ททท.หวัง งานเคานต์ดาวน์ปีนี้ เป็นที่พึ่ง กระตุ้นสถานการณ์ท่องเที่ยวกลับมาคึกคักเหมือนเดิม ทุ่ม 18 ล้านบาท จัดงาน 9 แหล่งท่องเที่ยวหลัก ครอบคลุมทั่วประเทศ มั่นใจก่อให้เกิดการเดินทางเฉพาะช่วงวันจัดงานคืนเดียวไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน เงินสะพัดกว่า 2,200 ล้านบาท
นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมใช้งบ 18 ล้านบาท จัดงานเทศกาลเคานต์ดาวน์ ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2551 เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดคนไทย และคนต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย ช่วงไฮซีซั่นนี้ ได้ออกมาเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลส่งความสุขกันอย่างคึกคักและให้ภาพความรื่นเริงที่ออกมาได้ไปสู่สายตาชาวต่างชาติผ่านการถ่ายทอดจากสถานีโทรทัศน์ ต่างประเทศ เช่น CNN ,CNBC ,CCTV เป็นต้น
โดยรูปแบบการจัดงาน ททท. ได้ร่วมมือกับภาคเอกชน อาทิ สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวต่างๆ เซ็ลทรัลเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าเกษรพลาซ่า สยามพารากอน ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย นำสินค้าแบรนด์เนมมาลดราคา 10-70% เป็นการให้ท่องเที่ยวไปพร้อมกับการชอปปิ้ง ในแหล่งที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย มีพื้นที่รวม 1 ล้านตารางเมตร ร้านค้ากว่า 2,000 แห่ง ก่อเกิดเงินหมุนเวียนให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนั้นยังวางแผนจัดงานเคานต์ดาวน์ใหญ่ใน 9 จังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เน้น จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ พัทยา สมุย อุบลราชธานี มุกดาหาร และ สุพรรณบุรี การจัดงานแต่ละแห่งจะแตกต่างกันไป ด้วยนำแสดงภายใต้ธีมวัฒนธรรมของท้องถิ่นในแต่ละแห่ง พร้อมเพิ่มกิจกรรมอื่นๆให้หลากหลาย เพิ่มความสนใจให้แก่นักท่องเที่ยวผู้เข้าชม
"ททท.จะร่วมกับภาคเอกชน ทำการประชาสัมพันธ์อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง ทั้งชาวไทยและต่างชาติ คาดหวังให้งานเคานต์ดาวน์นี้ จะเป็นอีกสาส์นหนึ่งที่จะส่งไปถึงชาวต่างชาติ ให้ได้รับรู้ถึงความสนุกสนานและความหลากหลายในวัฒนธรรมของประเทศไทย รวมถึงความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหามากส่งผลกระทบต่อตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก"
ในส่วนของกรุงเทพมหานคร จะร่วมกับผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ทำการประดับไฟตามถนน บริเวณห้างสรรพสินค้าในย่านนั้นทั้งหมด เพื่อสร้างบรรยากาศให้มีแต่ความสุขเตรียมพร้อมรับปีใหม่ที่จะมาถึง โดยไฟประดับเริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.51-15 ม.ค.52
อย่างไรก็ตาม ททท.ยังมั่นใจว่า ช่วงปลายปี การเดินทางท่องเที่ยว จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะ ขณะนี้สถานการณ์การเมืองกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดี กำลังมีการจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้คนไทยคลายความกังวล และเริ่มวางแผนการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวสิ้นปีนี้ จากการจัดงานเคานต์ดาวน์ ของ ททท. คาดว่าจะส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ในช่วงจัดงานไม่น้อยกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ เกิดรายได้สะพัดกว่า 2,200 ล้านบาท ในช่วงคืนที่จัดเคานต์ดาวน์
นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมใช้งบ 18 ล้านบาท จัดงานเทศกาลเคานต์ดาวน์ ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2551 เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดคนไทย และคนต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย ช่วงไฮซีซั่นนี้ ได้ออกมาเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลส่งความสุขกันอย่างคึกคักและให้ภาพความรื่นเริงที่ออกมาได้ไปสู่สายตาชาวต่างชาติผ่านการถ่ายทอดจากสถานีโทรทัศน์ ต่างประเทศ เช่น CNN ,CNBC ,CCTV เป็นต้น
โดยรูปแบบการจัดงาน ททท. ได้ร่วมมือกับภาคเอกชน อาทิ สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวต่างๆ เซ็ลทรัลเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าเกษรพลาซ่า สยามพารากอน ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย นำสินค้าแบรนด์เนมมาลดราคา 10-70% เป็นการให้ท่องเที่ยวไปพร้อมกับการชอปปิ้ง ในแหล่งที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย มีพื้นที่รวม 1 ล้านตารางเมตร ร้านค้ากว่า 2,000 แห่ง ก่อเกิดเงินหมุนเวียนให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนั้นยังวางแผนจัดงานเคานต์ดาวน์ใหญ่ใน 9 จังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เน้น จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ พัทยา สมุย อุบลราชธานี มุกดาหาร และ สุพรรณบุรี การจัดงานแต่ละแห่งจะแตกต่างกันไป ด้วยนำแสดงภายใต้ธีมวัฒนธรรมของท้องถิ่นในแต่ละแห่ง พร้อมเพิ่มกิจกรรมอื่นๆให้หลากหลาย เพิ่มความสนใจให้แก่นักท่องเที่ยวผู้เข้าชม
"ททท.จะร่วมกับภาคเอกชน ทำการประชาสัมพันธ์อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง ทั้งชาวไทยและต่างชาติ คาดหวังให้งานเคานต์ดาวน์นี้ จะเป็นอีกสาส์นหนึ่งที่จะส่งไปถึงชาวต่างชาติ ให้ได้รับรู้ถึงความสนุกสนานและความหลากหลายในวัฒนธรรมของประเทศไทย รวมถึงความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหามากส่งผลกระทบต่อตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก"
ในส่วนของกรุงเทพมหานคร จะร่วมกับผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ทำการประดับไฟตามถนน บริเวณห้างสรรพสินค้าในย่านนั้นทั้งหมด เพื่อสร้างบรรยากาศให้มีแต่ความสุขเตรียมพร้อมรับปีใหม่ที่จะมาถึง โดยไฟประดับเริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.51-15 ม.ค.52
อย่างไรก็ตาม ททท.ยังมั่นใจว่า ช่วงปลายปี การเดินทางท่องเที่ยว จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะ ขณะนี้สถานการณ์การเมืองกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดี กำลังมีการจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้คนไทยคลายความกังวล และเริ่มวางแผนการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวสิ้นปีนี้ จากการจัดงานเคานต์ดาวน์ ของ ททท. คาดว่าจะส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ในช่วงจัดงานไม่น้อยกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ เกิดรายได้สะพัดกว่า 2,200 ล้านบาท ในช่วงคืนที่จัดเคานต์ดาวน์
