เอเอฟพี/รอยเตอร์ - บรรดาบริษัทจากรัสเซีย, จีน, และเม็กซิโก เป็นพวกที่มักใช้วิธีติดสินบนกันมากที่สุดเมื่อไปทำธุรกิจในต่างแดน ทั้งนี้ตามรายงานขององค์การเพื่อความโปร่งใสระหว่างประเทศ (Transparency International หรือ TI) ซึ่งนำออกเผยแพร่วานนี้(9)
องค์การเฝ้าติดตามการทุจริตคอร์รัปชั่นในทั่วโลกแห่งนี้ จัดทำ "ดัชนีการจ่ายสินบนปี 2008" (2008 Bribe Payers Index) โดยทำการสัมภาษณ์พวกผู้บริหารระดับสูงของภาคธุรกิจจำนวน 2,742 คน ในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อนำมาใช้จัดอันดับประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดทางด้านเศรษฐกิจของโลกจำนวน 22 ประเทศ ในเรื่องความโน้มเอียงที่บริษัทในชาติเหล่านี้จะไปติดสินบนในต่างประเทศ
ในการจัดอันดับซึ่งจะมีการให้คะแนนระหว่าง 0 ถึง 10 โดยยิ่งได้คะแนนน้อย ก็แสดงว่าบริษัทในประเทศนั้นๆ ยิ่งน่าที่จะติดสินบนกันมากนั้น ปรากฏว่า รัสเซียเป็นชาติที่ได้คะแนนต่ำที่สุดคือ 5.9 ติดตามมาด้วย จีนซึ่งได้ 6.5, เม็กซิโก 6.6, และอินเดีย 6.8 ซึ่งแสดงว่าบริษัทของชาติเหล่านี้ ถูกมองว่าน่าจะมีการไปติดสินบนในต่างแดนกันสูงที่สุด
สำหรับอีกข้างหนึ่งของดัชนี เบลเยียม และ แคนาดา ได้คะแนนสูงที่สุดคือ 8.8 เท่าๆ กัน จึงเป็นประเทศที่พวกบริษัทต่างๆ มีการไปติดสินบนในต่างประเทศน้อยที่สุด ติดตามมาด้วย เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งครองอันดับ 3 ร่วม ด้วยคะแนนเท่ากันที่ 8.7 ถัดจากนั้นจึงเป็น เยอรมนี, อังกฤษ, และญี่ปุ่น ซึ่งต่างก็ได้ 8.6 แล้วจึงเป็นออสเตรเลียที่ได้ 8.5 และฝรั่งเศส กับ สิงคโปร์ ที่ต่างได้ 8.1 ทั้งคู่
ในการจัดทำดัชนีเช่นนี้ครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้คือเมื่อปี 2006 ปรากฏว่าประเทศที่ได้คะแนนแย่ที่สุดคืออินเดีย โดยได้แต้มต่ำกว่าจีนและรัสเซียนิดหน่อย ขณะที่พวกที่ทำคะแนนได้สูงที่สุด ก็คือ สวิตเซอร์แลนด์, สวีเดน, และออสเตรเลีย
นอกจากนั้น การสำรวจคราวล่าสุดนี้ยังพบว่าอุตสาหกรรมที่ถูกมองว่าน่าจะมีการติดสินบนในต่างประเทศกันสูงที่สุด ได้แก่พวกบริษัทในกิจการด้านงานโยธาและก่อสร้าง, อสังหาริมทรัพย์, น้ำมันและก๊าซ, อุตสาหกรรมหนัก, และเหมืองแร่
ขณะที่อุตสาหกรรมซึ่งถูกมองว่าสะอาดโปร่งใสกว่าเพื่อน ได้แก่พวกกิจการในภาคเทคโนโลยีสารสนเทศ, การประมง, และภาคการเงินการธนาคาร
