพระมาลาที่ท่านสวมต้องบีบรัดพระศรีระ (ศรีษะ) ของพระองค์ท่าน ซึ่งพระองค์ท่านทรงก้มอ่านคำอวยพรโดยพระมาลาไม่ตกลงมา แสดงว่าพระมาลาต้องบีบรัดค่อนข้างมาก พระองค์ท่านทรงสวมตลอด 2 ชั่วโมง นี่คือแบบอย่างความเพียร ที่พระองค์ท่านได้สร้างเป็นแบบอย่างเราทุกคน แม้พระองค์ทรงประชวร แต่ทรงทำให้เราเห็นแบบอย่าง"
นอกจากความมั่นคงของชาติแล้ว ความมั่นคงของสถาบันฯ เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องช่วยกันดูแลให้ความสำคัญ ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ อยากเห็นความสงบของชาติเกิดขึ้นจากทุกคน อยากให้นำสิ่งที่วิทยากร เสนอแนะไปเผยแพร่ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งตนเห็น นายทูน หิรัญทรัพย์ ซึ่งเป็นคนดังมีชื่อเสียงมาร่วมงาน ก็ดีใจ และถามว่าเหตุใดถึงมา ซึ่งนายทูน บอกกับว่า เหตุผลที่มาคือเพื่อชาติ ตนซึ้งและอยากให้ทุกท่านนึกถึงสิ่งนี้ไว้ แล้วทำความเข้าใจกับประชาชน
พล.อ.อภิชาต กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ชาติเราไม่มั่นคงมาก มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่สามารถพูดคุยเรื่องการเมืองภายในครอบครัวได้ ไม่มียุคไหนที่บ้านเมืองตกต่ำเท่านี้มาก่อน ดังนั้น เราต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน ท่านที่มาอบรมมีความสำคัญต้องรับรู้ รับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อสื่อสารกับประชาชนต่อไป ทั้งนี้ เรื่องการหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งเกิดขึ้นค่อนข้างมาก เราไม่เคยได้รับผลกระทบเรื่องนี้มาก่อนเช่นยุคปัจจุบัน
พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร อินเตอร์เน็ตเข้าสู่ชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบล มีการดำเนินการหมิ่นเหม่ต่อความเสียหายกับสถาบันฯ เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เรายินยอมให้เกิดขึ้น ซึ่งสถาบันฯ เป็นสิ่งที่เราต้องยกย่องเทิดทูนไว้เหนือหัว ไม่มีสิ่งใดมาลบเลือนความดีที่พระองค์ท่านเพียรสร้างมาตลอดชั่วชีวิตของพระองค์ท่าน แต่ขณะนี้แม้แต่สถาบันฯ ที่เราเทิดทูนยังหยิบยกมาเป็นประเด็น ทำให้พระองค์ท่านระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เป็นสิ่งที่ไม่อยากเห็นใยยุคที่ตนมีความรับผิดชอบ อยากฝากผู้ที่มาอบรมในฐานะสื่อ ต้องไปดูแลเรื่องนี้ อย่าให้เกิดในชุมชน หากเกิดขึ้นท่านมีหน้าที่ชี้แจงให้ทุกคนเข้าใจว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
"ท่านเห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมางานพิธีสวนสนามถวายสัตย์ของทหารรักษาพระองค์ พระองค์ท่านทรงพระมาลา (หมวก) ตลอด ตั้งแต่เริ่มตรวจพล จนประทับพระที่นั่ง และอ่านสารอวยพรให้กับทหาร พระองค์ท่านไม่ทรงถอดพระมาลา นี่คือแบบอย่างการเป็นทหารของคนในกองทัพ ทุกคนต้องเลียนแบบพระองค์ท่านให้ได้ในเรื่องความเพียร ถามว่าพระองค์ท่านลำบากหรือไม่ ยืนยันว่าลำบาก เพราะพระมาลาที่ท่านสวมต้องบีบรัดพระศรีระ (ศรีษะ) ของพระองค์ท่าน ซึ่งพระองค์ท่านทรงก้มอ่านคำอวยพรโดยพระมาลาไม่ตกลงมา แสดงว่าพระมาลาต้องบีบรัดค่อนข้างมาก พระองค์ท่านทรงสวมตลอด 2 ชั่วโมง นี่คือแบบอย่างความเพียร ที่พระองค์ท่านได้สร้างเป็นแบบอย่างเราทุกคน แม้พระองค์ทรงประชวร แต่ทรงทำให้เราเห็นแบบอย่าง"
นอกจากความมั่นคงของชาติแล้ว ความมั่นคงของสถาบันฯ เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องช่วยกันดูแลให้ความสำคัญ ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ อยากเห็นความสงบของชาติเกิดขึ้นจากทุกคน อยากให้นำสิ่งที่วิทยากร เสนอแนะไปเผยแพร่ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งตนเห็น นายทูน หิรัญทรัพย์ ซึ่งเป็นคนดังมีชื่อเสียงมาร่วมงาน ก็ดีใจ และถามว่าเหตุใดถึงมา ซึ่งนายทูน บอกกับว่า เหตุผลที่มาคือเพื่อชาติ ตนซึ้งและอยากให้ทุกท่านนึกถึงสิ่งนี้ไว้ แล้วทำความเข้าใจกับประชาชน