ถึงแม้พวกกิจการในภาคการเงินการธนาคาร จะถูกมองว่ามีความโน้มเอียงยิ่งกว่าบริษัทในอุตสาหกรรมอื่นๆ ในเรื่องการหาทางใช้อิทธิพลอันไม่เหมาะสมต่อการกำหนดนโยบายของรัฐบาล
องค์การเฝ้าติดตามการทุจริตคอร์รัปชั่นในทั่วโลกแห่งนี้ จัดทำ "ดัชนีการจ่ายสินบนปี 2008" (2008 Bribe Payers Index) โดยทำการสัมภาษณ์พวกผู้บริหารระดับสูงของภาคธุรกิจจำนวน 2,742 คน ในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อนำมาใช้จัดอันดับประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดทางด้านเศรษฐกิจของโลกจำนวน 22 ประเทศ ในเรื่องความโน้มเอียงที่บริษัทในชาติเหล่านี้จะไปติดสินบนในต่างประเทศ
ในการจัดอันดับซึ่งจะมีการให้คะแนนระหว่าง 0 ถึง 10 โดยยิ่งได้คะแนนน้อย ก็แสดงว่าบริษัทในประเทศนั้นๆ ยิ่งน่าที่จะติดสินบนกันมากนั้น ปรากฏว่า รัสเซียเป็นชาติที่ได้คะแนนต่ำที่สุดคือ 5.9 ติดตามมาด้วย จีนซึ่งได้ 6.5, เม็กซิโก 6.6, และอินเดีย 6.8 ซึ่งแสดงว่าบริษัทของชาติเหล่านี้ ถูกมองว่าน่าจะมีการไปติดสินบนในต่างแดนกันสูงที่สุด
สำหรับอีกข้างหนึ่งของดัชนี เบลเยียม และ แคนาดา ได้คะแนนสูงที่สุดคือ 8.8 เท่าๆ กัน จึงเป็นประเทศที่พวกบริษัทต่างๆ มีการไปติดสินบนในต่างประเทศน้อยที่สุด ติดตามมาด้วย เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งครองอันดับ 3 ร่วม ด้วยคะแนนเท่ากันที่ 8.7 ถัดจากนั้นจึงเป็น เยอรมนี, อังกฤษ, และญี่ปุ่น ซึ่งต่างก็ได้ 8.6 แล้วจึงเป็นออสเตรเลียที่ได้ 8.5 และฝรั่งเศส กับ สิงคโปร์ ที่ต่างได้ 8.1 ทั้งคู่
ในการจัดทำดัชนีเช่นนี้ครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้คือเมื่อปี 2006 ปรากฏว่าประเทศที่ได้คะแนนแย่ที่สุดคืออินเดีย โดยได้แต้มต่ำกว่าจีนและรัสเซียนิดหน่อย ขณะที่พวกที่ทำคะแนนได้สูงที่สุด ก็คือ สวิตเซอร์แลนด์, สวีเดน, และออสเตรเลีย
นอกจากนั้น การสำรวจคราวล่าสุดนี้ยังพบว่าอุตสาหกรรมที่ถูกมองว่าน่าจะมีการติดสินบนในต่างประเทศกันสูงที่สุด ได้แก่พวกบริษัทในกิจการด้านงานโยธาและก่อสร้าง, อสังหาริมทรัพย์, น้ำมันและก๊าซ, อุตสาหกรรมหนัก, และเหมืองแร่
ขณะที่อุตสาหกรรมซึ่งถูกมองว่าสะอาดโปร่งใสกว่าเพื่อน ได้แก่พวกกิจการในภาคเทคโนโลยีสารสนเทศ, การประมง, และภาคการเงินการธนาคาร
ถึงแม้พวกกิจการในภาคการเงินการธนาคาร จะถูกมองว่ามีความโน้มเอียงยิ่งกว่าบริษัทในอุตสาหกรรมอื่นๆ ในเรื่องการหาทางใช้อิทธิพลอันไม่เหมาะสมต่อการกำหนดนโยบายของรัฐบาล